นึกถึง

1822 Words
บึก เสียงวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะทำงานของเอเทนดังขึ้นเสียงดัง "ไอ้เพื่อนบ้า มึงคิดอะไรของมึงอยู่ว่ะ" คิรินเดินเข้ามาวางแฟ้มเอกสารลงแล้วถามขึ้นเสียงดัง "คิดอะไรว่ะ" เอเทนยังถามขึ้นอีกครั้งแต่ตายังมองไปที่แฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้า "มึงคิดอะไรอยู่ถึงไปมีเรื่องกับหมอมาวิน มึงก็รู้ว่าเขาเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลนี้มาพร้อมคุณอาสันติกับ" "พ่อของกู" เอเทนพูดแทรกขึ้น คิรินทำหน้าอึ้งไปนิดๆเพราะด้วยความเป็นห่วงเพื่อนจึงพูดอะไรออกมาไม่คิด สีหน้าของเอเทนดูเปลี่ยนไปเป็นเรียบนิ่ง เหมือนคนไร้ความรู้สึก ส่วนอันอันได้แต่นั่งนิ่งไม่พูดจาอะไร "กูไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้มึงสะเทือนใจนะเว้ย เอ่อกู กูแต่ปะ" คิรินที่ได้สติรีบพูดออกมา "กูรู้ว่ามึงเป็นห่วง มึงลองคิดดูถ้าไทเกอร์รักษาคนต่อต้องมีคนตายอีกมากมายแค่ไหน" เอเทนพูดออมาทั้งคิรินและอันอันฟังแล้วก็คิดตาม "อือ อันนี้ฉันเห็นด้วยกับเอเทนนะ แต่ว่าการที่นายไปมีเรื่องกับหมอมาวินแบบนั้นไม่มีอะไรดีเลยนะ ที่พวกฉันพูดเพราะพวกฉันเป็นห่วงแกน่ะเว้ย" อันอันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปรกติ คิรินพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอันอัน ทั้งสามคนคุยกันไปพักใหญ่ จนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนเที่ยงวันตัวของทั้งสามคนก็ต้องแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตัวเอง เอเทนเองก็เหมือนกันมีหน้าที่ต้องไปจัดการงานเอกสารที่บริษัทส่งออกอุปกรณ์การแพทย์ "ดาว ดาวเอ้ย ดาว" เสียงดวงเดือนผู้เป็นแม่ตะโกนเรียกดาวจากทางด้านล่าง "คะแม่" ดาวตอบรับแล้วรับวิ่งลงมา ถึงแม้จะไม่อยากตื่นเพราะได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทำงานหนักมาทั้งคืน "เอาข้าวไปส่งพี่บัวให้แม่ทีค่อยกลับมานอนต่อ" ดวงเดือนบอกลูกสาวคนเล็กของบ้านและเป็นลูกสาวคนเดียวที่ต้องทำทุกอย่างเหมือนเป็นเสาหลักของครอบครัว "ดาว ดาวลูก" เสียงยายดา อายุ 76ปี เรียกดาวขึ้น "จ้ายาย ว่าไงจ๊ะ" ดาวเดินมาหายายแล้วพูดขึ้น "ไปซื้อยาคลายเส้นมาให้ยายด้วยนะ ปวดตัวจนอนไม่ได้มาหลายคืนแล้ว" ยายดาบอกหลานเพียงคนเดียวขึ้น "แต่ยาย กินเยอะไม่ดีนะ" ดาวเหนือพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง "ไม่กินก็นอนไม่ได้" ยายดาพูดออกมาพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมาที่หลานสาว "ก็ได้ๆคะ" ดาวใจอ่อนทันทีที่สายตาอ้อนๆของยาย "พี่ดาว ภาอยากกินขนม" นภาหลานสาวเพียงคนเดียวของดาวเหนือ ที่ดาวเหนือเลี้ยงมาตังแต่เกิด "อีกแล้วนะยัยภากินให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ เงินนะกว่าจะหาได้แต่ละบาทแทบตาย แต่แกใช้เหมือนบ้านรวยเป็นมหาเศรษฐีเลยนะ" ดาวพูดออกมาแล้วทำหน้ามุ้ยขึ้นมาทันที ดาวเหนือสาวน้อยวัย 22ปี ที่มีความเก่งอยู่ในตัว ทำทุุกอย่างเพื่อให้แม่ ยาย และหลานสาวคนเดียวอยู่ให้สุขสบายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดาวเหนือจึงเป็นเดอะแบกของบ้าน ทั้งหาเงิน ช่วยแม่ส่งอาหาร ทำอาหารบ้างบ้างครั้ง ทำให้เวลานอนของดาวเหนือมีแค่ไม่กี่ชั่วโมง แถมยัยดาวเหนือของเรายังเจียดเวลาอันมีคาไปทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมอีกด้วยนะ ผ่านไปหลายวัน ครืดดดด ครืดดดด ครืดดดด เสียงโทรศัพของดาวเหนือดังขึ้น "ว่าไง" เสียงดาวเหนือถามขึ้นทันทีที่รับสาย "แกมีเงินสัก 2 พันไหมฉันขอยืมหน่อย" เสียงฟ้าใส พี่สาวของดาวเหนือพูดขึ้น "นี้พี่ ฉันทำงานจนหัวหมุน เลี้ยงลูกพี่มาจนถึงทุกวันนี้เงินสักบาทพี่ก็ไม่เคยโอนมา พี่แทบจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยทำงานใช้เงินคนเดียว แต่ไม่พอใช้ คืออะไร" ดาวเหนือที่เริ่มเหนื่อยกับการทำงาน รวมถึงการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้อารมณ์สวิงมากพอสมควรพูดขึ้น "แกยิ่งโตยิ่งปีกกล้าขาแข็งขึ้นทุกวันสิน่ะ" พี่สาวของดาวเหนือไม่พอใจที่ไม่ได้เงินตามที่หวังบ่นออกมา "แล้วแต่จะคิด" ดาวเหนือวางสายแล้วถอนหายใจออกมา ตุ๊บๆๆๆ ตุ๊บๆๆๆ ตุ๊บๆๆ เสียงเหมือนมีอะไรกลิ้งลงบันไดบ้าน ดาวเหนือรีบวิ่งมาดูทันที "ยาย ยาย ยาย" ดาวเหนือรีบวิ่งมาเรียกยายที่นอนคว่ำหน้าลงไปกองกับพื้นเลือดไหลนองออกมา "นภา นภา บอกแม่โทรเรียกรถพยาบาลที" ดาวเหนือตะโกนออกมาด้วยความร้อนใจ ณ โรงพยาบาล "พี่บัว พี่บัว ฝากดูยายด้วยนะคะ" ดาวเหนือพูดอกมาด้วยสีหน้าที่ไม่ดีมากนัก "ไม่ต้องห่วง พี่จะดูแลให้" บัวรีบเดินเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินทันที "พี่บัว หมอคิรินติดเคสด่วนตอนนี้ไม่มีหมอคนไหนว่างเลยคะ" พยาบาลประจำห้องฉุกเฉินพูดออกมา "เอาไงดีละทีนี้ ทำแผลไปก่อนเดี๋ยวพี่มา" บัวรีบวิ่งตรงไปหาเอเทนทันที "อาจารย์หมอ พี่มีเรื่องรบกวน" บัวเดินเข้าไปในห้องของเอเทนแล้วพูดออมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล เอเทนตามบัวไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อดูอาการคนป่วยที่ว่าทันที ทั้งส่งทีซีแสกนและสั่งให้แอดมิดเพื่อรอดูผลตรวจ เอเทนวิ่งทำหน้าที่หมอในห้องฉุกเฉินอย่างเต็มความสามารถ หน้าห้องฉุกเฉิน แอ๊ดดดด เสียงประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก "หมอคะ ยายฉันเป็นยังไงบ้างคะ" ดาวเหนือวิ่งไปถามหมอขึ้นทันทีพร้อใกับแม่ของดาวเหนือที่นั่งดมยาที่เก้าอี้รอฟังคำตอบของหมออยู่ "นี้เธอ" เอเทนถอดหน้ากากอนามัยออกมาแล้วอุทานเรียกชื่อเด็กสาวคนที่ตนจับรถชนท้ายของเธอไปเมื่อวันก่อน "นี้นาย" ทั้งสองคนอุทานออกมาพร้อมกัน "อาจารย์หมอคะ" บัวเดินเข้ามาหาเอเทนแล้วเรียกเอเทนขึ้น "อาจจารย์หมอเหรอ" ดาวเหนือทวนคำของบัว "ใช่ คนนีคือท่านประธานของโรงพยาบาล รู้จักกันเหรอ" บัวถามทั้งสองคนขึ้น "ไม่รู้จัก / รู้จัก" ดาวเหนือพูดออกมาว่าไม่รู้จัก แต่เอเทนพูดออกมาว่ารู้จัก บัวมองหน้าทั้งสองคนไปมาอย่างสงสัย "ตามไปที่ห้อง" เอเทนพูดจบก็เดินไปที่ห้องตรวจประจำของตนทันที "นภากับแม่รอตรงนี้นะ ยัยดื้อดูแลแม่ด้วยเดี่ยวพี่มา" ทันทีที่บอกหลานสาวกับแม่เสร็จดาวเหนือก็รีบวิ่งตามเอเทนไป ในห้องของเอเทน "ยายดา มีเนื้องอกในสมองดีที่ยังไม่ถึงระยะสุดท้ายยังสามารถรักษาได้อยู่" เอเทนพูดออกมาพร้อมกับมองไปที่ผลของทีซีแสกน "ห๊ะ ว่าไงน่ะคะ" ดาวเหนือถามออกมาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด "เราจำเป็นต้องผ่าตัดก้อนเนื้อนั้นออกมา" เอเทนพูดขึ้น "แพงไหม" ดาวเหรือถามประโยคแรกออกมา "ประมาน 2แสน ถ้ารวมห้องพักฟื้นขณะรักษาตัวอยู่ที่นี้ก็น่าจะเกือบๆ 3แสนได้" เอเทนพูดพร้อมกับเซนต์เอกสารในมือ "สะ สะ สามแสนเหรอ" ดาวเหนือทรุดลงกับที่ เงินสามแสนสำหรับพนักงานจนๆบ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อมันเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากสำหรับตัวของดาวเหนือเอง "ทำไม มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ" เอเทนเงยหน้าขึ้นมามองไปที่ดาวเหนือ ดวงตาของดาวเหนือตอนนี้สื่อไปถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด "ฉันไม่มีเงินเยอะมากมายขนาดนั้นหรอกน่ะ" ดาวเหนือสารภาพออกมาตามตรง "......" เอเทนนั่งนิ่งมองไปที่เด็กสาวที่ตนเองไม่รู้นิสัยใจคออะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆถึงเกิดความสงสารยัยเด็กบ้านี้ขึ้นมาซะอย่างนั้น "คะ คะ คือว่า ถ้าจะเป็นไปได้ฉันขอผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนไม่มีดอกเบี้ยได้ไหม" ดางเหนือพูดออกมาแล้วก้มหน้าลงพื้นมองต่ำทันที "ห๊ะ ว่าอะไรน่ะ" เอเอทนถามขึ้น "ก็ฉันไม่มีเงินนิ ฉันขอผ่อนค่าผ่าตัดของยายฉันได้ไหม" ดาวเหนือยังพูดออกมา เย็นวันเดียวกัน "พี่เอเทนคะ" เสียงหญิงสาวที่เอเทนคุ้นหูดังแว่วมาแต่ไกล "เห้อออ น่าเบื่อจังว่ะ" เอเทนถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย "บุหลันมาตั้งแต่เมื่อไหร่" เอเทนถามบุหลันขึ้น "มาตั้งแต่ตอนเย็นแล้วคะ มารอพี่ตั้งนานแล้ว" บุหลันเดินไปคล้องแขนเอเทนแล้วเดินเข้าไปที่ห้องอาหารด้วยกัน "มาแล้วเหรอลูก มาๆมาทานอาหารกันก่อนนะ" นาราเรียกเอเทนขึ้น "เป็นหนุ่มแล้ว หล่อเหลามาก" แม่ของบุหันพูดขึ้น "มีแฟนหรือยังนะ" แม่ของบุหลันถามเอเทนหลังจากที่เอเทนนั่งลงที่เก้าอี้ "ยะ" นารากำลังจตะตอบออกไป "มีแล้วครับ" เอเทนรีบพูดออกไปก่อนที่ตัวเองจะถูกจับคลุมถุงชนกับคุณหนูบุหลันที่แสนจะเอาแต่ใจทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง ตัวของเอเทนเองต้องการเพื่อนร่วมคิด คู่คิด เพื่อนร่วมทาง ที่ปรึกษาที่ดีเวลาหาทางออกไมเจอ คนที่คอยช่วยกันแก้ปัญหาและที่สำคัญต้องดูแลตัวเองได้เพราะอาชีพของหมอไม่สามารที่จะมานั่งดูแลคนในครอบครัวของตัวเองได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ผู้ตามที่อ่อนแอเอาแต่สั่งๆๆเท่านั้น เอเทน: ซวยแล้วเอเทนเอ้ย ปากไวจังนะแก แล้วใครละใตครจะมาเป็นแฟนของแก ยัยเด็กบ้านั้น!!! ทำไมอยู่ๆถึงนึกถึงยัยเด็กบ้านั้นนะ หรือนี้จะเป็นทางรอดเดียวที่จะไม่ต้องถูกจับให้คบกับบุหลัน ยัยเด็กบ้าคนนั้นดูท่าทางจะทำงานเก่ง เหมาะจะเป็นเพื่อนคู่คิดก็ดี เป็นแบบนี้ก็ดีในเมื่อโอกาสมาถึงและผมเองก็มีทางเลือกไม่มากนัก ยัยเด็กบ้าคนนั้นอาจจะเป็นคนเดียวที่ช่วยผมได้ในตอนนี้ เอเทนเริ่มมีความนึกคิดอะไรบางอย่างที่แผลงๆขึ้นมาอีกแล้วสิทีนี้ ว่าแต่ว่าคิดถึงกับนึกถึงมันเหมือนกันหรือเปล่านะ แล้วการที่เอเทนคิดถึงยัยเด็กบ้าคนนั้นมันกำลังก่อเกิดความรู้สึกที่พิเศษอะไรที่เพิ่มมากขึ้นหรือคิกว่าดาวเหนือเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมครั้งนี้กันแน่ มีแค่ตัวของเอเทนเองที่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงและต้องการอะไรจากดาวเหนือกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD