เรื่องบังเอิญ

1504 Words
เอี๊ยดดดดด โครมมมม เสียงรถชนเอเทนกับเอเดนเข้าอย่างจังจนทั้งสองคนกระเด็ยไปคนละทิศคนละทาง "เอเดน เอเดน" เอเทนพึมพำชื่อน้องชายออกมาแล้วพยายามจะลุกขึ้นเพื่อไปตามหาน้องชายที่กระเด็นไปอีกทาง แต่เนื่องด้วยร่างกานของเอเทนถูกชนเข้าอย่างจังจึงทำให้เอเทนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ "นายครับ"ชายคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเอเทนวิ่งมาถึงรถก็เรียกคนในรถขึ้น "มันตายหรือยัง" สิ้นคำถามมีชายคนหนึ่งวิ่งมาทางเอเทน "ยังไม่ตายครับพี่" เสียงชายคนนั้นตะโกนกลับไป "อีกคนละ" คนในรถยังถามต่อ "ไม่เจอครับนาย เจอคนเดียว" ชายคนเดิมยังตะโกนกลับไป "ฆ่ามันให้ตาย แล้วไปตามหาไอ้เด็กเวรนั้นจัดการฆ่ามันทิ้งซะ อย่าให้พลาด" เสียงชายคนนั้นสั่งลูกน้องแล้วขับรถออกไปทันที "เห้อ เสียใจด้วยนะไอ้หนู แกไม่น่าเกิดมาเป็นลูกศัตรูนายฉันเลย อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะ" ชายที่เป็นหัวหน้าเดินเข้ามาพร้อมกับพูดออกมาแล้วเล็งปืนไปที่ตัวของเอเทนทันที ปี๊ดๆๆ ปี๊ดๆๆ ปี๊ดดดดดด โครมมม เสียงรถวิ่งเข้ามาพร้อมกับบีบแตรลากยาว ไม่นานก็ชนไปที่ลูกน้องของชายคนนั้น ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง เมื่อประตูรถเปิดออก ก็มีเสียงปืนดังขึ้น "เอเทน เอเทน เอเทน" เสียงชายคนหนึ่งวิ่งมาหาเอเทนแล้วพยายามเรียกสติเอเทนให้กลับมา "คุณลุง เอเดน ช่วยเอเดนด้วย" สิ้นสุดประโยคนี้เอเทนก็สลบไป "เอเทน เอเทน ไอ้เอเทน" เสียงเรียกเอเทนเสียงดังจนเอเทนสดุ้งเฮือกออกมา "หึ มีไร" เอเทนพยายามปรับเสียงให้ดูปรกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ "มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย กูเรียกตั้งนาน" คิรินเพื่อนรักของเอเทนถามขึ้น "เปล่าไม่ได้เป็นอะไร มึงมีอะไรถึงมาหากูถึงห้องเนี่ย" เอเทนรีบเปลี่ยนประเด็นแล้วถามขึ้น "มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง มึงกำลังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ใช่ไหม" คิรินนั่งลงที่โซฟาแล้วถามออกมา "เอเทน เรื่องนี้มันก็ผ่านมานานมากแล้วนะ ทำไมถึงยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ละ"อันอันถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเอเทนมาก "ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยังต้องคิดถึงเรื่องนี้อยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าเอเดนคือญาติคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่ละมั่ง" เอเทนตอบออกมา "นี้มึง" กริ๊งงงง กริ๊งงงง กริ๊งงงง