บทที่1.ปฐมบทของสีดา...

1580 Words
โบราณว่าไว้ เกลียดสิ่งไหนมักจะได้สิ่งนั้น สีดาเกลียดคนเจ้าชู้สุดๆ สีดาแอนตี้ผู้ชายที่มีคู่ควงพร้อมๆ กันทีละหลายๆ คน และในอนาคตเธอจะต้องเจอคนเช่นนั้น แต่เธอจะเอาตัวรอดจากบ่วงเสน่หาของเขาได้หรือเปล่า? สองยายหลานกอดกันกลม เพราะชอบกลิ่นอายแบบถิ่นชนบทแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เธอก็รักความเป็นไทย สีดาชื่นชอบกับวัฒธรรมโบราณ เธอจึงเป็นสาวสมัยใหม่ ที่เป็นนักอนุรักษ์ตัวยง เพราะฉะนั้นไม่แปลกหากจะเห็นสีดาโฉบฉายในต่างแดน ด้วยการนุ่งผ้าไทย ห่มสไบนุ่งโจงกระเบน บวกกับความงามคมขำ ผมสีดำสนิทยิ่งกว่าขนนกกาน้ำ เส้นผมเรียบตรงสยายเต็มแผ่นหลัง เธอจะเด่นสะดุดตาแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย “ยายจ๋าทำขนมอะไรมาให้สีดาชิมคะวันนี้” “ขนมของโปรดของเรานั่นแหละ ครั้งนี้จะมาอยู่นานเท่าไรล่ะ ยายจะได้ร่างเมนูสุดอร่อยไว้ให้เลือก นานๆ จะมาสักที ยายจะขุนให้มีเนื้อมีหนังกว่านี้อีกหน่อย ดูสิ... แขนขาเก้งก้างมีแต่กระดูก” นางลูบคลำผิวกายของหลานรัก พร้อมกับบ่นว่าไปเรื่อย ก็สีดานะกินอยู่ไม่เป็นเวลา หากจมอยู่กับงาน กว่าจะหาอะไรใส่ปากท้องก็ต่อเมื่อเจ้าตัวพอใจเนื้องานของตัวเองนั่นแหละ “อุ้ย!! นี่ชื่ออะไรเจ้าคะยายจ๋า...สีหว๊านหวาน” หญิงสาวเบิกตาโตมองขนมชิ้นเล็กๆ สีชมพูระเรื่อในถ้วยกระเบื้องเคลือบพร้อมกับยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ “ขนมเกสรดอกชมพู่จ้ะ ทำจากมะพร้าวขูดขาว ผัดกับน้ำและน้ำตาลทรายใส่วุ้นแล้วกวนให้เข้ากันจนได้สี สีชมพูแก่ๆ แบบนี้ไงลูก” นางอธิบายยิ้มๆ ขนมโบราณที่แทบจะหายไปจากสายตาผู้คน เพราะความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการทำ แต่นางยังรักษาเอาไว้ อยากให้ลูกหลานได้พบเห็นแล้วก็ได้ชิมรส “โห...อร่อยเจ้าคะยายจ๋า มีอะไรอีกน๊า” หญิงสาวฉวยขนมใส่ปาก เธอยิ้มแป้น เมื่อรสมือของสายหยุดเป็นที่หนึ่งในคุ้งน้ำแถวนี้ “นี่ไงสีดาบ่นอยากทานคราวที่แล้ว ยายทำมาให้ลองชิม ไม่รู้จะถูกปากไหม? ไม่ได้ทำนานแล้วด้วยสิ” เสียงสายหยุดแฝงความเหงา เมื่อลูกหลานอยู่แต่ในเมืองกรุง นานๆ จะแวะมาเยี่ยมเยียนนาง ถึงจะอยู่ท่ามกลางบ่าวไพร่แต่ก็ไม่สุขใจเท่ากับมีลูกหลานห้อมล้อม “ขนมน้ำดอกไม้ อิๆ ไม่ว่ายายจ๋าจะทำอะไร สีดาว่าอร่อยทุกอย่างค่ะ” หญิงสาวรีบประจบ เธอมีเวลาว่างก็จะรีบบึ่งมาบ้านสวนของยายสายหยุดทันที “ยายเห็นทำงานอยู่ ยายไม่กวนล่ะ สีดาจะได้ทำเสร็จเร็วๆ” “ยายจ๋าอยู่กวนได้ค่ะ พอดีสีดาอยากถามเรื่องผ้าไทยกับยายจ๋าพอดี โปรเจกต์นี้สีดาทำไปเสนอบริษัทต่างชาติค่ะ เขาอยากเห็นลวดลายแปลกๆ บนเนื้อผ้า ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ชีฟอง พลิ้วๆ บางๆ” หญิงสาวจิ้มขนมใส่ปากไม่หยุด เธอพูดตอบเสียงใส “เหรอ? เอาแบบไหนดีล่ะลูก ยายจะได้บอกถูกหรอก หรือจะขึ้นไปดูของจริงบนเรือนใหญ่?” สายหยุดรับลูก เธอกระตือรือร้นขึ้นมาเลยเชียว นานๆ จะมีคนสนใจผ้าไทย และนางมีเก็บสะสมไว้ไม่ใช่น้อย “ยายจ๋ามีผ้าเก่าเหรอจ๊ะ ไปค่ะไป” เรื่องไอเดียชุด สีดามีเต็มสมอง เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะใช้ผ้าไทยแบบไหนให้เกิดประโยชน์ที่สุด เมื่อตัวเองไม่รู้จักวิธีดูแลรักษา สองยายหลานเดินลิ่วๆ ขึ้นไปบนเรือนไม้ทรงไทยหลังใหญ่ ถัดจากกระท่อมชายน้ำของหญิงสาว กำปั่นใหญ่ที่เก็บสะสมของรักถูกยกออกมาตั้งกลางเรือน เพื่องัดของในกรุออกมาโชว์หลานรัก สาวใช้หลายนางยกขนมนมเนย น้ำหวานเย็นๆ มาเสิร์ฟไม่หยุด เมื่อรู้ว่างานนี้งานช้าง เพราะในกำปั่นของยายสายหยุดอัดแน่นเต็มไปด้วยผ้าโบราณนับร้อยๆ ผืน “มีหลายลายเลยนะสีดา อย่างอันนี้ลายกลีบบัว อีกผืนก็ลายขอหลวงน้อย ลายขอหลวงใหญ่ นั่นลายช่อฟ้า พื้นๆ เลยก็มีเป็นผ้าไหมเรียบๆ ไอ้ที่ทอจากเส้นทองยายก็มีนะ นั่นผืนสุดรักเลย” ยายสายหยุดคุยฟุ้งเมื่อมีคนสนใจในสิ่งที่ตัวเองรัก นางหยิบผ้าไหมหลายๆ ผืนออกมาวางเรียงไว้แล้วชี้ให้สีดาดูทีละผืน พร้อมกับอธิบายวิธีดูแลรักษา ซึ่งแตกต่างกันไปตามเนื้อผ้าหรือชนิดของผ้า หญิงสาวล้วงโทรศัพท์คู่ใจออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ตัดแบบนำสมัย มองเผินๆ เหมือนเธอนุ่งโจงกระเบน แต่ความจริงคือการตัดเย็บแบบสมัยใหม่ เพื่อความคล่องตัวและทันสมัยขึ้น โทรศัพท์ที่ราคาแพงหูฉี่ได้ใช้ประโยชน์คุ้มค่าก็วันนี้ เมื่อสีดาใช้ถ่ายรูป อัดคลิปสั้นๆ พร้อมทั้งบันทึกคำบอกเล่าของยายสายหยุด เพื่อเก็บเอาไปวิเคราะห์ความเหมาะสมอีกที “สีดาชอบผ้าไหมไทยทุกชนิดเจ้าค่ะยายจ๋า ไม่ว่าจะมีลายหรือไม่มี สีดาว่ามันงดงามควรค่าอยู่แล้ว เสื้อตัวนี้ใช้ผ้าไหมที่ยายจ๋าให้ไปคราวที่แล้ว สีดาออกแบบและเย็บเอง กับผ้าถุงของยายจ๋าเหมือนกัน เก๋ไหมเจ้าค่ะ” หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นยืน เธอหมุนตัวให้สายหยุดดูชัดๆ ชุดที่ตัวเองใส่ตัดเย็บด้วยฝีมือตัวเอง หญิงสูงวัยคลี่ยิ้ม สีดางดงามเหมือนนางในวรรณคดี ไม่ว่าจะดวงตาคมขำ เรียวคิ้วโก่งดังคันศร จมูกโด่งได้รูปพองาม ริมฝีปากรูปกระจับสีระเรื่อ แม้ไม่มีเครื่องสำอางเสริมแต่ง วงหน้าของสีดาก็งามจับใจ เธอสวยคม สวยพิศ ประกอบกับรูปร่างอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม เรือนผมสีดำสนิทยาวจรดกึ่งกลางแผ่นหลัง เป็นหลานสาวที่นางภาคภูมิใจเมื่อมีแต่ข้อดีไร้ตำหนิเรื่องความประพฤติ เธอวางตัวได้เป็นอย่างดี แม้จะเติบโตในเมืองนอกเมืองนา แต่ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยแท้ๆ สีดาเรียนรู้และจดจำได้ทุกอย่าง เธอจึงเป็นสาวสมัยที่ค่อนข้าเคร่งครัดเรื่องสัมพันธ์ของชายกับหญิง เธอมีระยะห่างไว้กำหนดกฎเกณฑ์ของตัวเอง ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ตรงกับที่เธอต้องการ จึงเป็นได้แค่เพื่อนร่วมงานหรือแค่คนรู้จัก เมื่อเธอชัดเจนเสมอ... ตื๊ดๆ ... เสียงโทรศัพท์สั่นเตือนสีดาเบ้หน้า เพิ่งมาถึงบ้านหลังงามของยายสายหยุดยังไม่ได้นอนค้างสักคืน สายด่วนจากกรุงเทพฯ ก็โทรศัพท์มาตามเสียแล้ว “เจ้าค่า มีอะไรให้สีดารับใช้เจ้าคะ?” เสียงหวานๆ ดังผ่านสายโทรศัพท์ไป “ด่วน!! ที่สุดเท่าที่จะด่วนได้ ที่พี่เกริ่นให้สีดาฟังไว้ ทางโน้นเห็นด้วย เขาอยากดูตัวอย่างผ้า สีดาหาความรู้ถึงไหนแล้วล่ะ เพราะสีดาต้องเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อพรีเซ้นต์แทนพี่นะ” เพชรนลินเจ้าของแบรนด์ดังของเมืองไทย ชื่อของเพชรนลินยังไม่ขจรไกล เมื่อเป็นแบรนด์เปิดตัวใหม่ ถึงรูปแบบเสื้อผ้าจะเตะตา แต่ยังรู้กันแค่ในวงแคบๆ เมื่อมีเทียบเชิญจากเบอร์นาร์ด เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นยินดี “หะ!! สีดาเพิ่งมาถึงบ้านคุณยายนะ ได้ดูแบบผ้าไปยังไม่ได้เยอะเท่าไรเลยด้วย” “เอาน่า เอาเท่าที่รู้ก่อน เข้ามาคุยกันก่อนนะ...โปรเจกต์ยักษ์เลยนะงานนี้ พี่ไม่อยากพลาด” “ค่ะ ก็ได้ค่ะ” เธอรับคำเจ้านาย พร้อมทั้งหันมายิ้มแหยๆ ให้กับยายสายหยุด “ยายจ๋า สีดาต้องกลับแล้วค่ะ ยังไม่ทันได้นอนกอดยายจ๋าสักคืน มีงานเข้ามาเสียอีกแล้ว” ยายสายหยุดระบายลมหายใจช้าๆ ลูกหลานมาให้เห็นหน้า ยังไม่ทันได้ชื่นใจก็ต้องรีบเผ่นกลับเสียแล้วเพราะงานรัดตัว “ไม่เป็นไรลูก ว่างเมื่อไหร่ค่อยแวะมาหายายใหม่ก็แล้วกัน เอ่อ...ขนมเอาไงล่ะ ยายสั่งในครัวทำไว้เสียเยอะแยะ เอาใส่กล่องกลับไปทานที่กรุงเทพฯ แล้วกันนะลูก แล้วผ้าพวกนี้ล่ะ อยากเอาไปสักผืนสองผืนไหม? ยายมีเยอะเก็บไว้ให้พวกเรานั่นแหละ” สีดามองผ้ากองพะเนินพร้อมกับคิด เธอลูบไล้ปลายนิ้วไปตามผิวผ้า ผ้าไหมเรียบลื่นผิวเป็นมันวาว สีหมากแห้งเด่นสะดุดตา ตัดกับผิวกายของเธอจนตัดใจวางไม่ลง “สีดาขอผืนนี้แล้วกันนะคะ สีแปลกดี วางมือทาบลงไป ผิวผ่องขึ้นมาเลยค่ะ” ยายสายหยุดคลี่ยิ้ม สีดาตาถึงเลือกผ้าผืนงามเสียด้วย ผ้าไหมทำยาก ยิ่งมีสียิ่งยากกว่า สีหมากแห้งไม่ซีดแล้วก็ไม่จัดระดับสีอยู่กลางๆ แต่หากคนผิวขาวใส่จะเด่นสะดุดตาเชียวล่ะ ขนมหลายกล่องวางอยู่เบาะท้ายรถยนต์ เมื่อสายหยุดรีบเกณฑ์คนงานในบ้านให้รีบแพ็กใส่กล่อง เพราะหลานรักต้องรีบกลับ ท่านไม่อยากให้ขนมทั้งหมดเป็นหม้าย และคุณสาวๆ ในเมืองน่าจะยินดีเมื่อมีลาภปากจากอยุธยาไปฝาก...เป็นขนมเก่าๆ ที่แทบจะไม่เห็นคนทำขายในตลาด เนื่องจากขั้นตอนยุ่งยาก ผลกำไรไม่คุ้มค่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD