๓ เหตุเกิดเพราะเหล้าแก้วนั้น
ด้วยฤทธิ์แห่งยาพิศวาสปลุกไฟกำหนัดให้ให้ลุกโชนจนยากจะขัดขืน ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปจนสุดทางแห่งปรารถนา ไม่ว่าเส้นทางนี้จะขึ้นเขาหรือลงห้วยเขาก็ไม่หวั่น ไม่สนแม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าคือผู้หญิงที่ควรหลีกเลี่ยงและเขาก็หนีห่างมาโดยตลอด สนเพียงอย่างเดียวคือหลังจากนี้ต่อไปการปลดปล่อยคือจุดบรรลุอันสูงสุดของเขา!
“อื้อ! ปะ… ปล่อยนะ!” พยายามต่อต้านด้วยแรงเพียงน้อยนิดเมื่อเสื้อตัวนอกถูกกระชากออกไปแล้ว และบราเซียร์รวมทั้งซับในตัวนิดก็กำลังจะถูกกำจัดออกไปเช่นกัน อัคคีใช้สายตาที่คิดว่ากำลังพร่ามัวกวาดมองเรือนร่างทรงนาฬิกาทรายด้วยความรู้สึกตื่นระทึก เขากระหายในร่างกายอันขาวผ่อง ความอวบอิ่มนวลเนียนทำให้เขาตื่นตัวสุดจะยั้งกายยั้งใจไหว
“สวย…”
“อย่า! ไม่ ไม่ใช่แบบนี้นะ” มธุรสเบี่ยงตัวหนีเมื่อชายหนุ่มพยายามตรึงหล่อนไว้กลางเตียง ดวงตาคมกว้างหรี่มองเจ้าของร่างเกือบเปลือยด้วยความกระหายในรสรัก เขาไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็จริง แต่เวลานี้มีหลายอย่างพร่างพรายเข้ามาในตัวเขา ความต้องการอันเกินขีดจำกัดแบบนี้ชวนครุ่นคิดหากอยู่ในยามปกติ ทว่าเวลานี้สิ่งที่เขาคิดได้นึกออกมีเพียงการฝากฝังตัวตนลงสู่กายงามละเอียดขาวอวบของมธุรสให้หนำใจ แล้วปลดปล่อยความกระหายลงไปซ้ำๆ จนกว่าจะพอใจ!
“ฉันไม่สน! มานี่แม่ตัวดี เธอเป็นคนเข้ามาหาฉันเอง เพราะฉะนั้นอย่าพยายามบ่ายเบี่ยงเรียกร้องความสนใจ เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างเธอผ่านใครต่อใครมาเยอะแล้ว ลองฉันอีกคนก็คงไม่เสียหายหรอกมั้ง? จะว่าไป เธอเองพยายามยั่วยวนฉันมาตลอดอยู่แล้วนี่ แล้วมาตอนนี้จะกระบิดกระบวนให้ได้อะไรเล่า เรามาสนุกให้สุดเหวี่ยงกันดีกว่า ฉันรับรองว่าคืนนี้จะทำให้เธอรู้จักคนอย่างนายอัคคีคนนี้มากขึ้น!”
“ไม่นะคะอาเพลิง อื๊อ!!” แล้วบราสีหวานก็ถูกกระตุกออกจากยวงเนื้ออวบงาม มธุรสหน้าแดงก่ำ ร้อนวูบวาบตลอดร่าง พยายามบิดตัวหนีมือหนาที่เลื่อนไล้ผ่านหน้าท้องแบนราบลงไปยังซับในตัวจิ๋ว แต่แล้วทุกอย่างก็ไร้ความหมาย เมื่อขอบผ้าผืนน้อยถูกนิ้วเรียวแข็งแกร่งกระชากเพียงครั้งเดียวมันก็เลื่อนหลุดลงไปสิ้นสุดยังปลายเท้า!
อัคคีกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก เขารู้อยู่แล้วว่าหล่อนสวยหยาดฟ้า แต่ไม่คิดว่าจะงดงามไปตลอดเรือนร่างตั้งแต่เส้นผมจดปลายเท้าเช่นนี้ ไม่มีที่ใดให้เขาติได้เลยสักนิด ให้ตายเถอะ! แต่น่าเสียดาย เพราะเรือนร่างที่ดูเหมือนว่ายังไม่เคยถูกรอยราคีของผู้ใดป้ายลงมาให้แปดเปื้อนจะผ่านอะไรต่อมิอะไรมาไม่รู้จักเท่าไรแล้ว และนี่คือความจริงอันน่าเสียดายยิ่ง!
“สวยมากหวาน เธอสวยจนฉัน…” เสียงทุ้มสั่นพร่าจนหญิงสาวนิ่งขึงโดยไม่รู้สาเหตุ หน้าท้องงดงามไร้ไขมันส่วนเกินเกร็งเพื่อรอรับอะไรบางอย่างจากเขา ความจริงหล่อนต้องดินรนขัดขืนสุดความสามารถ ทว่าเวลานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย มธุรสไม่เข้าใจตนเองสักนิด จริงอยู่หล่อนต้องการเขามาเป็นสามีจนเนื้อตัวสั่น ทว่ากลับลืมคิดว่าไปว่าคนที่ต้องเป็นสามีภรรยานั้นเขาจะต้องมีกิจกรรมสุดหรรษาที่ต้องทำร่วมกันด้วย และเวลานี้หล่อนก็กำลังถูกบังคับให้ร่วมกิจกรรมหรรษานั้นกับคนที่หล่อนหมายปอง
แต่! ใช่… แต่มันยังไม่ถึงเวลานี่นา หล่อนแค่อยากประกาศให้ใครต่อใครรับรู้ว่าเขาคือคนของหล่อน แต่ยังไม่ได้อยากจะทำกิจกรรมอย่างว่ากับเขาสักหน่อย!
“อาเพลิง ไม่นะคะ หวานยังไม่พร้อม อาเพลิงหยุดนะคะ อาเพลิงไม่ง่วงบ้างหรือไงนะ?” ผงกศีรษะขึ้นตะโกนใส่หน้าอัคคีแล้วก็ทิ้งศีรษะลงบนหมอนใบโตลงไปอีกพร้อมกับอาการหอบสะท้านด้วยความตื่นเต้นระคนขลาดกลัว…
ทว่าอัคคีดูเหมือนจะไม่ตอบสนองหล่อนสักเท่าไรนัก เพราะนัยน์ตาคมที่เคยมองอย่างเหยียดๆ หรือไม่ก็ไม่แยแสกลับหยาดเยิ้มผิดปกติ เขามองหล่อนราวจะกลืนกินลงไปได้ทั้งตัวกระนั้น
“ฉันไม่รู้สึกง่วงสักนิด ที่สำคัญ ตอนนี้ฉันตาสวางอย่างที่ไม่เคยสว่างมาก่อนเลยละ!”
“หา?!” เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ด้ายย “อ๊าย! อย่าไม่เอา อาเพลิงอย่า อื้อ…”
สะดุ้งเฮือกจนปทุมงามไร้ราคีหยัดขึ้นหาใบหน้าคมคาย จากตั้งใจจะถอยหนีก็กลับกลายเป็นว่าส่งเนื้อเข้าปากเสือเสียนี่ เมื่อยอดถันสีทับทิมสุกถูกส่งตรงเข้าปากได้รูปที่เผยออ้าออกรับยอดบัวตูมพอดิบพอดี!
“อื๋อ…” ครางโหยเมื่อยอดถันสีหวานถูกปลายลิ้นร้อนรุ่มดูดเลียราวทารกกระหายน้ำนมจากมารดาก็มิปาน ประสบการณ์แรกจากชายที่รักผาดโผนโจนทะยานกว่าที่คิด จากที่จินตนาการไว้ว่าต้องอ่อนโยน อ่อนหวานค่อยเป็นและค่อยไปก็กลับกลายเป็นฮาร์ตคอร์!
เพราะขณะที่ใบหน้าคมเกลือกกลิ้งอยู่กับทรวงอวบงามของหล่อน ริมฝีปากของเขาก็ดูดดื่มไล้เลียอย่างไม่ปรานีปราศรัย มือไม้ก็เกะกะระรานไปทั่ว เริ่มจากการก่อกวนยั่วอารมณ์ด้วยการสะกิดเย้าที่ปลายยอดอ่อนไหวสลับขยำขยี้เนินเนื้ออวบหยุ่นอย่างไม่ออมมือ ซ่านเสียวเป็นพักๆ แต่เดี๋ยวก็สะดุ้งขึ้นอีกเมื่อเขาเผลอหนักมือกับดอกบัวของหล่อน
“อย่าอาเพลิง! หวานเจ็บนะ!” ทั้งโกรธทั้งหวามน้ำตาคลอคลองเมื่อเขากระทำการอันอุกอาจเหลือเกิน บอกก็แล้ว ขอร้องก็แล้วแต่เขาก็ไม่หยุด ไม่รู้ผีห่าซาตานที่ไหนดลใจให้เขาปล้ำหล่อน!
“อืม… อื้ม” เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่งที่หล่อนโอบรัดอย่างเผลอไผล มือข้างที่เล้าโลมยอดทรวงดูจะเบาลงเมื่อถูกประท้วงก่อนย้ายฐานลงไปยังหน้าท้องเนียนมือ เขาลูบคลำย่ามใจอยู่พักใหญ่แล้วเลื่อนไล้ลงไปยังเนินนูนอิสตรี มธุรสเบี่ยงสะโพกหนีด้วยความตกใจไม่น้อยเมื่อจู่ๆ ส่วนสาวที่หวงแหนก็ถูกจู่โจมด้วยการวางมือเรียวยาวของเขาทาบลงไปชนิดที่เรียกได้ว่าเต็มไม้เต็มมือ!
แน่นอน… สาวบริสุทธิ์เช่นมธุรสย่อมสะดุ้งสะเทือนกับสิ่งแปลกปลอมที่ตะปบลงมาบนสัดส่วนสงวนอยู่แล้ว
“ว้าย! ยะ… อย่านะ เอามือออกไปนะอาเพลิง!” ร้องลั่นๆ พลางดิ้นขลุกขลักใต้ร่างหนาใหญ่ของเขาอย่างบ้าคลั่ง ส่วนบนพอทำเนา ทว่าส่วนล่างนี้ไม่ได้เลย หล่อนไม่ยอมเด็ดขาดยังไงก็ไม่ยอม!
“อย่าดิ้นนะ!” เจ้าของเสียงทุ้มคำรามกร้าว ซ้ำยังเบียดกายทาบทับแบบเต็มตัว ทำเอาคนตัวบางร่างเล็กถึงกับหายใจแทบไม่ออก
“โอ๊ย! อาเพลิงลงจากตัวหวานเดี๋ยวนี้นะ! หวานหายใจไม่ออกโอ๊ย!” หลับหูหลับตาร้อง ไม่สนใจหรอกว่ามือกับปากของเขาจะทำอะไรอยู่บนตัวหล่อน รู้เพียงแต่ว่าเวลานี้ต้องหนีเอาตัวรอดจากการสูญเสียพรหมจรรย์ให้ได้เสียก่อน!
ทว่ารำคาญมากๆ เข้าอัคคีก็เปลี่ยนจากอกอวบไปเป็นปากหวานที่กรีดร้องดังลั่นนั่นแทน เสียงหวานแหลมที่หวีดร้องเงียบลงโดยพลัน จากโหวกเหวกเป็นอึกอักในลำคอเมื่อถูกคนปากร้ายครอบครองเก็บเสียง ปมผ้าขนหนูที่พันรอบกายท่อนล่างเริ่มคลายออก ยิ่งเมื่อเจ้าของร่างระหงเปลือยเปล่าดิ้นมากเท่าไรก็คล้ายจะคลายออกมากเท่านั้น แต่เขาไม่สนอาการดิ้นรนของหญิงสาวเลยสักนิด มือข้างที่กอบกุมทรวงนุ่มลูบไล้ไปทั่วผิวละมุนมือ อีกมือก็คลึงเคล้าลูบไล้อยู่ที่เนินนุ่ม ก่อนจะใช้เข่าดันท่อนขาเรียวยาวของหญิงสาวให้แยกออกห่างเพื่อเปิดทางสวรรค์…
“อื้อ…” มธุรสครางอู้เมื่อเรียวปากหวานล้ำถูกปลดปล่อยพร้อมกับนิ้วเรียวแกร่งที่กรีดไล้ไปตามรอยแยกของเนินบุบผาสวรรค์ ใบหน้างามแหงนเงยครวญครางอย่างสุดกลั้นต่างจากใบหน้าคมคายที่ซุกไซ้ต่ำลงยังซอกคอ ฉกลิ้นไล้เลียเป็นระยะ พร้อมกับงับปากดูดดื่มผิวกายอันหอมกรุ่นไม่หยุดหย่อน…
“หวาน… เธอหวานสมชื่อ” เขาพึมพำแผ่วพร่า กดนิ้วที่กรีดผาดๆ ลงลึกสู่ซอกลับ ก่อเกิดความเสียวซ่านแก่คนใต้ร่างจนเผลอแอ่นหยัดรับสัมผัสเพราะความวาบหวาม เช่นเดียวกับเรียวขายาวเนียนที่ค่อยๆ แยกห่างออกอย่างลืมตัวเพราะความกระสันที่ถาโถมเข้าใส่ ความหวาดหวั่น ความตื่นกลัวค่อยๆ มลายหายไปทีละนิด และถูกแทนที่ด้วยความหฤหรรษ์ปรีดิ์เปรมจนยากจะทัดทาน จากที่พยายามยับยั้งการสูญเสียพรหมจรรย์เอาไว้ก็กลับกลายเป็นเสนอสนอง ไม่อยากเชื่อว่าตรงนั้นที่เขากำลังเขี่ยคลึงด้วยปลายนิ้วจะก่อเกิดความรู้สึกมหัศจรรย์ได้มากขายขนาดนี้