“ถามจริง…ทำแบบนี้เพื่ออะไร จะเอาอะไรจากฉันอีก…” ฉันลดฝ่ามือลง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเอ่ยถามออกไป ไม่ใช่เพราะยอมหรืออะไรหรอกนะ แต่แค่คิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไงฉันก็เสียเปรียบไปหมดทุกทางอยู่ดี ลองใจดีสู้เสือดูสักตั้ง…เผื่อมันจะได้ผล
“ไม่รู้”
“เป็นบ้าเหรอ”
“ไม่รู้เว้ย!” เขาพูดออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะปล่อยตัวฉันออกให้เป็นอิสระ แล้วเดินไปนั่งที่ปลายเตียงแล้วมองมาที่ฉันก่อนจะตบที่นอนข้างๆ
“มานอนซะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปส่ง” เขาพูดเสียงอ่อน
“...” แต่ฉันก็ยังเงียบ
“เรื่องเมื่อคืน...ขอโทษ”
“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง…”
“...” พี่ปืนมองฉันนิ่งๆ ฉันมองตอบด้วยความเจ็บใจ กลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วเค้นคำพูดออกมา
“เพราะความรู้สึกที่เสียไป มันก็เอากลับมาไม่ได้อยู่ดี”
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพราะต้องการจะหนีออกมาจากที่นั่น เพราะเมื่อคืนหมอนั่นนั่งเฝ้าฉัน จนฉันหลับคาโซฟา แต่เช้ามาก็ดันไปตื่นที่เตียง
เออ...แต่ช่างมันเถอะ! ตอนนี้มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พอออกมาจากโรงแรมได้ ฉันก็รีบเรียกแท็กซี่และตรงกลับคอนโดทันที ตอนแรกจะโทรให้ไอ้มาวินมารับตั้งแต่เมื่อคืน แต่โทรศัพท์ก็แบตหมดเสียอย่างงั้น ติดต่ออะไรใครไม่ได้เลยทีนี้
@คอนโด
ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างเหนื่อยล้าหลังจากที่ขึ้นมาถึงห้องตัวเอง แล้วเสียบชาร์จแบตโทรศัพท์ไปด้วยพร้อมกับเปิดเครื่อง ป่านนี้พ่อกับแม่คงจะห่วงฉันแย่แล้วมั้ง เพราะฉันบอกว่าจะกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
ติ๊งๆ ตึ๊งๆๆๆ
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นถี่ยิบตามคาด มีทั้งไลน์จากกรุปดาวเดือน และจากพ่อและแม่ของฉันที่คงจะตามหาตัวฉันกันจ้าละหวั่น ฉันเปิดเข้าไปดูไลน์ของแม่ที่ส่งมา ก่อนจะกดตอบไป ซึ่งแม่ก็ตอบฉันกลับมาทันที เหมือนกำลังรออยู่...รู้สึกผิดจัง
[Line]
Mom - 1 ม.ค. 20XX
Mom : จะกลับวันไหนลูก
Mom : ไม่ได้กลับวันนี้เหรอ
Mom - 2 ม.ค. 20XX
Mom : กรีน ไม่ตอบแม่ล่ะ
Mom : กรีนเป็นอะไรหรือเปล่าลูก
Green : กำลังจะกลับค่ะ พอดีว่าเมื่อวานติดธุระ…แบตโทรศัพท์หมดด้วย
Mom : เหรอลูก
Mom : งั้นบ่ายโมงครึ่งมาที่ร้าน Yada-Restaurant เลยนะ
Green : ไปทำไมคะ
Mom : แม่นัดเพื่อนไว้น่ะ
Green : ได้ค่ะ
13.30 น.
@Yada-Restaurant
ฉันมาถึงที่นี่ตรงเวลาพอดี พอมองเข้าไปในร้านก็เห็นแม่นั่งคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งในร้าน ซึ่งน่าจะเป็นเพื่อนของแม่นั่นแหละ เพราะฉันไม่ค่อยได้อยู่กับแม่สักเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยรู้ว่าเพื่อนแม่คือคนไหนบ้าง ฉันพาตัวเองเดินเข้าไปในร้าน และยกมือไหว้ท่านทั้งสองตามมารยาท
“อ้าว...มาพอดีเลย นั่งสิๆ” แม่ฉันเอ่ยบอกก่อนที่ฉันยิ้มให้ท่านทั้งสองเล็กน้อย และนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ แม่
“หนูกรีนนี่สวยสมราคาคุยของแม่หนูเลยจริงๆ นะ…” ผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่พูดแล้วส่งยิ้มใจดีมาให้
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือไหว้เพื่อนแม่ ยิ้มตอบไปเล็กน้อย
“กิริยามารยาทก็เรียบร้อย น่ารักจริงๆ” ท่านก็ยังคงชมฉันไม่ขาดปาก
“ขอโทษนะครับแม่ รถติดนิดหน่อย สวัสดีครับคุณนะ..น้า!” แต่ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน...เสียงคุ้นหูดังขึ้น จนฉันต้องเงยหน้าขึ้นมองและก็พบกับผู้ชายที่ฉันพึ่งหนีเขามาเมื่อตอนเช้า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!
“กรีน..!” พี่ปืนอุทานออกมาเบาๆ ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนแปลกใจที่ฉันกับเขารู้จักกัน
“อ้าว…ปืนรู้จักน้องด้วยเหรอ” เพื่อนของแม่ฉันที่คาดว่าต้องเป็นแม่ของพี่ปืนเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ครับ/ไม่ค่ะ!” ฉันกับพี่ปืนตอบออกไปพร้อมกัน แต่ดันตอบไม่ตรงกัน ฉันถลึงตามองคนที่พูดออกไปไม่คิด
“อ้าว.. ยังไงยัยกรีน…หนูรู้จักพี่เขามั้ย” แม่ฉันถามย้ำสายตาเขม่นมองมาอย่างคาดคั้น
“เอ่อ...ก็…”
“ว่าแต่แม่เรียกผมมามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” พี่ปืนก็เอ่ยขัดขึ้น พร้อมกับนั่งลงข้างๆ แม่ของเขา ซึ่งมันก็คือฝั่งตรงข้ามกับฉัน นี่มันคงเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ฉันรู้สึกขอบคุณหมอนี่ เพราะฉันเองก็ไม่รู้จะอธิบายให้แม่ฉันฟังยังไงเหมือนกัน คิดข้อแก้ตัวไม่ทันจริงๆ ยอมรับว่าตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนนี้
“น้องน่ารักมั้ย” แม่พี่ปืนถามเขา จนพี่ปืนหันหน้ามามองฉัน
“ก็...น่ารักดีครับ”
“ชอบมั้ย”
“ผมตอบไม่ได้หรอกครับว่าชอบมั้ย” พี่ปืนตอบออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ
“แม่ว่าน้องน่ารักดีนะ…ถ้าปืนไม่ว่าอะไร แม่อยากให้ปืนกับหนูกรีนลองคบหาดูใจกันนะ”
“อะไรนะคะ” เป็นฉันเองที่หลุดอุทานออกไปอย่างเสียมารยาท แต่ช่างมารยาทมันก่อนเถอะ! แบบนี้เริ่มไม่โอเคแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าแม่เรียกฉันมาที่นี่เพื่อพาฉันมานัดดูตัวอะไรนั่นอีกแล้ว
ใช่! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่ฉันทำแบบนี้ แม่บอกว่าฉันนิสัยไม่ดีเรื่องผู้ชาย ซึ่งมันทำให้คุณพ่อเครียดมากๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม่เลยพาฉันไปหาลูกชายเพื่อนแม่มาแล้วหลายต่อหลายคน เพื่อหวังจะให้ฉันคบกับใครเป็นตัวเป็นตนสักที แต่ฉันก็เซย์โนมาโดยตลอด ตอนแรกนึกว่าแม่จะถอดใจแล้วด้วยซ้ำ แต่นี่คือไร...
“คือแบบนี้นะหนูกรีน...ป้ากับแม่หนูอ่ะ เราทั้งคู่เครียดกันมากเรื่องพวกเราสองคน เราเลยคิดว่าถ้าลองจับพวกหนูมาอยู่ด้วยกัน น่าจะเอากันอยู่น่ะจ๊ะ…” ห๊ะ!! อะไรกัน
“ไม่บังคับกันเกินไปหน่อยเหรอคะ ตอนนี้กรีนพึ่งจะอายุ 19 เองนะคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดหงุดหงิดนิดหน่อย นิสัยที่บ้านถูกนำออกมาใช้ แต่สิ่งที่คนตรงข้ามพูดทำฉันหันกลับไปมองคอแทบเคล็ด
“ผมตกลงครับ” จู่ๆ ไอ้พี่ปืนก็พูดขึ้น พร้อมกับจ้องมองมาที่ฉันที่นั่งอ้าปากเหวอหนัก สีหน้าเขาดูนิ่งมากๆ ฉันมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าในหัวของเขามันคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่าจะคิดอะไรอยู่ มันก็ต้องไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆ
“น้องก็บอกแม่ของเราไปสิครับ...ว่าคืนข้ามปีเรา…”
“นี่...หยุดพูดนะ!” ฉันตะคอกใส่พี่มัน โดยไม่คิดรักษามารยาท
“มีอะไรกันหรือเปล่าปืน” แม่พี่ปืนก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง
"อย่าพูดนะ..." ฉันร้องห้าม แต่ไม่ทัน
“ผมกับน้องกรีน เรามีอะไรกันแล้วครับ…”
“อะไรนะ!!” และนี่คือเสียงของแม่ๆ ของเราทั้งคู่ ไม่ต้องบอกว่าตอนนี้ฉันต้องเจอกับอะไร
“กรีน....นี่มันเรื่องอะไรกัน” แม่หันมามองฉันด้วยสายตาผิดหวังและคาดคั้น ฉันหลบสายตาแม่แล้วหันไปมองอีกคนด้วยสายตาอาฆาต
...ฉันจะฆ่านาย!
“วันนั้นเราทั้งคู่เมามากเลยครับ ก็เลยพลาด... แต่คุณน้าไม่ต้องกลัวนะครับ”
พลาด เหอะ..! ฉันพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกเบือนหน้าหนี สายตาแม่ๆ และผู้ชายคนนั้น
“...”
พอเขาพูดจบทั้งโต๊ะก็เงียบแต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังพูดต่อ
“ผมจะรับผิดชอบลูกสาวคุณน้าเอง…”