เสียงโทรศัพห้องเอเทนดังขึ้นก่อนที่คิรินจะพูดจบ "สวัสดีครับ เอเทนรับสาย" "อาจารย์หมอคะ" เสียงปลายสายดูตกใจมากพูดขึ้น "มีอะไร" "มีชายคนหนึ่ง ชื่อเจย์เดนถูกยิงมาเสียเลือดมาก แล้วบังเอิญเลือดกรุ๊บเดียวกับอาจาร์ยหมอ" พยาบาลยังพูดไม่จบ "อือ รู้แล้ว เดี๋ยวฉันไป อ๋อ ให้หมอคิรินเป็นคนเข้าผ่าตัดเคสนี้นะ" เอเทนพูดจบก็วางสายไป "ห๊ะ อะไรนะ ทำไมต้องกูว่ะ กูออกเวรแล้ว" คิรินลุกขึ้นแล้วทำหน้าตาตกใจ "คนนี้สำคัญ เดี๋ยวพวกมึงก็รู้เอง" เอเทนพูดจบก็เดินนำหน้าทุกคนออกไปทันที "อะไรของมันว่ะ" คิรินหันไปถามอันอัน "ไม่รู้ อยากรู้ก็ตามไปดิ" อันอันพูดจบก็เดินนำหน้าคิรินออกไป คิรินทำหน้าเซงออกมาแล้วจำใจที่จะต้องเดินตาทุกคนไป ณ หน้าห้องฉุกเฉิน "ญาติคนไข้เซนต์เอกสารครบหรือยัง" เอเทนเดินมาถามพยาบาลขึ้น "ครบแล้วคะ" "งั้นไปเตรียมตัวได้เลย หมอคิรินจะเป็นคนผ่าตัดเคสนี้" เอเทนพูดขึ้น "แต่ว่า" "ผมสั่ง คุณมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ" เอเทนถามพยาบาลขึ้น "ไม่มีคะ" พยาบาลพูดจบก็เดินออกไปทันที "ไม่ต้องห่วงนะครับ พวกเราจะรักษาคนไข้ให้สุดความสามารถ" เอเทนพูดจบก็เดินตามพยาบาลไปทันที ในห้องผ่าตัด "เอเทน นี้มึง" "อือ มึงจะเป็นคนผ่าตัด กูจะเป็นคนให้เลือด คิรินคนไข้คนนี้เป็นคนที่สำคัญมากกูขอร้อง" เอเทนมองมาที่คิรินด้วยสายตาที่คิรินเองก็ไม่เคยเจอ "มึงแน่ใจแล้วนะที่จะทำแบบนี้" คิรินถามขึ้น เอเทนเปิดผ้าปิดปากออก ทั้งคิรินและอันอัน ต่างอึ้งไปกับสิ่งที่ได้เห็นอยู่ตอนนี้ "นี้มัน" คิรินหยุดคำพูดไว้แค่นี้ เอเทนรีบสวมหน้ากากอนามัยทันทีที่มีพยาบาลเดินเข้ามา "อันอัน" คิรินมองหน้าอันอัน ทั้งสามคนได้เข้าห้องผ่าตัดและจัดการตามลำดับ การผ่าตัดเสร็จสิ้นและดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรที่ผิดพลาด ตลอดระยะเวลาที่เจย์เดนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอเทนเองก็เข้ามาเยี่ยมบ่อยและคอยถามนู้นนี้นั้น แต่ดูท่าทางแล้วตัวของเจย์เดนเองจะจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว จนเวลาล่วงเลยผ่านไป เจย์เดนได้ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เอเทนเองก็คอยตามสืบเรื่องของเจย์เดน และเรื่องของเอเดนไปพร้อมๆกัน แต่ด้วยทั้งหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องงาน และเรื่องที่พ่อแม่บุญธรรม หรือคุณสันติและคุณนารา เพื่อนรักของพ่อเอเทนและเป็นคนเดียวกับที่ไปช่วยเอเทนในวันนั้น จัดการเซนต์รับเอเทนเป็นลูกบุญธรรมเพราะทั้งสองท่านไม่มีลูก จึงมีเอเทนเป็นทายาทเพียงคนเดียว ภาระหนักอึ้งจึงมาตกที่เอเทนเพราะต้องดูแลทั้งโรงพยาบาล และดูแลบริษัทนำเข้าส่งออกอุปกรณ์การแพทย์เองทั้งหมด ณ บ้านสันตินวะนารา บ้านของคุณสัติและคุณนารา และเป็นบ้านที่เอเทนอาศัยอยู่จนโตมาถึงขนาดนี้ "เป็นไงบ้างลูกวันนี้" สันติถามขึ้นทันทีที่เอเทนนั่งลงที่โต๊ะอาหาร "เหมือนเดิมครับ" เอเทนพูดออกไป "เหนื่อยมากละสิ" สันติถามออกมา "นี้คุณ เอเทนพึ่งเลิกงานมาเหนื่อยๆ มาลูกมากินข้าวกันดีกว่า นี้ของโปรดเอเทนไง" นารา ภรรยาของสันติยิ้มกว้างให้เอเทน "ขอบคุณครับ" เอเทนยิ้มให้นาราแล้วพูดออกมา "วันนี้หนู บุหลัน มาที่บ้านด้วยนะบอกว่าไปหาลูกแล้วไม่เจอ" นาราพูดออกมาพรางตักอาหารใส่จานให้เอเทน "พอดีผมเข้าไปที่ห้องผ่าตัดนะครับ" เอเทนตอบความจริงออกมา "ทำไมวันนี้เข้าห้องผ่าตัดละลูก มีอะไรหรือเปล่า" นาราถามออกมาด้วยความห่วงใย "ผมเจอคนๆหนึ่ง สงสัยว่าจะเป็นเอเดน" เอเทนพูดออกมาแล้วก้มหน้าลงต่ำ "ว่าไงนะ แกเจอเอเดนแล้วงั้นเหรอ เขาอยู่ที่ไหน สบายดีไหม" สันติถามออกมาด้วยความดีใจ "ผมแค่สงสัย ขอเวลาพิสูทธิ์อะไรอีกสักนิดเถอะครับ ผมต้องแน่ใจว่าเขาคือเอเดนจริงๆแล้วจะพามาหานะครับ" เอเทนตอบออกมาพร้อมกับตักอาหารเข้าปาก "เรื่องหนูบุหลัน ถ้าไม่ชอบหรือลำคานบอกแม่ได้นะลูก" นาราเริ่มเปิดประเด็น "ผมมีงานมากมายที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องแต่งงานผมขอไว้อีกสักพักได้ไหมครับ" เอเทนพูดออกมาตรงๆ "ผมบอกคุณไปแล้ว ยัยหนูบุหลันนั้นไม่เหมาะจะมาเป็นคู่ลูกชายเราหรอก วันๆไม่ทำการทำงานวิ่งตามหาแต่ผู้ชาย" สันติเสริมขึ้น "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมคิดว่าเรื่องบุหลัน เราสองคนก็รู้จักกันมานานหลายปี เหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่าจะเป็นคู่รักกันนะครับ" เอเทน "แม่ไม่บังคับอะไรลูกหรอกเอเทน อะไรที่ลูกสบายใจก็ทำไปเถอะ แต่อย่าลืมนะ ลูกเองก็อายุมากแล้วแม่เองก็แก่ตัวลงทุกวัน แม่แค่อยากอุ้มหลาน" นาราทำหน้าตาเศร้าสร้อยลงอย่างเห็นได้ชัด "แม่ครับ ผมขอเวลาอีกไม่นาน" เอเทนเดินไปหานารานั่งคุกเข่าลงตรงกลางระหว่างนาราและสันติ เอเทนจับมือนาราขึ้นมาแล้วพูดขึ้น "สัก 6 เดือนได้ไหมนะลูกนะ" นาราเซ้าซี้ต่อ "ได้ครับ แต่ผมขอเป็นคนเลือกเจ้าสาวของผมเองนะครับ" เอเทนพูดขึ้น "ได้สิลูก ไม่มีปัญหาแม่จะไม่บังคับอะไรลูกนะ" นาราพูดจบก็โอบกอดลูกชายเพียงคนเดียวที่ตัวเองรักมากที่สุด รักดังแก้วตาดวงใจ ทั้งสามคนทานอาหารค่ำกันด้วยความสุข บรรยากาศที่บ้านหลังนี้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เอเทนเข้ามาอยู่วันแรกจนถึงวันนี้ ทุกคนในบ้านรักและเชื่อฟังเอเทนทุกคน ไม่มีใครแสดงท่าทางดูถูก หรือรังเกลียดเอเทนเลยแม้แต่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD