ป่าเถื่อน

1163 Words
ตอนที่4 “เชนทร์ ทำไมนายไม่จีบณิชาให้เป้นเรื่องเป็นราวไปเลยหล่ะ” คำถามของมินตราทำให้ณิชารู้สึกอึดอัด คำพูดที่แสนดูถูกจากโชนยังดังก้องอยู่ในสมอง “อย่าคิดมาหลอกไอ้เชนทร์” “ไม่กล้าจีบหรอก กลัวเสียเพื่อน” “คือ..ยังไงอ่ะ นายไม่ได้ชอบณิชาหรอ” “กลัวผิดหวัง ฉันไม่ใช่สเปกณิชาหรอก” “ณิชา ไม่ชอบเชนทร์หน่อยหรอ” “แก้ม ถามอะไรเนี่ย” “ก็ไหนๆ เชนทร์ก็พูดแล้วอ่ะ เปิดใจกันไปเลย” “เพื่อนกันก็ดีอยู่แล้วเนอะ” คำตอบของณิชาไม่ได้ผิดจากที่เขาคิดไว้เท่าไร เขาเพียงแค่รู้สึกดีกับณิชาในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ภาพพี่ชายฝาแฝดลูบผมณิชาพร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนใสซื่อของเธอทำไห้ใครบางคนเกิดความไม่พอใจ ครั้งหนึ่งเขาเคยหลงรักผู้หญิงนิสัยแบบนี้ แต่มันก็เป็นแค่ภาพลวงตาที่ผู้หญิงคนนั้นสร้างขึ้นมาหลอกเขา ..... “โชนมันไปไหนของมัน ไม่ใช่ไปแอบร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกแล้วนะ” กวินนาชะเง้อหาเพื่อนอีกคนแต่ก็ไร้วี่แวว “ถ้าอยู่กรุงเทพนะ ป่านนี้เมาหัวทิ่มไปแล้ว” “โชนเคยร้องไห้ด้วยหรอแก้ม” ณิชาถามขึ้นด้วยความสงสัย คนเย็นชาอย่างโชนเคยเสียใจกับเขาด้วยหรือ “ณิชาต้องไม่เคยรู้ความลับนี้มาก่อนแน่ๆ โชนเคยโดนผู้หญิงหลอกให้รักด้วยนะ” “แล้วโชนก็รักเขาหรอ” “หัวปักหัวปลำเลยแหละ แต่ยัยนั่นเข้าหาโชนเพราะพนันกับเพื่อน” มินตราพูดเสียงเบาหวิวกลัวเจ้าตัวเขาจะมาได้ยิน ณิชาเพิ่งได้รู้ความลับของเขาก็นิ่งงันไปชั่วขณะ คนฉลาดอย่างเขาไม่น่าจะโดนใครหลอกได้เลย “ยัยนั่นน่ะท่าทางนุ่มนิ่ม คล้ายๆ เธอแหละณิชา” “แต่เราไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นซะหน่อย” “หื้ม? เธอพูดว่าไงนะ” กวินนาเงี่ยหูฟังใกล้เธอเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ไม่ถนัด “ปะ..เปล่า เราไปรอที่โรงนอนนะ จะไปหาสัญญาณโทรหาแม่ด้วย” “อย่าเดินไปไกลนะ มืดแล้วเดี๋ยวหลง” หญิงสาวเดินไปตามทางที่มีแสงจากหลอดไฟโซล่าเซลล์ที่ชาวบ้านห้อยไว้ตามต้นไม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เหล่านักศึกษา จนก่อนจะถึงโรงนอนเธอหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อดูว่าพอจะมีสัญญาณบ้างหรือเปล่า “อื้อออออ” จู่ๆ เธอก็ถูกบุคคลปริศนาปิดปากด้วยมือหนาและลากเธอหายไปในความมืด ณิชาพยายามดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้ หากต้องโดนข่มขืนเธอยอมตายเสียดีกว่า ปึก! “ช่วยด้ว...อื้ออออ” ทันทีที่ถูกเหวี่ยงจนแผ่นหลังกระแทกกับต้นไม้ใหญ่เธอก็ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ เธอถูกเขาคนนั้นบดจูบอย่างป่าเถื่อน หญิงสาวไม่สนใจคาวเลือดที่คละคลุ้งในโพรงน่าสะอิดสะเอียน เธออยากหลุดพ้นจากการกระทำต่ำทรามนี้ แต่ก็เป็นไปได้อยาก เพราะเธอถูกเบียดกับต้นไม้ใหญ่จนแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งสองมือถูกขึงพรืดอยู่เหนือหัว ไหนจะปากที่ไม่มีโอกาสได้ร้องเพราะกำลังถูกคนใจทรามจูบอย่างรุนแรง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลราวเม็ดฝนแต่ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็นมันจากความมืดในป่าแห่งนี้ ที่ไม่ได้ไกลจากทางเดินไปโรงนอนเลย พรึ่บ! จู่ๆ ชายคนนั้นก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ หญิงสาวรีบวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อให้ถึงหลอดไฟที่ส่องสว่างระหว่างทางโดยไม่สนว่าต้องฝ่าดงกิ่งไม้และหนามแหลมคมมากมายขนาดไหน ..... ชายที่ยืนอยู่ในความมืดรู้สึกได้ว่าหญิงสาวร้องไห้เพราะกลัวเขาจับใจจึงยอมปล่อย ณิชาที่ยืนอยู่ใกล้หลอดไฟส่องสว่างมองกลับมาที่เขาทั้งที่ยังหอบหายใจพลางปาดน้ำที่ใบหน้าก่อนจะวิ่งกลับไปที่โรงนอนของผู้หญิง หญิงสาวนอนร้องไห้อย่างเสียขวัญแต่ก็ไม่มีใครรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเพื่อน เพราะที่โรงนอนมีแต่ความมืดมิด เช้าวันต่อมา..... หญิงสาวไม่ได้บอกใครเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อคืน อาจจะเป็นนักศึกษาด้วยกัน หรือเป็นชาวบ้านที่นี่ก็ได้ แต่บาดแผลที่ขาเรียวขาวคงต้องหาเหตุผลมาแก้ต่างกับเพื่อนสาทั้งสองคน “เดินยังไงให้ร่วงเข้าไปในป่ากันนะ นี่ขนาดเธอใส่กางเกงขายาวยังเจ็บขนาดนี้” กวินนาบ่นอุบขณะที่ใช้ก้านลำลีชุบยาทาที่แผลให้เธอ “อย่าบ่นเลยนะจะได้ไปช่วยเขาทำงานกัน” ..... งานซ่อมบำรุงอาคารเอนกประสงค์ขนาดเล็ก และห้องเรียนบางห้องที่เสียหายเพราะความรุนแรงของพายุเมื่อหลายเดือนที่แล้วจะต้องแล้วเสร็จภายในวันนี้ ทุกคนจึงช่วยกันจนแทบไม่มีเวลาพัก “ณิชาขอตะปูหน่อยสิ” ณิชาวางแปรงทาสีในมือลงเมื่อเพื่อนชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนบันไดวานให้เธอหยิบตะปูให้ “แหม นั่งกันอยู่ตั้งสามคนเรียกใช้แต่ณิชานะ” ขายหนุ่มรับถุงตะปูจากณิชาด้วยรอยยิ้ม เธอน่ารักดีในความคิดของเขา “ต้องการอะไรอีกก็เรียกเราได้เลยนะ” “ครับ” ปัก! “อะไรของมึงวะโชน ตอกเสียหมดแล้วน่ะ ลงมาเลยกูทำเอง” โชนกระโดดลงจากบันไดจนคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นใจหายวาบ “ส่งค้อนกับตะปูมาให้กู” โชนยื่นกระเป๋าคาดเอวที่ใส่อุปกรณ์ให้เพื่อนที่ทำหน้าที่แทนตัวเอง “เป็นอะไรของมึง ไปดูทำอย่างอื่นไป” แฝดพี่ว่าอย่างนั้นชายหนุ่มจึงเดินเลี่ยงออกมาห่างจากกลุ่มเพื่อน “คืนก่อนเอากับไอ้เชนทร์ วันนี้อ่อยอีกคน เหอะ” ..... หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้น เดย์พยายามขอเบอร์มือถือของณิชา แต่ก็ถูกปฏิเสธ กระนั้นคนมีอคติก็ยังมองว่าเธอเพียงแค่เล่นตัวให้ผู้ชายอยากได้เธอมากขึ้นเท่านั้น “ไม่ให้จริงๆ หรอ” “เดี๋ยวกลับมหาลัยก็ได้เจอกันแล้ว” “จะกลับกันได้ยังอี๋อ๋อกันอยู่นั่นแหละ” จากที่ไม่กล้าสู้หน้าเขาอยู่แล้วณิชาก็ยิ่งไม่มองหน้าเขาเลย เธอส่งยิ้มเล็กๆ ให้เดย์ก่อนจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าไปที่รถของเชนทร์ “ไปนั่งเป็นเพื่อนฉัน” “เดี่ยวฉันไปนั่งกับนายเองก็ได้โชน” “แก้มเธอไม่ต้องมา ให้ณิชามานั่งกับฉัน” “อะไรของนายวะโชน” “ณิชามานั่งเป็นเพื่อนฉัน” หญิงสาวเกรงว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้เพื่อนทะเลาะกันจึงเดินไปขึ้นรถที่โชนขับอยากจำใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD