ใบหน้าหวานซุกอยู่ตรงหว่างขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ในขณะที่เอริคกัดฟันกรอดเพราะพยายามเก็บอาการจุกเอาไว้
“คือ ขะ ขอโทษค่ะ คือหนูไม่ตั้งใจค่ะ มาเฟียอย่างคุณอย่าเพิ่งสั่งฆ่าหนูเลยนะคะ” สโนว์รีบดันตัวเองออก ทว่าก่อนหน้านี้เอริคยังมองเด็กสาวที่เอาผมปรกหน้าไม่ค่อยชัด แถมยังอยู่ในชุดรัดรูปสีแดงที่ตัดกับผิวขาวโอโม่ ทำให้มองเห็นหุ่นที่ซ่อนรูปของเธอได้ชัดเจนกว่าตอนใส่เสื้อยืด ที่สำคัญผมที่เคยมัดเรียบตึงก็ถูกปล่อยยาวลงมาแถมยังถูกดัดเป็นลอน จนเขาเองก็ไม่คิดว่าเป็นเธอ
“มาเฟีย?”
“คะ ก็คุณเป็นมาเฟียไม่ใช่เหรอ”
สโนว์เผลอเงยหน้าไปตอบอย่างลืมตัว ทำให้สบกับสายตาคมคู่นั้น และเพราะผมที่เปิดออกจากใบหน้าทำให้เอริคจำเธอได้ทันที
“นะ นี่ เธอเองเหรอ ยายเด็กนั่น!”
เอริคหรี่ตาเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อสายตา เพราะไม่คิดว่าเด็กกะโปโลที่ยืนตะโกนด่าเขาเมื่อเย็นนี้ เวลาแต่งตัวด้วยชุดแบบนี้แทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน ที่สำคัญหน้าอกหน้าใจของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่างมองลงมาเห็นขนาดหน้าอกแล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกันกับเด็กกะโปโลที่เพิ่งเจอ
“คะคือ คุณอย่าเพิ่งสั่งฆ่าหนูเลยนะคะ คือหนูยังเรียนหนังสือไม่จบเลย หนูขอโทษจริง ๆ นะคะ ขอโทษที่เมื่อวานไม่รู้ว่าคุณเป็นมาเฟีย หนูขอโทษที่เตะกล่องดวงใจคุณ หนูขอโทษที่ขับรถชนคุณ หนูขอโทษที่บังอาจไปสั่งสอนคุณ ว่าคุณขับรถไม่มีมารยาท แล้วก็เมื่อกี้ ที่ ที่…ทำให้คุณจุก”
สโนว์ร่างยาวด้วยความกลัว แต่คนร่วมโต๊ะกำลังแอบกลั้นขำที่สโนว์ทำร้ายร่างกายเฮียเอริคหลายคดี โดยเฉพาะคดีที่ทำให้เขา จุก!
“ถ้าเธอไม่หยุดพล่าม ฉันจะตัดลิ้นเธอ!”
“ห๊ะ…คุณเป็นมาเฟียแบบในหนังจริงๆ ด้วย”
สโนว์รีบเอามือปิดปาก
“ไร้สาระ เธอดูหนังมากเกินไปหรือเปล่าห๊ะ!”
“อ้าว ก็ดูคุณแต่งตัวด้วยสูทเต็มยศแบบนี้ แถมมีคนเดินตามหลังมาเป็นโขยง ไม่ใช่มาเฟียแล้วเป็นอะไรล่ะคะ”
เอริคพ่นลมหายใจออกมาอย่างหัวเสีย เพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเด็กพูดมากแบบสโนว์
“เฮียเป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของผับแองเจิลที่มีสาขาทั่วประเทศและในเอเชีย เธอเอาอะไรมาพูดว่าเฮียเป็นมาเฟีย” เสียงชายอีกคนพูดขึ้น
“ก็คนดี ๆ คงไม่ทำธุรกิจแบบนี้หรอกค่ะ จะมีก็แต่มาเฟีย อุฟ ขะ ขอโทษค่ะ” สโนว์รู้ตัวว่าพูดมากเมื่อเจอสายตาดุของเอริค ก่อนจะนึกขึ้นได้
-ห๊ะ…เขาเป็นเจ้าของผับแองเจิล งั้นเขาก็คือเจ้านายของเธอสิ! ขะ เขาจะไล่เธอออกไหมนะ!-
“เธอนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ จะมาชงเหล้าก็มาชงสิ ขึ้นมานั่งนี่! นั่งตรงพื้นอยู่ได้”
“ค่ะ ค่ะ” สโนว์รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่เพราะขาของเธอยังคงเคล็ดจากการสะดุดล้มเมื่อกี้ พอยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เสียการทรงตัวแล้วล้มไปอีกครั้ง
“อ๊ะ ว้าย!”
แต่คราวนี้น่าอายกว่ารอบแรก เพราะหนนี้เธอยืนอยู่ข้างเขา ไม่ใช่เป็นการถลาล้มแล้วเอาใบหน้าไปซบที่ตักเขาอย่างก่อนหน้านี้ หน้าอกนิ่ม ๆ ของสโนว์เลยชนกับใบหน้าเอริค อย่างที่เขาเองก็ไม่ทันตั้งตัวด้วยเช่นกัน แต่กระนั้นตามสัญชาตญาณสองมือของเอริคก็โอบรับร่างเล็กที่เพิ่งล้มลงมา แต่คราวนี้ฝ่ามือไปจับอยู่ตรงก้นนุ่ม ๆ ของสโนว์แทน
กลิ่นหอมอ่อนละมุนจากตัวของเด็กสาว กับหน้าอกนิ่มหยุ่นที่แนบติดบนใบหน้า ทำให้เอริครู้สึกถึงบางอย่างที่อยู่ ๆ ก็เหมือนจะปวดหนึบขึ้นมากะทันหัน
“ฮึ่ม!!”
“ว้าย! ขะ ขอโทษค่ะ”
สโนว์รีบดันตัวออกห่างอีกครั้งเพราะความอายจนเกือบล้มไปข้างหลัง ดีว่าเอริคไหวตัวทันในรอบนี้ เขาเลยรีบดึงแขนเธอกลับมาก่อนจะฉุดเธอให้นั่งลงข้าง ๆ เขา ส่วนหนึ่งเพราะกลัวว่าสโนว์จะเผลอทำอะไรซุ่มซ่ามจนน่าขายหน้ามากไปกว่านี้
ที่แน่ ๆ ในตอนนี้ สายตาของทุกคนที่ร่วมโต๊ะกำลังมองมาที่เธอ เพราะไม่รู้ว่าสโนว์จะโดนลงโทษอะไรบ้าง
เสียงพ่นลมหายใจแรง ๆ จากเอริคดังขึ้นอีกรอบ กอดที่เขาจะกอดอกแล้วยกขาขึ้นมาไขว่ห้างอีกครั้ง
“หึ อย่าบอกนะว่าที่เธอมาทำงานนี้เพราะจะหาเงินมาจ่ายหนี้ให้ฉัน” เอริคเค้นเสียงพูดออกมาแต่ตั้งใจจะให้ได้ยินแค่สองคน
“นะ หนู คือ…”
“หรือเธอตั้งใจจะมาตามมาอ่อยฉันกันแน่”
“นะ หนูเนี่ยเหรอคะ จะอ่อยคุณ!”
สโนว์รีบเงยหน้าขึ้นไปเถียง แต่พอเห็นใบหน้าคมของเขาที่มองลงมา เธอถึงได้รู้ว่าเขากำลังมองไล่ลงมาที่หน้าอกอยู่
สโนว์รีบดึงเสื้อเกาะอกให้สูงขึ้น ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของเขา ทว่าสายตาเจ้ากรรมของเธอสิ พอก้มหน้าหนีดันเผลอมองลงไปที่หน้าตักของเขาอีก
อึก…
นึกถึงตอนใบหน้าตัวเองฝังอยู่ตรงบางส่วนบนหน้าตักของเขา กับตอนที่ใบหน้าเขาฝังอยู่ที่หน้าอกตัวเอง อยู่ ๆ ใบหน้าก็เห่อร้อนออกมาจนไม่กล้าเถียงต่อ
“สบายใจได้ เธออ่อยฉันไม่สำเร็จหรอกเพราะฉันไม่ชอบกินเด็ก!”
เอริคพูดค้างเอาไว้ก่อนจะไล่สายตามองสโนว์ที่นั่งตัวลีบอยู่ข้างเขา
“โดยเฉพาะเด็กพูดมากแบบเธอ น่ารำคาญ!”
ง่า…ผู้ชายคนนี้เกิดมาเพื่อมีหน้าตาหล่อ แต่ปากเสียอย่างเดียวหรือไงนะ
ไม่ทันที่สโนว์จะโต้ตอบอะไร นัชชาก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก ก่อนที่เธอจะเห็นนัชชายอมนั่งลงที่ผู้ชายหน้าหล่อตรงหัวมุมที่ยังไม่มีใครนั่งอยู่ ซึ่งห่างกันไม่ถึงห้านาทีเตชินก็เดินกลับมาด้วยอีกคน แต่รอบนี้มาแปลกเพราะขนาบข้างมาด้วยพี่แนนที่เดินตีคู่คลอเคลียกันไม่ยอมห่าง
เอริคหลี่ตามองอาการของนัชชาที่นั่งหน้างอ พอ ๆ กับน้องชายที่เพิ่งนั่งลงด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ก็รู้สึกเหมือนจะเห็นอะไรสนุก ๆ ดูอีกแล้ว
“หึ ชงเหล้าให้ฉันซิ” เอริคเอ่ยโดยไม่ได้หันมามองหน้าสโนว์ ส่วนสโนว์ก็ประหม่าจนเทแต่เหล้าเพียว ๆ ส่งไปให้เขา
“นะ นี่ค่ะ”
เขาคว้าแก้วเหล้ายกขึ้นดื่มอึกหนึ่ง ก่อนจะหันมามองดุที่สโนว์
“นี่เธอคิดจะมอมเหล้าฉัน?”
“หา…คะ? เปล่านะคะ หนูก็แค่ชงเหล้าธรรมดา”
“ธรรมดา! งั้นลองกินแก้วนี้ให้หมดสิ”
“หา…แก้วของคุณเนี่ยนะคะ”
“ใช่ แล้วไปเอาแก้วใหม่มาให้ฉัน ส่วนแก้วนี้เธอชงเข้มเกินไป เพราะงั้นรับผิดชอบด้วยการดื่มแก้วนี้ให้หมด ไม่งั้นฉันจะไล่เธอออก!”
“ห๊ะ…ไล่ออก ไล่ออกแล้วหนูจะเอาเงินไหนไปจ่ายค่าซ่อมรถคุณ”
“ไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับฉัน จะดื่มหรือไม่ดื่ม!”
“ดะ ดื่มค่ะ”
ถามได้ เธอเลือกได้หรือไงกัน แค่เขาไม่ใช่มาเฟียแล้วฆ่าเธอหมกป่าหรือตัดลิ้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่…ให้ตายเถอะเหล้าเพียว ๆ เต็มแก้ว
-จะไหวไหมเนี่ย-
สโนว์มองแก้วเหล้าในมืออย่างลังเล
“อย่าบอกนะว่า มาสมัครเป็นเด็กชงเหล้าแต่ดื่มเหล้าไม่เป็น!” เอริคเหลือบตามองสโนว์ที่เอาแต่มองแก้วในมือ
“ทะ ทำไมจะไม่เป็นคะ แค่นี้เอง”
อึก…อึก…อึก…
แค่ก แค่ก
เพราะดื่มเร็วไปหน่อยทำให้ปรับตัวกับความขมของเหล้าไม่ทัน สโนว์เลยสำลักจนน้ำหูน้ำตาไหล เธอเงยหน้าขึ้นมามองเอริคอีกครั้งที่กำลังทำสายตาดุใส่เธอ
“เด็กชงเหล้า แต่ดื่มเหล้าไม่เป็น?”
“เมื่อกี้แค่ดื่มเร็วไปหน่อยเลยสำลักค่ะ ไม่ต้องหาเรื่องรีบไล่หนูออกนักหรอก”
สโนว์ไม่วายเถียง ก่อนจะดื่มเหล้าลงไปอีกครั้งแต่หนนี้เธอระวังไม่ให้สำลักแบบเดิมอีก
อ่า…ร้อน ๆ คอแฮะ
สโนว์ยกดื่มไปเรื่อย ๆ อีกทั้งสายตาก็เหลือบมองนัชชาเพื่อนของเธออย่างเห็นใจ เพราะตอนนี้นัชชากำลังถูกชายคนที่นั่งมุมโต๊ะริมสุดดึงตัวเข้าไปโอบ แถมยังท้าให้นัชชาดื่มเหล้าอีกต่างหาก
“น้องลูกนัท ดื่มให้ดูก่อนสิคะ”
“คือ นัชไม่ค่อยถนัดดื่มค่ะ”
“อะไรกัน มาเป็นเด็กเอนก็ต้องดื่มเป็นไหมคะ เอางี้ถ้าน้องลูกนัทดื่ม พี่จะให้ทิปน้องลูกนัทแก้วละพัน”
เห็นนัชชาออกอาการอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง
“ได้เลยค่ะ”
นัชชารินเหล้าทำท่าเหมือนกำลังจะยกดื่ม แต่เสียงคุณเอริคที่นั่งหัวโต๊ะกับเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน
“เฮ้ เตชิน…คนนี้เด็กมึงไม่ใช่เหรอ?”
เอริคหันไปถามน้องชายที่กำลังนั่งหน้าบึ้ง และเพราะคำถามของเอริค ทำให้ทุกคนหันไปมองที่เตชินเป็นตาเดียว รวมถึงสโนว์ที่มองไปที่เตชินแวบหนึ่ง ก่อนที่จะหันไปมองนัชชาตาปริบๆ