ตอนที่2

1670 Words
คฤหาสน์ตรงหน้าก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเพียงแค่ “ทะมึนจัง” ผมบ่นอุบอิบ ก็มันจริงหนิมืดทะมึนแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าเคยมีคนอาศัยอยู่ด้วย ถ้าทำความสะอาดอีกนิดล่ะก็ ต้องสวยมากแน่ ๆ “เร็วพวก! ขนของขึ้นข้างบนกัน” เอร่อนตะโกนเรียกทุกคนที่กระจัดกระจายสำรวจรอบตัวคฤหาสน์หลังจากมาถึงที่หมาย “ใหญ่แบบนี้ไม่มีคนอยู่จริงเหรอ” ฟาคัลมองไม่เชื่อสายตาว่าคฤหาสน์ที่เว่อร์วัง ที่ตกแต่งอีกหน่อยจะเรียกว่าปราสาทหลังจะเงียบเชียบขนาดนี้ “เอาน่า มันถูกทิ้งร้างมาหลายสิบปีไม่สิอาจร้อยปีเลยก็ได้” เอร่อนยกกระเป๋าของเขากับทีเรียน่าขึ้นพาดบ่า เดินดุ่ม ๆ นำไปที่ประตูทางเข้า ผมหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองขึ้นบ้างก่อนไปยืนข้างบิลลี่ “พูดเองเออเอง เบื่อชะมัด” “นายอยู่กับเขาแค่ไม่กี่วันกับฉันที่เจอตั้งแต่เกิด คิดว่าอย่างไหนน่าเบื่อกว่ากัน” บิลลี่ยักไหล่ก่อนเราทั้งคู่จะเดินเข้าไปด้านในบ้าง “โครตสุดยอดไปเลย!” เอร่อนโหวกเหวกคนแรก ต้องเป็นทุกครั้งเล้ยให้ตายสิ แต่เอร่อนไม่ได้พูดเล่นเพราะถ้าดูแค่ด้านนอกมันดูมืดมนมาก เทียบกับด้านในแล้วแตกต่างกันลิบลับ ข้างในนี่สะอาดสะอ้านกว่าที่คิด ของทุกอย่างดูแพง มีราคา กรอบรูปภาพเป็นทองแท้ที่รูปไม่ว่าจะติดผนังหรือวางบนชั้น ข้าวของเครื่องใช้ประดับด้วยเพชรพลอยนา ๆ ชนิด “สวยจัง” ทีเรียน่าบรรจงหยิบแก้วแชมเปนจากชั้นวางของมาดู แม้แต่ชั้นวางของที่เป็นไม้ก็ยังดูสวยสะดุดตา “สะอาดแบบนี้ไม่มีคนจริงเหร้อ” ผมพูดขึ้น “จริงด้วย ถ้ามีคนขึ้นมาจริง ๆ เราจะบอกเขาว่าไง” “บอกอะไรหรือครับ” เสียงปริศนาดังจากชั้นสอง ผมกับคนอื่นหันขวับพร้อมกันและเห็น คนยืนตรงบันได้ทางขึ้นชั้นสอง เป็นบันไดที่ใหญ่กว้างปูด้วยพรมแดงอยู่เกือบกลางห้อง ที่น่าสะกิดใจมากกว่า ‘ไหนว่าไม่มีคนอยู่ไง!’ ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คนตรงหน้าพวกเราดูเหมือนจะเป็นเจ้าของบ้านนี้เดินลงมาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรที่มีคนแอบเข้ามา นี่บ้านเขานะ...ไม่คิดอะไรเลยเหรอ คุณพี่ชายตัวดีหันมองผมด้วยสายตาเว้าวอน ‘ดีแต่ก่อเรื่องไอบรรลัยเอ้ย’ “ขอโทษด้วยครับ พวกเราได้ยินว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ช่วงนี้เราปิดเทมอฤดูร้อนกันเลยอยากหาที่พักค้างแรมน่ะครับ” “อ๋อ ออกท่องเที่ยววันหยุดกันสินะ” “ครับ...เอ่อ...แต่ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่...” “ชั่งเถอะ ๆ ไม่ได้มีคนมาพักที่นี่นานแล้วเหมือนกัน ผมเกือบจะขายมันอยู่แล้วล่ะ ไหน ๆ” เจ้าของบ้านมองพวกผมแต่ละคนพร้อมมองกระเป๋าเสื้อผ้า “พวกคุณก็เข้ามาแล้ว เป็นอันว่าก็พักที่นี่เถอะ จากนี่ไปมีหวังได้ตั้งแคมป์กลางป่าแน่ เชิญตามสบายนะครับ” ว่าจบเขาก็เดินกลับขึ้นไปเข้าห้องของเขา ฟาคัลทำปากว้าวแต่ไม่มีเสียง “พึ่งเคยเจอเจ้าของบ้านใจดีแบบนี้นะเนี่ย” บิลลี่มองงง ๆ “เอาน่าอย่าสนใจเลย เลือกห้องของใครของมันกัน” “จะบอกว่าฉันอยู่ห้องเดียวกับนายไม่ได้เหรอ” ทีเรียน่าทำแก้มป่อง เอร่อนเอาแขนพาดไหล่หล่อนก่อนจะหยอดคำหวานใส่ ทุกคนพากันขำแต่ผมอยากอ้วก คฤหาสน์นี่มีให้เลือกหลายห้อง พวกผมตกลงกันว่าจะไม่พักไกลกันเกินไป เผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะได้วิ่งไปหากันได้ ผมเลือกห้องที่อยู่ริมสุด...ทำไมน่ะเหรอเพราะไม่มีสิทธิ์เลือกไง จำที่ผมบอกได้ใช่ไหมล่ะว่าลูแอลจะดูใหญ่สุดเพราะไม่มีใครกล้าขัดใจ แต่คนที่เจ้ากี้เจ้าการคือเอร่อน เขาให้คนอื่นเลือกหมดแต่กับผมเขาไม่สนใจด้วยซ้ำ หลังทุกคนเลือกเสร็จไม่ว่าจะยังไงผมก็ได้แต่ห้องริม ๆ แล้ว เลือกไปก็เท่านั้นแหละ ผมยกกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ในห้องของตัวเอง “เจ๋ง” โครตเจ๋งเลยต่างหาก! แน่ใจเหรอว่านี่เป็นห้องนอน เป็นห้องนอนที่กว้างมากขนาดห้องริมสุดนะเนี่ย ไม่อยากนึกถึงห้องตรงกลางที่เจ้าของคฤหาสน์อยู่เลย ภายในห้อง ผนังห้อง ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เหมือนกับข้างล่างเลย สีทองคงเป็นที่เจ้าของชอบสินะ ผนังห้องเป็นสีทองสบายตา เตียงประดับด้วยสีทองนิด ๆ เนื้อไม้ชั้นดีแน่เลย ผ้าปูที่นอนสีดำเข้ากับสีทอง ผ้าม่านสีฟ้าครามไม่เข้มนักผสมกับสีขาวสะอาดตา มีมุมนั่งพักผ่อนด้วย ของทุกอย่างในห้องลงตัวไปหมด รสนิยมดีเหมือนกันนะเนี่ย เสียงเคาะประตูเรียกสติผม ผมรีบวิ่งไปเปิด “เข้าไปได้ไหม” ผมหลีกให้บิลลี่เดินเข้ามาข้างใน บิลลี่ถึงกับร้องว้าว “ถ้าฉันมีบ้านของตัวเองอยากได้อย่างนี้มั่งจัง” ผมลูบตู้เสื้อผ้าไม้แต้มสีทอง “สวยกว่าห้องฉันอีก แต่...ทุกห้องเหมือนจะแต้มสีทองทั้งนั้นเลยนะ เจ้าของคนเก่าคงรวยน่าดู” “คนเก่าเหรอ” “อา ฉันกะจะไปถามเจ้าของพอดีเจอเจ้าตัวเลยถามเกี่ยวกับคฤหาสน์ เขาบอกว่าตัวเขาไม่ใช่เจ้าของที่นี่มาก่อน เขาเป็นหลานชายของเจ้าของคฤหาสน์ ลูก ๆ ของเจ้าของคนก่อนตายหมด เหลือเขาที่เป็นแค่หลานเลยได้กองมรดกและคฤหาสน์นี้มา แต่ก็เกินเยียวยาแล้วแหละ” “ภาษีสินะ” “เฮ้อ...ฉันเองก็ฝันอยากมีบ้านอย่างนี้นะแต่พอนึกถึงเงินที่ต้องจ่าย” บิลลี่ส่ายหน้า ผมเข้าใจและเพราะแบบนี้แหละผมถึงโดนพ่อแม่ค้านอยู่บ่อยเรื่องที่ผมอยากจะซื้อบ้านของตัวเอง ไม่ใช่กลัวผมจะอยู่คนเดียวไม่ได้แต่กลัวไม่มีใครเลี้ยงมากกว่า เอร่อนที่เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเห็นอย่างนี้มันก็โดนไล่ออกจากงานถึงสี่ที่ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา “แล้วคนอื่นล่ะ” “อ้อลงไปข้างล่างหมดแล้วมั้ง เห็นบอกว่าจะเล่นเกมกันน่ะ” “เกมท้าความกล้าเหรอ” แอนนามองเอร่อนขุ่นเคือง “ใช่ ฉันขออนุญาตเจ้าของแล้วว่าอยากจะทำกิจกรรมไว้เผื่อจะช่วยเรียกให้คนเข้ามาพักได้บ้าง เขาก็อนุญาตแล้ว” “นายจะบอกว่ามีบางจุดสินะที่ไม่ให้เข้าไปวุ่นวาย” ลูแอลถามแต่ตามองโทรศัพท์ “ในกลุ่มเรานายฉลาดที่สุดเพื่อน ใช่...เขาอนุญาตแต่บางห้องเขาขอไม่ให้พวกเราเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นห้องที่เขาเก็บของล้ำค่าของบรรพบุรุษในตระกูลไว้ ซึ่งฉันคิดว่ามันน่าเสี่ยงที่จะลองเข้าไป” “เกิดเจ้าของรู้ขึ้นมาล่ะ ไม่โดนไล่ออกจากที่นี่เหรอ” ฟาคัลพูดแบบเบื่อหน่ายกับความคิดของเพื่อนตัวเอง “เฮ้! เขาบอกว่าได้ก็ได้สิ นายไม่อยากก็ไม่ต้องเล่นฟาคัลไม่มีใครบังคับ” ทีเรียน่ากระฟัดกระเฟียด “แล้วฉันด่ามันหรือยัง แค่พูดแค่นี่ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้” ฟาคัลยืนประจันหน้ากับทีเรียน่า “นาย...” เอร่อนกะจะผสมโลงแต่ลูแอลดันลุกขึ้นซะก่อน “ฉันเห็นด้วยกับฟาคัล คืนนี้เราได้ที่พักสบายแต่ถ้านายทำเสียเรื่องจนโดนไล่ออกจากที่นี่ ฉันจะกลับบ้านและทริปเที่ยวนี้จะจบทันที อย่าคิดเพียงแค่พวกนายนอนด้วยกัน รวมหัวกันแล้วพวกฉันจะต้องเห็นพ้องกับนายหรือนังนี่ด้วยเสมอไปนะ” เขาจ้องเอร่อนเขม็ง “นายอาจเป็นใหญ่แต่ความคิดไม่ใช่ของนายคนเดียว ถ้านายยังดึงดัน ก็แล้วแต่สะดวกเถอะ” พระเจ้า...เพิ่งได้ยินลูแอลพูดยาวเป็นกับเขาด้วยแถมตอกหน้าเอร่อนกับทีเรียน่าได้เฉียบสุด ๆ มิน่าทำไมทุกคนดูเกรงใจคุณท่านกันนัก เห็นนิ่ง ๆ แต่ด่าคมแบบนี้ ใครจะอยากกวนบาทาจริงไหม ผมแอบสะใจอยู่ลึก ๆ เดาว่าบิลลี่เองก็เหมือนกัน ในบรรดาผมกับบิลเราออกความเห็นแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ได้ยินอย่างนี้แล้วค่อยยังชั่ว “มีอะไรกันหรือเปล่า ทะเลาะกันเสียงดังมากเลย” เจ้าของโผล่ออกมาจากห้องเขา “ขอโทษด้วยครับ พอดีเถียงกันเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะครับ” ฟาคัลตอบ “มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกันไป” เขาเดินลงมาพร้อมดูนาฬิกาข้อมือ “เอ่อพวกคุณจะอยู่นี่กี่วันครับ” สีหน้ากระวนกระวายแปลก ๆ “ประมาณสี่ถึงห้าวันน่ะครับ” เอร่อนเป็นคนตอบ “พอดีเลยผมได้รับข้อความจากเพื่อนที่ทำงานให้ไปที่ทำงานด่วน พวกคุณช่วยอยู่ดูที่นี่หน่อยได้ไหม ผมจะรีบกลับมาให้ทันตอนพวกคุณกลับ” เขายกมือไหว้ขอร้อง “ไม่มีปัญหาครับ” เอร่อนยิ้มกริ่ม เสนอตัวอย่างยินดี ‘ซวยแน่งานนี้’ “ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ! ผมจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเลย ขอบคุณจริง ๆ นะ อ้อ...ส่วนห้องครัวอยู่ทางขวาเดินสุดทางนะครับ” ว่าจบเจ้าของรีบวิ่งออกไปทันที “ยินดีที่ได้ช่วยครับ” เอร่อนตอบพอดีกับที่ประตูปิดลง มองหน้าพวกผมแต่ละคน “ไงล่ะ เจ้าของบ้านก็ไม่อยู่แล้ว มาเล่นเกมกันเลยดีมะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD