อาทิตย์ต่อมา
เป็นอาทิตย์ที่น้ำขิงหายดี เดินวิ่งออกกำลังกายได้สบายๆ แม่เกดถึงกับจะจ้างเทรนเนอร์มาดูแลเรื่องออกกำลังกายให้ลูกสาวแต่น้ำขิงไม่เอา ก็เถียงกันอยู่สองวันกว่าแม่จะยอม...
มีเงินใช่ว่าจะมีความสุขสำหรับน้ำขิงนั้นความสุขไม่ได้อยู่ที่เงินแต่อยู่ที่ได้ทำอะไรตามที่ตัวเองต้องการ ตั้งแต่เด็กจนโตเธอถูกพ่อกับแม่ขีดกรอบให้มาโดยตลอด แม้แต่เรื่องการเรียนแม่ยังเลือกให้ ไม่มีเวลาได้เล่นสนุกเหมือนคนอื่นๆ เธอต้องเรียนพิเศษหนักมาก นี่ขนาดเธอเป็นเด็กดื้อรั้นนะยังขนาดนี้ ถ้าเป็นเด็กเรียบร้อยคงไม่รู้ว่าจะยืนได้ตัวเองยังไง หลายคนอาจจะมองว่าเธอเรื่องมากไปเองแต่ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่คิดแบบนั้น ดูอย่างเฮียปราบพี่ชายของเธอยังไม่อยากกลับมาอยู่บ้านเลย หลังจากเรียนจบยังขอทำงานต่ออยู่ที่ต่างประเทศแต่เฮียเป็นผู้ชายพ่อกับแม่จึงให้ไปเรียนนอกได้ส่วนเธอนะเหรอเป็นผู้หญิงต้องเรียนใกล้หูใกล้ตาพ่อแม่ บางทีก็อึดอัดตัวแทบระเบิดหลังจากเรียนจบเธอจึงไปสังสรรค์กับเพื่อนบ่อยแต่ตอนนี้ไม่ได้ไปละ มีหน้าที่ที่ต้องทำคือดูแลรีสอร์ตกับอยู่ฟาร์มม้า...
เวลาสิบโมงเช้า ได้เวลาไปทำงานที่รีสอร์ตหลังจากที่ไม่ได้ไปมาเป็นอาทิตย์..
"จะไปแล้วเหรอลูก เดี๋ยวแม่ให้คนงานยกต้นขึ้นหลังรถก่อนนะ" แม่เกดรอเวลานี้มานาน ต้นไม้แม่จะตายก่อนได้เอาไปฝากหมออยู่ละ ไปวันนี้ก็ดีวันอาทิตย์หมอหยุดพอดี
"ฮะ!! แม่ล้อขิงเล่นปะเนี่ย ต้นไม้แม่ตายหมดแล้วมั้ง ไม่เอาไปฝากหรอก อายเขา" ไม่คิดว่าแม่จะจำได้
"ยังไม่ตาย แม่รดน้ำทุกวัน มันแค่ผลิใบเล็กน้อย" เล็กน้อยของแม่คือร่วงเหลือแต่ยอดสี่ห้าใบแต่แม่จะฝาก..
"ทำไมแม่ชอบทำแบบนี้คะ ชอบบังคับขิงอยู่เรื่อย" เดี๋ยวก็หนีไปอยู่ต่างประเทศกับเฮียปราบซะเลย
"แม่ไม่ได้บังคับแค่วาน ทำให้แม่แค่นี้ไม่ได้หรือไง" มามุกนี้ลูกยอมตลอด
แม่เกดให้คนงานยกต้นไม้สองต้นขึ้นหลังรถตามด้วยโมบายแต่งบ้าน
"ดะเดี๋ยวแม่ อันนั้นมันโมบายที่ขิงทำนี่น่า ขิงจะเอาไปแต่งรีสอร์ต"โมบายช้าง เธอทำเองจำได้
"เอาไปฝากหมอภามสักพวงจะเป็นไร อย่าขี้เหนียวเดี๋ยวแม่ซื้อมาให้ใหม่" หมอภามชอบช้างอันนี้แหละสวย แม่เกดหิ้วโมบายของลูกสาวขึ้นหลังรถ ยิ้มมีความสุขแต่ลูกสาวหน้างออีกแล้ว
แม่ไม่ใช่เซฟโซนสำหรับลูกๆ ทุกคน ดูอย่างเธอสิ แม่เอาของของเธอไปให้คนที่เธอไม่ชอบ..เสียใจนะแต่ทำยังไงได้ละก็ต้องตามนั้น น้ำตาจะไหล
เมื่อเอาของขึ้นรถจนหมดหญิงสาวก็ขึ้นรถกระบะยกสูงสีดำ เป็นรถที่เธอเลือกเองเพราะต้องขับขึ้นเขาลงห้วยเข้ารีสอร์ตสมบุกสมบัน..
บรึนนๆๆ บรึ้นนน!! แอบสตาร์ทเครื่องเหยียบคันเร่งกวนแม่เล็กน้อย คนงานรีบเปิดประตูรั้วเมื่อเห็นว่าคุณหนูรีบอารมณ์ไม่ค่อยดี..
รถกระบะขับเข้าออกมาจากบ้านด้วยความเร็วแต่ก็ขับช้าลงเมื่อถึงถนนในหมู่บ้าน เธออยากเกิดเป็นลูกชายเสียจริงคงดีกว่าเด็กผู้หญิงร้อยเท่า...ถ้าเป็นผู้ชายเธอจะขับรถพาสาวมาเที่ยวบ้านไม่ซ้ำเลยคอยดูจะดื้อรั้นจนแม่เหนื่อยที่มีลูกชายไม่เอาไหนแต่พอเป็นผู้หญิงก็ต้องคีพลุค แค่คิดก็เหนื่อย...
ขับมาสักพักก็เกือบเลยซอยที่ต้องเลี้ยวซ้ายก่อนเข้ารีสอร์ตทางนี้เป็นทางไปน้ำตกก่อนถึงมีลำธารสวยมาก เมื่อก่อนเธอมาบ่อย พักหลังไม่ค่อยได้มา...
น้ำขิงไม่เคยมาบ้านหมอภามแต่ฟังจากที่แม่บอกก็น่าจะหลังข้างหน้า รั้วบ้านเป็นแนวต้นไม้สีเขียวมองเห็นไกลๆ พอขับเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าบ้านเขาอยู่ใกล้กับลำธารที่เธอชอบมา ขมวดคิ้วงงว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงไม่ใช่ที่สาธารณะอย่างนั้นเหรอ เธอคิดว่าเป็นที่หลวงหรือเขาจะเป็นผู้บุกรุกไม่เคยคิดดีกับคนคนนี้ บ้านเขาสร้างด้วยไม้ทรงโมเดิร์นเข้ากับธรรมชาติ ดูแล้วก็สวยดีขับเข้าจอดหน้าบ้านที่ไม่มีประตูมีแต่ต้นไม้ล้อมรอบ รักธรรมชาติมากมั้ง..
ปึง!! ปิดประตูรถเดินลงมา มองเข้าไปในบ้านไม่รู้ว่าจะเรียกเจ้าของบ้านยังไง
"เฮ้ออ ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ยยย" ถอนหายใจเหนื่อยๆ เดินเข้าไปหยุดยืนหน้าบ้าน..
"มีคนอยู่ไหมคะ" เรียกเจ้าของบ้านอย่างคนมีมารยาท
!!! เงียบบบ
"หรือว่านี้คือบ้านร้างงงง" พูดบ่นเสียงดัง
"มีผีอยู่ไหมคะ!!" คนกวนประสาทอย่างน้ำขิงก็พูดไปเรื่อยแต่ในจังหวะนั้นเจ้าของบ้านก็โผล่ออกมาจากรั้วต้นไม้
ผลั๊วว!!
"กรี๊ดดดด ผี!!!" ใบหน้าสวยตื่นตระหนกตกใจตาค้างเหมือนคนจะช็อก แต่อีกคนกลับยืนนิ่งหน้าตึงไม่ตลก
"มีอะไร.." พูดด้วยน้ำเสียงตึงๆ ไม่สนคนที่กำลังช็อก วันนี้เป็นวันหยุด หมอไม่ทำงาน ถ้าตายก็เผา!!
น้ำขิงอ้าปากพะงาบๆ หอบหายใจเหนื่อย เธอเกือบจะหัวใจวายตายแต่คนทำกลับยืนมองหน้าตึงๆ อีตาหมอบ้า..
"แม่ให้เอาต้นไม้มาให้" ตึงมาตึงกลับ เมื่อกี้เธอเกือบหลับแต่ยังดีที่กลับมาได้ ใจยังเต้นแรงอยู่เลย..เกือบหัวใจวายตายแล้วไหม
"อืม" ชายหนุ่มแค่พยักหน้าจากนั้นก็ก้มลงไปปลุกต้นไม้ต่อ งานอดิเรกในวันหยุดของเขาคือปลูกต้นไม้ปลูกจนกว่าจะไม่มีที่ให้เดิน..
"อ้าว หายไปไหนแล้วอะ" คนที่ยืนอยู่รั้วด้านนอกก็ตกใจที่เขาหายไปหรือว่าเขาเป็นผี..เมื่อกี้ยังยืนอยู่ตรงนี้
"คุณ!! ไปไหนแล้ว" เหนื่อยจัง
"มีอะไร" โผล่ขึ้นมาจากต้นไม้อีกครั้ง ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่ออยู่บ้านเขาแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแต่ก็ยังดูหล่อเหลา
"ก็บอกว่าแม่ให้เอาต้นไม้มาให้ "
"แล้วยังไง??" คนหล่อเริ่มหงุดหงิด ต้นไม้ก็ต้องปลูก รำคาญก็รำคาญ..
"เอ้า เอามาให้แล้วก็ต้องไปยกลงเองสิ คนอะไรประหลาดเสียจริง" จะให้ผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอยกลงให้หรือไง
"ว่าใครประหลาด" เสียงแข็งท่าทางเอาเรื่อง ยกมือขึ้นปาดเหงื่อเศษดินก็เลอะหน้าผาก
"หมู เห็ด เป็ด ไก่" คิดว่าเธอกลัวเขาหรือไง อยู่นอกโรงพยาบาลคือสนามรบ เธอพร้อมบวก
"ผู้หญิงประหลาด" คนหล่อเดินออกไปที่หลังรถกระบะ
"คุณว่าใคร!!"
"หมู หมา!! กา ไก่" ย้อนกลับ..
น้ำขิงควันออกหูผุดๆ หายใจเข้าปอดระงับอารมณ์ไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนปากร้ายเท่ากับเขามาก่อน..
"สองต้นนั่นแหละ คุณยกลงไปให้หมดเลย แล้วก็โมบายช้างนั่นไปด้วย" ชี้นิ้วสั่งเขาก็มองแรงแต่เธอไม่สนใจ
"โมบายช้างไหน" ชายหนุ่มจับต้นไม้สองต้นมองหาโมบายช้างที่เธอพูด
"ก็นั่นไง" ชี้ไปที่พวงโมบายรูปช้างสองพวง มองยังไงก็ช้าง
"อันนั้นควาย" พูดไปตามที่เห็น นั่นมันรูปควายป่า
น้ำขิงแทบกรี๊ด นี่มันโมยายรูปช้างที่เธอทำเองเลยนะ อีตาหมอนี่นอกจากจะปากเสียแล้วยังตาไม่ถึงอีก...
"เอามาห้อยที่คอผม" มือไม่ว่างก็ให้เธอเอาโมบายควายป่ามาห้อยคอ
น้ำขิงไหวไหล่ คนสวยใจดีอยู่แล้วรีบช่วยจะได้รีบกลับ เดินไปที่หลังรถกระบะหยิบโมบายขึ้นห้อยตามที่เขาบอกแต่ก็ต้องหยุดชะงัก
"ฉันห้อยไม่ถึง" เธอไม่ได้เตี้ยเขาแค่ไม่ก้ม
"ขาสั้นจริง ห้อยที่แขนผมก็ได้" ยื่นแขนให้
เมื่อได้ยินแบบนี้ก็แทบอยากจะเอาโมบายฟาดหน้าเขาสักที คนอะไรปากเสีย น้ำขิงเหลือบมองใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อชั่วครู่ก็รีบห้อยโมบายช้างใส่แขนเขาสองพวง
"โมบายควาย ดูเหมาะกับคุณดีนะ" ก่อนจะไปก็พูดให้เขาคิด แอบเหน็บแนมนิดๆ
ช่ายหนุ่มก้มลงมองโบบายรูปควายสลับกับมองหน้าเธอไปมาอยู่สักพัก..
"อืม..เหมือน" พูดแค่นั้นก็เดินถือของพะรุงพะรังเข้าบ้าน
น้ำขิงถึงกับมือสั่นที่ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย..
อีตาหมอนั่นพูดคำสุดท้ายว่าเหมือน ว่าแต่เหมือนอะไร?? หรือเขาจะว่าเธอเหมือนควาย!!
'ฝากไว้ก่อนเถอะ อีตาหมอประหลาด'
รีบเดินขึ้นรถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวปิดประตูเสียงดัง ปึ้ง!! จากนั้นก็ถอยขับบรึ้นๆ ออกไป...