3 หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

1404 Words
เพียงขวัญถือแก้วกาแฟสองใบกลับมาถึงหน้าห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ที่ยังคงปั่นป่วนจากการเผชิญหน้าเมื่อครู่ แล้วจึงผลักประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสบายๆ กำลังนั่งอยู่ข้างเตียง กุมมือของเปิ้ลเอาไว้พลางพูดคุยด้วยรอยยิ้มอบอุ่นนนท์แฟนหนุ่มของเปิ้ลนั่นเอง “อ้าวขวัญ มาพอดีเลย พี่เพิ่งมาถึงเมื่อกี้” นนท์หันมาทักทายเมื่อเห็นเธอ “สวัสดีค่ะพี่นนท์” เพียงขวัญส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินเอาแก้วอเมริกาโน่เย็นไปให้เพื่อนรักที่ทำหน้าออดอ้อนแฟนหนุ่มอยู่ “กาแฟมาแล้วจ้ะเปิ้ล” “ขอบใจจ้ะ” เปิ้ลรับแก้วไปดูดอย่างกระหาย ก่อนจะหันไปฟ้องแฟน “ดูสิพี่นนท์ ขวัญมันหาว่าเปิ้ลแอบปันใจให้คุณหมอด้วยแหละ” นนท์หัวเราะเบาๆ สายตาที่มองเปิ้ลเต็มไปด้วยความเอ็นดู “หมอที่ไหนจะหล่อสู้พี่ได้ล่ะครับ ใช่ไหม” “แน่นอนอยู่แล้ว!” เปิ้ลตอบเสียงหวาน ทั้งห้องอบอวลไปด้วยบรรยากาศของคนรักกันจนเพียงขวัญอดจะยิ้มตามไม่ได้ เธอรู้สึกดีใจกับเพื่อนเสมอที่ได้เจอคนดีๆ อย่างนนท์ หลังจากทักทายและพูดคุยอัปเดตอาการของเปิ้ลกันอีกครู่หนึ่ง เพียงขวัญก็มองนาฬิกาแล้วเห็นว่าสมควรแก่เวลากลับแล้ว “งั้นฉันกลับก่อนนะเปิ้ล พี่นนท์มาอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่” “อ้าว จะรีบกลับแล้วเหรอ อยู่คุยกันก่อนสิ” เปิ้ลทำเสียงอ้อน “ไว้พรุ่งนี้มาใหม่ วันนี้มีธุระต้องไปทำต่อน่ะ” เธอโกหกไปคำหนึ่ง จริงๆ แล้วเธอแค่อยากจะหนีจากบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักนี่ต่างหาก มันทำให้เธออดคิดถึงเรื่องของตัวเองไม่ได้ “โอเคๆ ขับรถดีๆ นะแก” “ค่ะพี่นนท์ ฝากเปิ้ลด้วยนะคะ” เธอยกมือไหว้ลาแล้วเดินออกจากห้องมา ทันทีที่พ้นจากประตูห้องพักผู้ป่วย โลกที่เคยสดใสเมื่อครู่ก็พลันหม่นหมองลงทันที เพียงขวัญถอนหายใจยาว เธอกดลิฟต์เพื่อจะลงไปยังชั้นล่าง ความรู้สึกเหนื่อยล้าเข้าเกาะกุมจิตใจอีกครั้ง ไม่ใช่ความเหนื่อยจากร่างกาย แต่เป็นความเหนื่อยจากหัวใจ ครืด... ครืด... โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสั่นขึ้นมา เธอหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความไม่เต็มใจนัก ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ... ภาคิน แฟนเก่าที่เธอเป็นคนบอกเลิก เพราะทนกับนิสัยเจ้าชู้และไม่เอาไหนของเขาไม่ไหวอีกต่อไป... เธอตั้งใจจะกดตัดสายทิ้ง แต่สัญชาตญาณบางอย่างบอกให้เธอรับ เพียงขวัญกดรับสายอย่างเสียไม่ได้ พลางก้าวเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดออกพอดี ในลิฟต์มีเพียงเธอคนเดียว บรรยากาศเงียบสงัดจนน่าอึดอัด “มีอะไร” เธอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไร้ซึ่งเยื่อใยใดๆ “ขวัญ... คือ... พี่คิดถึงขวัญนะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม” น้ำเสียงออดอ้อนที่เคยทำให้เธอใจอ่อน บัดนี้กลับฟังดูน่ารำคาญสิ้นดี “ฉันบอกไปกี่ครั้งแล้วว่าเราจบกันแล้ว ภาคิน ถ้าคุณโทรมาแค่เรื่องนี้ก็วางไปได้เลย” “โธ่ขวัญ อย่าใจร้ายกับพี่สิ พี่รู้ว่าพี่ผิดไปแล้ว พี่จะปรับปรุงตัวทุกอย่างเลยนะ” “พอเถอะ ฉันไม่อยากฟัง” เพียงขวัญกำลังจะกดวางสาย แต่ประโยคถัดมาของเขากลับทำให้เธอชะงัก “ก็ได้ๆ! ไม่คุยเรื่องนี้ก็ได้! แต่มีอีกเรื่องที่ขวัญต้องรู้... เรื่องสำคัญมาก” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป มีแววร้อนรนและกังวลอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของเธอเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ “เรื่องอะไร” “คือ...ตอนที่เรายังคบกันอยู่... พี่...พี่มีปัญหาเรื่องเงินนิดหน่อย พี่เลยแอบเอาสำเนาบัตรประชาชนของขวัญ...ไปกู้เงินนอกระบบมาน่ะ” คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจของเธอ ความรู้สึกชาดิกแล่นไปทั่วร่าง “...คุณว่าอะไรนะ” เธอถามกลับไป เสียงสั่นเทาจนน่าตกใจ “คุณล้อฉันเล่นใช่ไหมภาคิน!” “พี่ไม่ได้ล้อเล่น! แต่ขวัญไม่ต้องห่วงนะ พี่กะว่าจะรีบหาไปคืนก่อนที่เจ้าหนี้จะโทรไปทวงที่ขวัญ แต่ตอนนี้...พี่หมุนเงินไม่ทันจริงๆ พี่ขอโทษ...” “เท่าไหร่... คุณเอาชื่อฉันไปกู้มาเท่าไหร่!” เพียงขวัญตะคอกถาม น้ำเสียงแหลมสูงขึ้นด้วยความตื่นตระหนกและโกรธจัด ปลายสายเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงอ่อยๆ “แปดแสน” แปดแสน... ตัวเลขนั้นเหมือนระเบิดเวลาที่เพิ่งนับถอยหลังจนถึงศูนย์ ขาของเธออ่อนพับลงทันที ร่างทั้งร่างทรุดลงไปกองกับพื้นลิฟต์อย่างหมดแรง “ภาคิน! ไอ้เลว! ไอ้สารเลว! คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง!” เธอหวีดร้องออกมาอย่างสุดจะกลั้น น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ความรู้สึกเหมือนถูกคนที่เคยรักและไว้ใจที่สุดใช้มีดกรีดลงกลางหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า “โธ่ขวัญ อย่าเพิ่งด่าพี่สิ พี่ก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะ ตอนนี้พี่ก็ลำบากเหมือนกัน เจ้าหนี้มันตามทวงพี่ทุกวันเลย พี่เลยต้องบอกขวัญไง เราต้องช่วยกันนะ” คำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบของเขายิ่งเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟ “ช่วยกันเหรอ! คุณเป็นคนก่อเรื่อง แล้วจะให้ฉันมารับผิดชอบด้วยเนี่ยนะ! คุณมันเห็นแก่ตัวที่สุด!” “แล้วจะให้พี่ทำยังไง! พี่ไม่มีเงิน! ขวัญก็เป็นแฟนพี่นะ ก็ต้องช่วยกันสิ!” เขาเริ่มขึ้นเสียงกลับมาอย่างหัวเสีย “ฉันไม่ใช่แฟนพี่แล้ว! เราเลิกกันแล้ว!” “แต่หนี้มันเกิดตอนเรายังเป็นแฟนกัน! ถ้าขวัญไม่ช่วยพี่ พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน พวกมันขู่ว่าจะมาตามที่บ้านขวัญนะเว้ย!” คำขู่นั้นทำให้เพียงขวัญตัวแข็งทื่อ เธอรู้ดีว่าพวกทวงหนี้นอกระบบมันโหดเหี้ยมแค่ไหน พวกมันไม่สนหรอกว่าใครเป็นคนกู้ ถ้าในสัญญามีชื่อเธออยู่ เธอก็คือลูกหนี้ “ทำไม... ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้...” เสียงของเธอแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นที่สิ้นหวัง เธอไม่มีแรงจะตะโกนด่าเขาอีกต่อไปแล้ว มีเพียงความเจ็บปวดและมืดมนที่ถาโถมเข้ามา “เอาหน่าขวัญ อย่าร้องไห้สิ... พี่ก็รักขวัญนะ...” “หยุดพูดคำว่ารักสักที! คนรักกันเขาไม่ทำร้ายกันแบบนี้!” เพียงขวัญกรีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกดตัดสายทิ้งด้วยมือที่สั่นเทา ติ๊ง! ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นลานจอดรถ แต่เธอไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เธอยกมือขึ้นปิดหน้า ปล่อยให้เสียงร้องไห้ที่อัดอั้นดังออกมาอย่างไม่อายใคร ความรู้สึกถูกหักหลัง ถูกทำลายความไว้ใจ มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกบอกเลิกนับร้อยนับพันเท่า ผู้ชายคนนั้น...คนที่เธอเคยทุ่มเทความรักให้หมดหัวใจ กลับทำลายชีวิตเธอได้อย่างเลือดเย็นที่สุด เธอสะอื้นไห้จนตัวโยน จมดิ่งอยู่ในความมืดมิดของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่า...ทุกหยดน้ำตา ทุกเสียงสะอื้น และทุกความเจ็บปวดของเธอ...ได้ตกอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในเงามาโดยตลอด หมอภาคย์ยืนพิงเสานิ่งๆ สายตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องภาพหญิงสาวที่แหลกสลายอยู่ตรงหน้าอย่างไม่วางตา เขาไม่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมด แต่เขาได้ยินคำสำคัญ... ‘หนี้นอกระบบ’... ‘แปดแสน’... และเสียงกรีดร้องที่สิ้นหวังนั้น เขามองภาพนั้นด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ก่อนที่ประกายบางอย่างจะวูบไหวขึ้นมา...ประกายของความพึงพอใจที่เย็นเยียบ มุมปากหยักลึกของเขา...ค่อยๆ ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ ดอกไม้ที่ดูแข็งแกร่งและหยิ่งผยองเมื่อครู่...บัดนี้ได้ถูกพายุพัดจนกลีบดอกช้ำและร่วงโรย...รอเพียงแค่ใครสักคนก้าวเข้าไป...เด็ดมันขึ้นมา...และเป็นเจ้าของมันแต่เพียงผู้เดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD