ไม่มีอารมณ์นอน

1429 Words
ณิชา ผู้หญิงยิ้มง่าย ใครๆ ก็มักจะหลงรักรอยยิ้มของเธอ แต่ไม่ใช่กับโชน พัฒน์พันกุล แฝดน้องของเชนทร์ พัฒน์พันกุล ที่ดูเหมือนจะหลงความใสซื่อของณิชาอย่างหัวปลักหัวปำ “โชน มึงจะไปมั้ยพวกนั้นไปรอแล้ว” “นัดกันที่ไหนวะ” “ผับKKJ มึงจะไปมั้ย” โชนถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินว่าสถานที่นัดคือที่นั่น พี่ชายเขาเป็นคนต้นคิดแน่ๆ “กูไปกับมึงนะ ขี้เกียจขับรถ” “อืม” ... ผับKKJคือสถานที่ที่ณิชาทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียน เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะมากพอในสังคมแบบพวกเขา มีไม่กี่คนที่ฐานะแบบเธอจะหลงมาเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังนี้ได้ แต่พวกเธอได้ทุนจากบริษัทนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคเพราะผลการเรียนดีตอนเรียนมัธยม แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เธอยังคงต้องหาเอง แค่ไม่ต้องเสียค่าเทอมก็ดีมากแล้ว “ณิชา เสริฟโต๊ะหนึ่งชั้นสองด้วยนะ” “ค่ะ” หญิงสาวร่างบอบบางดูไม่น่าจะถือถาดเหล้าในมือไหวด้วยซ้ำ แต่ณิชาทำได้เกือบทุกอย่างในร้าน และโต๊ะที่เธอต้องมาเสริฟก็คือโต๊ะที่เพื่อนๆ ของเธอนั่งอยู่ “ณิชา นั่งก่อนสิ” “ไม่ได้หรอก เราเป็นพนักงานนะ” “เสียดายจัง เราไม่เคยได้นั่งกับครบแก๊งค์เลยอ่ะ” “ไว้โอกาสอื่นนะ เราต้องทำงานนี่มิลค์” “จะมีโอกาสไหนอีกอ่ะ เธอไม่เคยหยุดเลยนะณิชา” คนถูกเพื่อนมีรอยยิ้มเล็กๆ ในขณะที่เพื่อนๆ ช่วยกันหยิบขวดเหล้าออกจากถาดให้เธอ แต่กลับมีอีกคนไม่อยากเห็นเธอจนต้องหันหน้าหนี “ณิชา อย่าเพิ่งหนีกลับนะ เดี๋ยวเราไปส่ง” “อย่าเลยเชนทร์ กว่าเราจะเลิกงานมันดึกมากเลยนะ” “เราก็อยู่จนกว่าร้านจะปิดนั่นแหละ ให้เราไปส่งนะ” “ให้เชนทร์ไปส่งนั่นแหละณิชา วินที่เธอซ้อนท้ายเขากลับจะหน้ามืดขึ้นมาวันไหนก็ไม่รู้” เธอเองก็กลัวเช่นนั้นเหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรได้เธอไม่มีทางเลือกนี่ และการจะให้พวกเขาไปส่งก็ไม่ใช่ธุระอะไรของพวกเขา การที่ได้เป็นเพื่อนกับพวกเขาก็ดีมากแล้วที่ไม่ถูกรังเกียจ ยกเว้นโชน ที่เหมือนว่าเขาจะไม่ชอบเธอเอาเสียเลย ..... “ไม่รู้ว่าณิชาไปเรียนไหวได้ยังไงเนอะ กว่าจะเลิกงานกว่าจะได้นอนอีก” “ถ้าฉันเกิดเป็นณิชาคงเลิกเรียนอ่ะ ไม่ไหวหรอก” “แกไม่เรียนแล้วแกก็จะทำงานใช่มั้ยแก้ม” “เปล่า ฉันจะหาผัวรวยๆ ที่พร้อมจะซัพพอร์ตฉันน่ะสิ” “แกนี่นะแก้ม อุดมการณ์แน่วแน่มาโดยตลอดจริงๆ” โชนฟังที่เพื่อนผู้หญิงคุยกันเงียบๆ ความคิดของกวินนาเขาก็เคยเห็นณิชาทำมัน เขาเลยคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรกับพี่ชายของเขาเลยสักนิด ..... “น้องณิชารับงานต่อมั้ยครับ” คำถามนี้เธอเจอทุกวันเลยจริงๆ จนมันทำให้เธอมีประสบการณ์ในการเอาตัวรอด เว้นแต่ว่าจะเจอลูกค้างี่เง่าจะเอาให้ได้ จนเจ้าของร้านต้องลงมาเคลียร์เองเรื่องจึงจะจบ “ขอโทษด้วยนะคะ ณิชาไม่รับงานค่ะ” “เสียดายจัง” หญิงสาวเพียงแค่ยิ้มตอบลูกค้าหนุ่มไปเท่านั้น งานนั้นเอาไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายเมื่อเธอถึงทางตันแล้วจริงๆ เถอะนะ ไม่รู้ว่าเธอจะกล้านอนกับคนที่ไม่ได้รักได้ยังไง “ว๊ายยย!” ณิชาหันขวับเมื่อรู้สึกว่าเธอโดนมือปริศนาลูบที่บั้นท้ายขณะที่เธอต้องเดินเบียดลูกค้าออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะคนเยอะมากจริงๆ พนักงานอย่างเธอต้องปล่อยผ่านไปอย่างทุกๆ ที่มีคนลวนลามเธอ “โอ้โห ณิชาต้องเจอแบบนี้ทุกวันเลยมั้ยเนี่ย” สองสาวที่ยืนอยู่บนชั้นสองคุยกัน พวกเธอเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ทุกอย่าง “เชนทร์ เมื่อกี้มีคนลวนลามณิชาด้วย” “ใคร” ..... เพียงสิบนาทีต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเพราะมีลูกค้าถูดฟาดหัวด้วยขวดเหล้าจนเลือดแดงฉานไหลเต็มพื้น “ค่าเหล้าขวดนี้ผมรับผิดชอบเอง” เชนทร์หันไปพูดกับผู้จัดการร้านที่ยืนหน้าเสียหลังจากให้พนักงานพาลูกค้าที่โดนตีหัวไปหาหมอแล้ว “เกิดอะไรขึ้นหรอเชนทร์” “ไม่มีอะไรหรอก หมั่นไส้” เชนทร์หมั่นไส้ผู้ชายคนนั้นเพราะมันลวนลามเธอ แต่หญิงสาวโดนโชนหมั่นไส้อย่างไม่รู้ตัวเพราะแฝดของเขาทำตัวเป็นองครักษ์อย่างไร้สาระ “เลิกงานแล้วใช่มั้ย” “เชนทร์ไม่ต้องไปส่งเราหรอก” “ให้เชนทร์ไปส่งดีกว่าณิชา ไหนๆ ก็อยู่จนร้านปิดแล้ว” “จริง ณิชาให้แฝดไปส่งเถอะ” เพื่อนสาวสองคนเกลี้ยกล่อมคนขี้เกรงใจ “คือ..” “ลีลาทำไมวะ ไปขึ้นรถดิ๊” โชนดันตัวณิชาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลด้วยว่าตัดความรำคาญ เขาเปิดประตูและดันเธอเข้าไปนั่งที่เบาะหลังได้สำเร็จ “เดี๋ยวเชนทร์มึงไม่ขับไปอ่ะ” โชนขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเชนทร์เปิดประตูที่นั่งด้านหลังอีกฝั่ง “กูจะคุยกับณิชา มึงไปขับ” โชนเริ่มหัวเสียที่อยากรีบกลับก็เพราะอยากนอน แต่นี่เขาต้องมาขับรถให้สองคนนั้นอีก “แม่งเอ้ย” ให้คนขี้หงุดหงิดขับก็จะเสี่ยงตายหน่อยๆ เชนทร์ชินเสียแล้วแต่ณิชากลัวจนหน้าซีดเผือดสองมือบีบกันไว้แน่น “พรุ่งนี้ให้เรามารับนะ” “อย่าดีกว่าเชนทร์ ไม่ใช่ทางผ่านด้วยเราเกรงใจ” “เราเต็มใจนะ เรามารับเธอได้ทุกวันแหละ” โชนมองคนที่นั่งด้านหลังผ่านกระจกอย่างนึกหมั่นไส้ พี่ชายเขาทำเหมือนจีบยัยนี่ตั้งแต่ปีหนึ่งนี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ไม่เห็นว่าจะได้กันสักที รถยนต์คันหรูขับมาจอดที่หน้าอพาทเม้นท์ที่ไฟทางเดินติดๆ ดับๆ จนเชนทร์นึกเป็นห่วงขอตามไปส่งเธอ โดยให้โชนรออยู่ที่รถ “ขอบใจเธอมากนะเชนทร์ ฝากขอบใจโชนด้วย” “อือล็อกห้องดีๆ หล่ะ” เขายืนรอจนหญิงสาวปิดประตูห้องสนิทจึงหันหลังเตรียมกลับออกมา ปัก! ว๊ายยยย ปึงๆๆๆ “ณิชาเป็นอะไร” เชนทร์รีบหันกลับมาเคาะประตูห้องหญิงสาวเขาได้ยินเสียงแปลกๆ แล้วเธอก็ร้องขึ้น แอดดด หญิงสาวหน้าตาเหรอหราด้วยความตกใจรีบเปิดประตูออกมาในความมืด “เชนทร์เราน่าจะลืมปิดพัดลมอ่ะ เราเห็นไฟกำลังไหม้เลยรีบไปดึงปลั๊กออก” ขณะที่ตอบเขามือทั้งสองข้างก็ถูกันไปมาเพราะโดนไฟดูด เชนทร์คว้ามือของเธอมาดูใกล้ๆ กลิ่นไหม้ยังติดอยู่ที่มือเธออยู่เลย “ไฟมันตัดใช่มั้ย” หญิงสาวพยักหน้าน้ำตาคลอ ตกใจมากจริงๆ “เดี๋ยวเราดูให้นะ” คนที่รออยู่ในรถเริ่มหงุดหงิดที่พี่ชายไปส่งยัยนั่นยี่สิบนาทีได้แล้วมั้ง เขาออกมาสูบบุหรี่นอกรถเพราะพี่ชายเขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ นานพอสมควรแฝดพี่ก็เดินกลับมาในสภาพเหงื่อโชก “หึ ทำเป็นเล่นตัว” เขาโยนก้นบุหรี่ที่เพิ่งสูบไปได้ไม่เท่าไรทิ้งแล้วตามขึ้นไปนั่งบนรถที่ณิชาเพิ่งนั่งมาสักพัก กลิ่นของเธอยังติดอยู่ที่เบาะซึ่งเขาไม่ชอบ โชนปีนข้ามไปนั่งข้างหน้าข้างพี่ชายที่ขับรถอยู่ “ง่วงก็ไม่นอนอ่ะ” “ไม่มีอารมณ์นอนแล้วไปนานชิบหาย” ณิชามองพัดลมตัวเก่าที่เชนทร์เอาไปวางไว้มุมห้อง หากเธอมาช้ากว่านี้ไหม้ทั้งอพาทเม้นท์แน่ ดีนะที่เขาตามขึ้นมาไม่งั้นคงต้องมอยู่ทั้งที่ไฟดับเพราะไม่รู้ว่าต้องกดสวิตส์ไฟตัวไหนมือถือก็แบตหมด จะเรียกข่างก็เที่ยงคืนแล้วแถมยังเสียเงินอีก “ขอเปิดแอร์นอนหนึ่งวันละกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD