ในห้องทำงานของลี่จุนเฟิง ลี่ลู่เสียนนั่งกอดอกมองหน้าพ่อตัวเองพร้อมส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
“เฟยเหยาเอาแหวนเพชรมาให้ บอกว่าเป็นแหวนหมั้นก่อนเข้าพิธีแต่งงานหมายความยังไงคะ ทำไมไม่เห็นมีใครบอกเรื่องนี้กับหนู” ลี่ลู่เสียนถามผู้เป็นพ่อ
“พ่อกับตระกูลเฟยเห็นว่าเราคุยกันเรื่องหมั้นหมายกันมาตั้งแต่ลูกยังเด็ก ตอนนี้ลูกก็อายุครบ 25 ปี เป็นวัยเหมาะสมที่จะออกเรือน ในเมื่อลูกก็ไม่ได้มีใคร ทำไมต้องรอให้เสียเวลาล่ะ เฟยเหยาหล่อขั้นเทพระดับนายแบบ ชาติตระกูลดี สาวๆ ต่างพากันหมายปองทั่วทั้งเมือง ทั้งรวยและเก่งสมบูรณ์แบบ เฟยเหยาคนนี้เหมาะสมกับตระกูลลี่ของเราที่สุดนะลูก”
“หนูไม่สนหรอกค่ะ ต่อให้หล่อระดับเทวดาถ้าหนูไม่ได้รักก็ไม่มีความหมาย”
“ลูกเอาแต่ใจมานานเกินไปแล้วนะ ลูกก็รู้ว่าการทำธุรกิจและนั่งแท่นเป็น CEO ต้องมี partner คู่ค้าที่เหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ดังนั้นแล้วตระกูลเฟยเหมาะสมที่สุด ถ้าลูกหาคนที่ลูกจะแต่งงานด้วยไม่ได้ก็ต้องแต่งกับเฟยเหยาเท่านั้น”
“หนูพยายามแล้วนะคะ รู้จักกันมาร่วม 15 ปีแล้วหนูยังไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงเพราะเฟยเหยาเลยแม้แต่ครั้งเดียว” ลี่ลู่เสียนถอนหายใจอย่างหมดหวัง เธอมีความเพ้อฝันระดับทะลุปรอทว่าอยากมีคนรักที่เหมือนรักแท้แบบในซีรีย์ที่ใจเต้นนโครมคราม ผู้ชายที่เธอจะรักและถวายตัวให้แบบไร้เงื่อนไข และเขาคนนั้นก็ต้องรักเธอมากมายไม่ต่างกัน แต่จนอายุย่างเข้า 25 ปี เธอยังไม่เคยประสบพบเจอผู้ชายอย่างที่คิดเอาเลยแม้แต่คนเดียว ผู้ชายส่วนใหญ่ที่มาจีบเธอนั้น แม้จะหล่อ รวยระดับเทพก็จริง เธอก็ไม่เคยใจเต้นกับใครทั้งนั้น แม้แต่ไอดอล นักแสดงระดับต้น ๆ เธอก็ไม่เคยหวั่นไหว ไม่มีทางที่ผู้ชายคนนี้ที่พ่อของเธอหามาให้จะเป็นคนคนนั้นที่เธอตามหาอย่างเด็ดขาด
“ลูก...ต้องอยู่ในโลกของความเป็นจริงบ้างนะ ใจเต้นอะไรกันไร้สาระ”
“ก็โลกที่หนูคิดไว้มันจริงเสมอนี่คะ”
“พ่อรอไม่ได้แล้ว ถ้าไม่แต่งคราวนี้ก็คืนทุกอย่างที่เป็นของตระกูลลี่มาทั้งหมด และออกจากบ้านไปใช้ชีวิตตามใจตัวเอง เลยไป…แล้วพ่อจะไม่บังคับอะไรลูกอีก” ลี่จุนเฟินออกเสียงอย่างไม่ปราณีเช่นกัน ประโยคสุดคลาสสิกที่ปิดจ๊อบลูกสาวได้ไม่รู้กี่ครั้งหลุดออกมาจากปากเช่นนี้ ลี่ลู่เสียน มีหรือจะต้านทาน
“คุณพ่อ!!” เธอตะเบงเสียงสูง
“ไม่มีการบังคับสำหรับคนที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขอยู่แล้ว ลูกก็รู้ดีว่าพ่อตามใจลูกมากแค่ไหน นี่คือทางออกที่ดีของห้างเรา อีกอย่างยังมีเวลาอีกเกือบปี ระหว่างนี้พ่อจะแต่งตั้งให้ลูกขึ้นแท่นเป็น CEO บริหารธุรกิจ ลูกแค่ตั้งใจทำตามหน้าที่ของตัวเองก็พอแล้ว” ลี่จุนเฟินมองหน้าลี่ลู่เสียนที่กำลังทำหน้าหงิกหน้างออย่างไม่ปกปิด เขารู้ดีว่าลี่ลู่เสียนรักห้าง ลี่หงส์มากแค่ไหน เธอเก่ง ฉลาด แต่หากเป็นคุณหนูเอาแต่ใจไปสักหน่อย ถ้ามีข้อเสนอดี ๆ ให้ลูกสาวก็พร้อมทำตาม เพียงแต่มีคัดค้านบ้างตามนิสัยก็เท่านั้น
##ขอบอกก่อนนะคะว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น พลอตไม่มีอะไรมาก ไม่มีดราม่า ชิวๆ เบาๆ สบาย ...ถ้าใครไม่ชอบแนวนี้เลื่อนผ่านไปรอเรื่องหน้าได้เลยจ้า