เสียงส้นสูงกระทบกับพื้นหินอ่อนสีดำขลับของออฟฟิศห้างสรรพสินค้าตระกูลลี่ดังเป็นจังหวะที่ทำให้ทุกคนต่างหัวใจเต้นระรัว เพราะเสียงฝีเท้าเช่นนี้ การก้าวแบบนี้การเดินบนชั้นนี้ก็คงมีแค่เพียงลี่ลู่เสียนเท่านั้นที่ทำได้ พนักงานทุกคนต่างโค้งต้อนรับทายาทรุ่นที่ 3 ด้วยความหวั่นใจ เพราะนอกจากใบหน้าที่งดงามราวกับภาพวาดที่รังสรรค์โดยจิตรกรฝีมือดี แต่นั่นคงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ลี่ลู่เสียนมีเท่านั้น เพราะนิสัยเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวเองแบบสุดขั้ว ทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ต่างส่ายหัว เพราะเอาอกเอาใจเจ้าหล่อนไม่ถูกใจเสียที
“คุณหนูลี่ คุณท่านยังประชุมอยู่นะคะ” เลขาส่วนตัวของลี่จุนเฟิงพ่อของลี่ลู่เสียนรีบเดินมาประกบหญิงสาวที่วันนี้สีหน้าบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ
“ไม่เป็นไร” เธอตอบเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ และยังจ้ำอ้าวเข้าไปที่ห้องประชุมอย่างไม่สะทกสะท้าน
“แต่คุณหนูคะ ตอนนี้มีประชุมสำคัญมากเลยค่ะ หากเข้าไป...” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบเธอก็ต้องหุบปากของเธอเองอย่างรวดเร็วเมื่อลี่ลู่เสียนปลายหางตามองด้วยแววตาเกรี้ยวโกรธ เมื่อหญิงสาวหยุดเลขาได้ ลี่ลู่เสียน ก็เดินตรงไปหน้าห้องประชุมแล้วผลักประตูเข้าไปทันที!
“พ่อคะ เรื่องงานแต่งนี่คืออะไรคะ?” เธอพูดออกไปโดยไม่สนใจว่าจะมีใครนั่งอยู่ในห้องประชุมนั้นบ้าง สายตาลี่ลู่เสียน มุ่งไปที่คนคนเดียว นั่นก็คือพ่อบังเกิดเกล้าของเธอนั่นเอง ชายวัยกลางคนตกใจเล็กน้อยแต่ยังสงบนิ่งพลางส่งสายตาไปหาเลขาที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยแววตาที่ไม่สบอารมณ์เช่นกัน
“ออกไปรอพ่อข้างนอกก่อนเดี๋ยวพ่อตามไป” เขาเอ่ยด้วยเสียงสุมขุม
“หนูต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ค่ะ ไม่งั้นหนูไม่ยอมแน่” เธอพูดเสียงแข็งก่อนจะเดินออกไปด้วยการกระแทกส้นสูงเสียงดัง