ช่วงเวลาห้าโมงเย็นน้ำขิงยังอยู่รีสอร์ต น้ำหวานเพื่อนสาวคนสนิทก็ขับรถมาหา..
รีสอร์ตบ้านสวนภูผางาม
มีเนื้อที่ทั้งหมดสามสิบไร่ แบ่งเป็นโซนจุดชมวิวสวนดอกไม้ยี่สิบไร่อีกสิบไร่เป็นพื้นที่ในรีสอร์ต ตอนนี้เปิดทั้งหมดยี่สิบหลังมีพนักงานอยู่ดูแลประจำประมาณสิบคน..
ห้องทำงานติดกับล็อปบี้รับแขก..
"ขิง..คือฉันอยากให้แกพาไปบ้านหมอภามหน่อย" น้ำหวานนั่งเขินตัวบิด ที่เธอมาที่นี่ก็เพื่ออยากให้เพื่อนพาไปหาผู้ชาย..งานวันเกิดเฮียที่หมอภามมาร่วมเธอเมาจนไม่ได้คุยกับหมอมัวแต่เขินด้วยแหละ เฮียขุนพี่ชายก็ขยันแซวจนเธอต้องหลบหน้าหลบตา
"หึ..ไม่ไปอะ บ้านใครก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านนายหมอประหลาดนั่น ฉันไม่เข้าใจจริงๆ นะหวาน ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงได้คลั่งไคล้เขาขนาดนั้น ก็คนเหมือนกัน" มีดีแค่หล่ออย่างเดียวนั่นแหละ
"หยุดนะ อย่ามาว่าหมอภามของฉันนะ ขิงแกก็รู้ว่าฉันไม่เคยชอบใครขนาดนี้ น่านะช่วยหน่อย แค่ได้แอบมองก็พอแล้ว ตอนนี้ฉันไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรไปหาหมอแล้วอะ ปวดจนครบทั้งตัวแล้ว" หลังๆ พยาบาลเริ่มพูดว่ามาไร้สาระไม่ต้องมา ทำเอาเธอสะดุ้งกับคำว่าหมอไม่ได้มีเวลาว่างมารักษาโรคสำออย..
"ก็แกเล่นไปหาหมอกระดูกทุกเดือนขนาดนั้น เขาเป็นเพื่อนสนิทเฮียขุนทำไมไม่ให้เฮียขุนช่วยละ" เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยๆ กัน
"แหวะ เฮียขุนนะเหรอจะมาช่วย นอกจากจะมาแกล้งให้ฉันขายหน้าขายตาอันนั้นได้ น่านะขิงช่วยหน่อยนะๆ" เฮียขุนเป็นพี่ชายห่วยแตก
"อืมๆ แต่เดี๋ยวขอทำงานก่อน หกโมงเย็นได้ไหม" มีเพื่อนคนเดียวไม่ช่วยเพื่อนจะไปช่วยใคร
"อืมได้ๆ ขอบใจนะเพื่อนรัก" ยิ้มนั่งรอ..
เวลาหกโมงเย็น สองสาวก็นั่งรถมาด้วยกัน หนึ่งคนลูกสาว ส.ส อีกหนึ่งลูกสาวเจ้าของโรงสี ความซ่าก๋ากั่นยกให้ที่หนึ่งสวยดื้อแพ็คคู่..แต่ถ้าเทียบความอ่อนหวานน้ำหวานจะมีความอ่อนหวานกว่าเล็กน้อยแต่ก็ไม่ต่างกันมาก...
หน้าบ้านหมอทิวากร..
ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพังชีวิตของเขาก็ไม่ได้สงบสุขอย่างที่คิด เดี๋ยวก็คนนั้นคนนี้แวะมา หลักๆ ก็เพื่อนแวะมานั่งดื่มเพราะชอบบรรยากาศ..
ในเวลานี้เขาจะนั่งอยู่หลังบ้านฟังเสียงนกเสียงกาเสียงสัตว์ป่าแค่นั่งหายใจไปจนหมดวัน ถ้าวันไหนเพื่อนมาดื่มด้วยก็นั่งดื่มกันที่หลังบ้านแต่ห้ามเสียงดัง เขาชอบธรรมชาติและความคลาสสิค ชายหนุ่มเจ้าของบ้านได้ยินเสียงรถมาจอดอยู่หน้าบ้านแต่ไม่ได้เดินออกไปดู มองผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ทุกมุมบ้านก็พบกับรถกระบะสีดำคันเดิมกับเมื่อช่วงกลางวัน
เจ้าของบ้านนั่งเอาขาไขว้กัน เหล่ตามองพิรุธของสองสาวท่าทางแปลกๆ ในกล้องวงจรปิด
รั้วต้นไม้ด้านนอก..
"ฉันว่าเรากลับกันเถอะหวาน นี่ก็ใกล้จะมืดแล้วนะ" เธอมีเซ้นส์บางอย่างบอกให้รีบกลับ รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนมอง..
"เดี๋ยวสิขิงขออยู่ดูก่อนเผื่อหมอเขาเดินออกมาไง" น้ำหวานยังไม่ยอมแพ้ซุ่มมองคนหล่ออยู่ตรงพุ่มไม้
"ให้เวลาอีกห้านาทีถ้าไม่เจอกลับเลยนะ" คนหนึ่งก็มองซ้ายขวาระแวดระวังเหมือนทำอะไรผิด..ก็ผิดนั่นแหละเธอกับเพื่อนเหมือนพวกถ้ำมอง
"หมอยังไม่ออกมาเลยอะขิง" คนรอก็รออย่างมีความหวัง
"ค่ำแล้วเขาคงไม่ออกมาหรอก ถ้าขืนยังอยู่นานกว่านี้ก็อาจจะได้เจออย่างอื่น" รู้สึกขนลุกแปลกๆ
"เจออะไร" น้ำหวานงง
"ก็เจอผีไง แถวนี้มีบ้านคนซะที่ไหน กลับกันเถอะ" ต้องเป็นคนประหลาดถึงมาสร้างบ้านอยู่คนเดียวโดดเดี่ยว..
"ก็พูดซะขนลุก" น้ำหวานเริ่มกลัวเพราะมืดแล้ว
แค็กๆ แค็กๆ ครืดดด...
ระหว่างคุยกันก็มีเสียงดังมาจากพุ่มไม้ ทำเอาน้ำหวานขาสั่น
"ขะขิงๆ เสียงอะไร" มือสั่นปากสั่นขาเริ่มก้าวไม่ออก
แค็กๆ แค๊กๆ ..กะกะกั๊บแก้!!! กั๊บแก้!!
"ผะผี กรี๊ด!!!" คนกลัวผีกรีดร้องวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง จะวิ่งขึ้นฝั่งคนขับดันไปขึ้นหลังกระบะแล้วใครจะขับ
กรี๊ดดด สองสาวกระโดดขึ้นกระโดดลง วิ่งอ้อมรถ..ต่างคนต่างเตลิดตกใจ ในจังหวะนั้นแสงไฟจากรถอีกคันก็ส่องเข้ามา ไม่ใช่รถใครแต่เป็นรถขุนเขาพี่ชายน้ำหวานที่เตรียมมาดื่มนอนค้างบ้านเพื่อนหมอ
ปี้นๆๆ บีบแตรทักทายเมื่อเห็นว่าเป็นรถของน้ำขิง คนในรถขมวดคิ้วมอง..
"แล้วไปวิ่งอ้อมรถกันทำไมวะ" ก็งงไปสิ ขับรถเข้าไปจอดเยื้องๆ หน้าบ้านแล้วเปิดประตูลงมาดู..
"วิ่งแก้บนกันอยู่หรือไง" พี่ชายจอมกวนประสาทพูดขึ้น
"เฮียขุน!!! ฮือๆ" น้ำหวานกับน้ำขิงวิ่งเข้าไปกอดแขนพี่ชาย ชายหนุ่มหัวเราะรวนรู้จักนิสัยทั้งคู่ดี คู่นี้ขวัญอ่อนอาการนี้กลัวผีชัวร์
"มาทำอะไรกันที่นี่ ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่อง" นี่หกโมงจะทุ่มหนึ่งอยู่ละ
"คะคือ หวานอยากมาดูน้ำตก ก็เลยชวนขิงมาด้วย" น้องสาวยังตัวสั่น ส่วนน้ำขิงเริ่มได้สติเพราะถูกเฮียขุนดึงตัวเข้ามากอดพร้อมกับเอามือลูบหัวปลอบขวัญ ส่วนมืออีกข้างผลักหัวน้องสาวแท้ๆ ออก สองมาตรฐานเห็นๆ
"มาดูน้ำตกที่หน้าบ้านผู้ชายเนี่ยนะ คงเชื่ออยู่หรอก" ผลักหัวน้องสาวออกห่างแต่ดึงอีกคนเข้ามากอดปลอบขวัญ
"น้ำขิงไม่ต้องกลัวนะ เฮียอยู่ตรงนี้แล้ว" เอามือลูบผมนุ่มแต่เธอค่อยๆขยับตัวออกห่าง
"ขิงไม่กลัวแล้วค่ะ" แปลกๆ นะเฮีย เธอเลิกกลัวนั่นนี่เพราะเฮียขุนนี่แหละ ตอนเด็กเวลาเธอตกใจชอบกอดปลอบเธออยู่เรื่อยหลังๆ พอโตขึ้นก็เลิกกลัวเพราะกลัวถูกกอด..
"อิเฮียขุน สองมาตรฐานกับน้องอีกแล้วนะ หวานกับขิงใครเป็นน้องสาวแท้ๆ เฮียกันแน่" น้ำหวานเริ่มงอน..
"มันไม่เหมือนกันเว้ย นำ้ขิงเป็นน้องสาวไม่แท้ เฮียก็ต้องห่วงมากกว่าเป็นธรรมดา" ยิ้มเจ้าเล่ห์ คนนี้พร้อมดูแลทั้งชีวิต
"แหวะ!! เวรกรรมที่หวานได้เกิดมาเป็นน้องสาวเฮีย" แบะปากมองบน เธอรู้ว่าเฮียชอบเพื่อนสนิทของเธอ แต่นิสัยเจ้าชู้แบบนี้จ้างให้เธอก็ไม่ยอมให้ขิงไปคบหรอกเป็นแค่พี่น้องดีแล้ว
"ฮ่าๆ ก็พูดเกินไป แล้วนี่จะกลับกันหรือยัง ถ้ายังไม่กลับจะพาเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน" ตามใจน้องสาวหน่อย อุตส่าห์ทุ่มเทมาถ้ำมองหนุ่มหล่อเห็นแล้วสงสาร
"ยังไม่กลับค่ะเฮียขุน หวานกับขิงเพิ่งมา" ได้ยินพี่ชายแบบนี้น้ำเสียงก็เปลี่ยน เป็นอ่อนหวานดีใจ ดี๊ด๋า
"น้ำเสียงแหลจริงๆ น้องใครวะ แม่งได้พี่มันมาเต็มๆ" เห็นน้องสาวดี๊ด๋าก็คิดถึงตัวเองเวลาหลีสาว
"ก็น้องเฮียไง ได้ความแหลมาจากพี่ชายล้วนๆ" เฮียฝึกเธอมาตั้งแต่เด็กบอกอยากได้อะไรก็ต้องแกล้งร้องไห้ บลาๆ สารพัดที่เฮียสอนแต่เรื่องไม่ดี
"อืม..จะถือว่าเป็นคำชม เข้าไปข้างในกัน น้ำขิงเดินระวังๆ นะ เดี๋ยวจะสะดุดรัก เฮีย เฮ้ยไม่ใช่ สะดุดต้นไม้ไอ้หมอมัน" ไม่รู้มันปลูกอะไรนักหนาแทบไม่มีทางให้เดิน อีกหน่อยคงได้มุดป่าเข้ามา ส่วนมันเจ้าของบ้าน เป็นไข้เลือดออกตาย!!
ตุบ!!
"โอ้ยยย ไอ้เหี้ยหัวทิ่ม!!" คนพูดบอกสะดุดก่อนใคร ทางก็มืดเท้าก็ดันไปเตะกระถางเสียงดังปลั๊กจนเจ้าของบ้านต้องออกมาดูสงสัยกลัวต้นไม้ที่ปลูกไว้จะตาย
"เป็นอะไรหรือเปล่าเฮีย" น้ำขิงตกใจรีบถามเห็นเตะดังปลั๊กคงเจ็บน่าดู
"รองเท้าขาดเลย แต่แค่ขิงเป็นห่วงเฮียก็หายเจ็บล่ะ"ยิ้มให้หญิงสาวข้างกาย ดีที่ตีนเขาไม่แตก เจ้าของบ้านมันก็ขยันปลูกเสียจริงหรือว่ามันไม่อยากให้ใครมาบ้าน ไม่อยากรับแขกวะ
ก่อนที่ทุกคนจะเดินเข้าไปข้างใน ก็เจอกับเจ้าของบ้านยืนตรงเป็นเจ้าที่อยู่หน้าประตูทางเข้า..
"มีมารยาทกันไหม" ใบหน้าหล่อยืนมองตึงๆ ทำเอาสองสาวอ้าปากเหว๋อ
"มีแต่กูลืมเอามา วันนี้กูพาสาวๆ มาส่ง ฮ่าๆ" เห็นหน้าตึงๆ ของเพื่อนก็ขำกลบเกลื่อน ให้มันพูดแค่อืมดีแล้ว
"มะหมา เฮ้ย!! หมอภามสวัสดีค่ะ หวานเป็นน้องสาวเฮียขุนค่ะ จำกันได้ไหมคะ " ตกใจดีใจจนพูดผิดพูดถูก เธอแอบเป็นคนไข้สำออยไปหาหมอที่โรงพยาบาลบ่อยๆ
"แล้วมากันทำไม" คนหล่อมองคนที่ยืนนิ่งอยู่หลังสุดอย่างเอาเรื่อง ทั้งที่เธอไม่เกี่ยวแค่พาเพื่อนมาและไม่คิดจะทักทายหรือสวัสดีเขาด้วยซ้ำ
"น้องสาวกูอยากเห็นหน้ามึง ใครใช้ให้มึงหล่อล่ะ สาวๆ เขาก็อยากเจอ" ก่อนนั้นที่ไม่ช่วยน้องจีบเพื่อนเพราะรู้ว่าจีบไปก็ไม่ติดและที่สำคัญมันไม่ได้โสดเดี๋ยวครบกำหนดมันก็กลับไปแต่งเมีย แต่ที่เขายอมพามาเจอวันนี้เพราะสงสาร เห็นน้องวิ่งตามมันจนขาลากขาพอง
"อืม..เจอแล้วก็กลับไปได้ละ" ไล่ตรงๆ ไม่อ้อมค้อมและเหมือนจะไล่คนข้างหลังมากกว่า..
"มึงก็พูดแรงเกิน นี่น้ำหวานน้องสาวกูนะเว้ย ช่วยถนอมน้ำใจน้องกูด้วย" ดูสิ จะร้องไห้แล้วนั่น
"กูหมายถึงคนนั้น ส่วนน้องมึงอยากมาเมื่อไหร่ก็มา" แรงไปอีก..
น้ำขิงยืนตัวสั่นโกรธควันออกหู คิดว่าเธออยากมามากหรือไง ถ้าไม่จำเป็น จ้างให้เธอก็ไม่มาหรอก!!
"คนนี้ยิ่งไม่ได้เลย นี่ก็น้องกู ถ้ามึงพูดดีๆ ไม่ได้ก็พูดอืมๆ คำเดียวนั่นแหละ" คนเหี้ยอะไรน่าเอาตีนเตะปาก ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนะมีเรื่องแน่ นี่น้องน้ำขิงลูกสาว สส.เลยนะเว้ยไม่ใช่ขี้ไก่ขี้กา
"อืม มึงอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ กูจะเข้าบ้าน" พูดแล้วก็เดินหายเข้าไป
ส่วนคนทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านนอกนั้น อึ้งไปตามๆ กัน
"เป็นไงล่ะ อยากมาเจอหน้าคนหล่อ เข็ดไปอีกนานเลยไหม" หันไปมองน้องสาวแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มมีความสุข
"ไม่เข็ด แบบนี้แหละหวานชอบกร้าวใจสุดๆ เหมือนพระเอกในนิยายเลย" เธอชอบจริงๆ หล่อปากหมา กร้าวใจสุดๆ
"ถุยย พระเอกนิยาย ถ้าแบบนี้เป็นพระเอกนิยาย เรื่องนั้นคงไม่มีพระเอกหรอก โตๆ กันได้แล้ว อย่ามโน ตัดใจจากมันซะเถอะ มันไม่มามองน้องสาวพี่หรอก หยุดคิดหยุดวิ่งตาม" เจอขนาดนี้ต้องหยุดแล้วไหม รักน้องต้องเตือนน้อง เดี๋ยวเมียตัวจริงมันมาจะช็อกเอาได้ เมียที่เขาหมายถึงคือคู่หมั้นของเพื่อน ตัวจริงโหดเอาเรื่อง...
"เฮียนั่นแหละหยุด หวานชอบของหวานแบบนี้ ยังไงหวานก็ไม่เปลี่ยนใจ" ถึงหมอจะปากหมาไปหน่อยแต่เธอก็ชอบไปแล้วไง ว่าแต่เพื่อนเธอมาด้วยไหม เงียบเชียว
"เตือนแล้วไม่ฟัง อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งทีหลังก็แล้วกัน กลับกันได้แล้วเดี๋ยวเฮียขับรถตามไปส่ง" มืดแล้วมันอันตราย