4 ข้อเสนอของเขา

1252 Words
สองวันถัดมา... สองวันที่ผ่านไปราวกับตกนรกทั้งเป็นสำหรับเพียงขวัญ เธอใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพยายามติดต่อภาคิน แต่เขากลับปิดเครื่องหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งให้เธอเผชิญหน้ากับข้อความข่มขู่จากเจ้าหนี้ที่ส่งมาแทบจะรายชั่วโมง ทั้งรูปถ่ายหน้าคอนโดของเธอ รูปถ่ายป้ายทะเบียนรถ พร้อมข้อความหยาบคายที่ทำให้เธอขวัญผวาจนนอนไม่หลับ เธอไปเยี่ยมเปิ้ลที่โรงพยาบาลด้วยสภาพอิดโรย ดวงตาคล้ำลึกจากการไม่ได้พักผ่อน แต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นร่าเริงปกติ พยายามปกปิดความทุกข์ระทมที่กัดกินใจจนแทบไม่เหลือชิ้นดี โชคดีที่เธอไม่เจอหมอภาคย์เลยตลอดสองวันนี้ ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะเธอไม่มีแรงเหลือพอจะไปต่อกรกับสายตาอันน่ากลัวคู่นั้นอีก เย็นวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากออกจากโรงพยาบาล เธอก็ขับรถกลับคอนโดด้วยจิตใจที่เหม่อลอย ในหัวมีแต่ตัวเลขแปดแสนบาทหมุนวนเวียนอยู่ซ้ำๆ เธอจะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน ปรึกษาใครก็ไม่ได้ เพียงขวัญจอดรถในช่องประจำแล้วเดินคอตกไปยังตัวอาคาร เธอเหนื่อย...เหนื่อยจนอยากจะล้มตัวลงนอนแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย แต่แล้ว...ฝันร้ายของเธอก็ปรากฏขึ้นเป็นความจริง ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่สองคนในชุดเสื้อยืดสีดำมืด กางเกงยีนส์เก่าๆ ยืนดักรอเธออยู่บริเวณทางเข้าล็อบบี้ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก สายตาหยาบกร้านของพวกมันมองมาที่เธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ใช่ชื่อเพียงขวัญ รึเปล่า” ชายคนที่หัวโล้น มีรอยสักน่ากลัวที่ลำคอ เอ่ยถามเสียงห้วน หัวใจของเพียงขวัญหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม “...ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” “ผัวมึง ไอ้ภาคิน มันติดหนี้พวกกูอยู่แปดแสน ถึงกำหนดจ่ายแล้วมันหายหัวไปไหน!” ชายอีกคนที่ผอมเกร็งกว่าแต่แววตาดูเจ้าเล่ห์ ตะคอกใส่หน้าเธอ “ฉะ...ฉันไม่รู้เรื่องนะคะ! ฉันไม่ได้เป็นคนกู้!” เธอถอยหลังกรูดด้วยความหวาดกลัว “แต่ในสัญญาเป็นชื่อมึง! อย่ามาทำไขสือ!” ไอ้หัวโล้นก้าวเข้ามาประชิดตัวเธออย่างคุกคาม กลิ่นเหงื่อและกลิ่นเหล้าฉุนกึกจากตัวมันทำให้เธอแทบจะอาเจียน “ไม่นะ! ฉันไม่ได้กู้เงินมานะ! ไปเอากับคนนั้นสิ! ฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย!” เพียงขวัญพยายามปฏิเสธเสียงสั่น เธอพยายามมองหาคนช่วย แต่บริเวณนั้นกลับว่างเปล่า “มึงเป็นเมียมัน ชื่อคนกู้ก็เป็นชื่อมึง มึงก็ต้องรับผิดชอบ!” ไอ้ผอมเกร็งหัวเราะหึๆ ในลำคอ สายตาของมันไล่โลมเลียเรือนร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างน่าขยะแขยง “แต่จะว่าไป... รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลวนี่หว่า... ถ้าไม่มีเงินจ่าย เอาตัวไปขัดดอกก็ได้นี่หว่า! ไปอยู่ในซ่องคงทำเงินได้ดีแน่!” คำพูดสกปรกนั่นเหมือนคมมีดที่กรีดลงบนศักดิ์ศรีของเธอจนย่อยยับ “กรี๊ดดดด! ปล่อยฉันนะ! ไอ้พวกสารเลว!” เพียงขวัญกรีดร้องสุดเสียงเมื่อไอ้หัวโล้นเอื้อมมือหยาบกร้านมาคว้าแขนเธอไว้ “ปล่อยให้โง่สิ! มานี่!” พลั่ก! โครม! เสียงเหมือนของหนักกระแทกกันดังสนั่น ร่างใหญ่ของไอ้หัวโล้นที่จับแขนเธออยู่กระเด็นไปกระแทกกับผนังอย่างแรงจนร้องไม่ออก! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เพียงขวัญหันไปมองด้วยความตกตะลึง ก่อนจะเห็นร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเทาเข้มกับกางเกงขายาวสีดำสนิท ยืนขวางอยู่ตรงหน้าเธอ แผ่นหลังกว้างนั้นดูมั่นคงและน่าเกรงขามอย่างประหลาด หมอภาคย์... เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! “พวกมึงเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่” น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบและกดต่ำจนน่าขนลุก ดวงตาคมกริบที่ไร้กรอบแว่นจ้องมองชายฉกรรจ์สองคนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว “เสือก! นี่มันเรื่องของพวกกู มึงอย่ามายุ่ง!” ไอ้ผอมเกร็งตั้งท่าจะเข้ามาเอาเรื่อง แต่เมื่อได้สบกับสายตาที่ดุดันของภาคย์ พวกมันก็ถึงกับชะงักไป “เพื่อนกูอยู่คอนโดนี้... และกูไม่ชอบให้มีขยะมาเกะกะทางเดิน” ภาคย์พูดเรียบๆ แต่ทุกคำเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต “มึงอยากเจ็บตัวใช่ไหม!” ไอ้หัวโล้นที่เพิ่งลุกขึ้นมาได้คำรามอย่างหัวเสีย มันชักมีดพับออกมาจากกระเป๋ากางเกง เพียงขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “คุณหมอ! ระวัง!” แต่ภาคย์กลับไม่แสดงอาการตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เขายืนนิ่งเหมือนหิน จ้องมองปลายมีดนั้นด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “หนี้เท่าไหร่” เขาถามขึ้นมาดื้อๆ ไอ้สองคนนั้นมองหน้ากันอย่างงุนงง “...แปดแสน” “ดอกเบี้ยเท่าไหร่” “...อีกสองแสน” “รวมเป็นหนึ่งล้าน” ภาคย์พยักหน้าช้าๆ เหมือนกำลังคำนวณเลขง่ายๆ ในใจ เขาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทรออกหาใครบางคน “โอนเงินเข้าบัญชี...[เขาบอกเลขบัญชี]... หนึ่งล้านบาท... เดี๋ยวนี้” เขาสั่งสั้นๆ แล้วกดวางสายไป ไม่ถึงห้านาที เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของไอ้หัวโล้น มันหยิบขึ้นมาดูด้วยสีหน้างงงวย ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “เฮ้ย! เงินเข้าแล้ว! หนึ่งล้าน!” “ได้เงินแล้วก็ไสหัวไป” ภาคย์ออกคำสั่งเสียงเย็น “และจำไว้... อย่าให้กูเห็นหน้าพวกมึงมายุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีก ไม่อย่างนั้น... ครั้งหน้ามันจะไม่จบแค่เงิน” แววตาของเขาในตอนที่พูดประโยคสุดท้าย มันน่ากลัวยิ่งกว่าปลายมีดในมือของพวกนักเลงเสียอีก ไอ้สองคนนั้นมองหน้ากัน รีบเก็บมีดแล้ววิ่งแจ้นออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วราวกับเจอผี เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ความเงียบอันน่าอึดอัดก็เข้าปกคลุมบริเวณนั้นทันที เพียงขวัญยังคงยืนตัวแข็งทื่อ ขาของเธอสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่ เธอไม่เข้าใจ... ทำไมเขาถึงทำแบบนี้... ทำไมเขาถึงช่วยเธอ แล้วเขาก็หันกลับมา... ภาคย์หันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอช้าๆ สายตาคู่นั้นสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนกำลังประเมินราคาสินค้าชิ้นหนึ่งที่เขาเพิ่งจ่ายเงินซื้อมันมา เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ก้าวเข้ามาหาเธอช้าๆ ทีละก้าว... ทีละก้าว... จนกระทั่งร่างสูงใหญ่ของเขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ห่างกันไม่ถึงหนึ่งช่วงแขน เพียงขวัญถอยหลังจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับผนังเย็นเฉียบ เธอเงยหน้าสบตาเขาด้วยความหวาดหวั่นและสับสน เขายกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม... รอยยิ้มที่เธอเคยเห็นในลิฟต์วันนั้น... รอยยิ้มของนักล่าที่กำลังจะกลืนกินเหยื่อ ภาคย์โน้มใบหน้าหล่อเหลาที่แสนอันตรายนั้นลงมาใกล้... ใกล้จนลมหายใจอุ่นๆ ของเขารดรินอยู่ที่ข้างแก้มของเธอ ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าจะกระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ... คำกระซิบที่ราวกับคำพิพากษาจากซาตาน... “จะไปอยู่ในซ่อง... หรือจะมาอยู่กับฉันแค่คนเดียว...” “...” “เลือกเอาสิ... เพียงขวัญ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD