แนะนำให้รู้จักกันเอาไว้(แม่ปลื้ม)

1942 Words
ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อยเธอโดนไปทั้งหมดสองเข็มแต่แทบไม่รู้สึกเจ็บเพราะเขามือเบามากจึงให้อภัยในส่วนนี้ อย่างน้อยเขาก็รักษาดี หลังจากฉีดยาพยาบาลสาวก็ออกไปรอข้างนอก... น้ำขิงนั่งอยู่บนรถเข็นฟังนายแพทย์หนุ่มอธิบายเป็นภาษาเขียนเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ เขาเขียนเป็นนัยๆ เหมือนจะบอกให้เธอลดน้ำหนักเธอไม่ได้อ้วนเลยนะแต่ก็เข้าใจว่าถ้าเธอปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอีกจะเป็นปัญหาในอนาคตได้ แล้วช่วงหลังๆ มานี้เธอก็กินเยอะมากอารมณ์ก็ไม่ค่อยคงที่ ถ้าไม่ได้กินคือจะหงุดหงิดผิดปกติไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน "ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหมคะ" เมื่อเขาเอาแต่อธิบายในกระดาษเธอก็สงสัย "..." คุณหมอหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองแววตาว่างเปล่ายากที่จะคาดเดาอารมณ์ "คือฉันสงสัยว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยพูด ทั้งที่ความจริงคุณก็พูดได้ปกติ" รักษาครั้งแรกก็ถามเยอะก็คนมันอยากรู้ "รำคาญมั้ง" สั้นๆ รู้เรื่อง คนถามถึงกับหน้าร้อนผะผ่าว "รำคาญแม้กระทั่งเสียงตัวเองเนี่ยนะ" เขาเป็นคนแปลกประหลาด "รำคาญคุณนั่นแหละ แล้วผมก็เลือกพูดแค่กับบางคน" พอพูดต่อยาวๆ ก็แรงมาก คนไข้สาวถึงกับหงายเงิบแต่ก็ถามต่อไม่แคร์ "งั้นเหรอคะ แต่ฉันคิดว่าคุณเป็นหมอแปลกๆ หรือไม่ก็ควรไปทำอาชีพอื่นนะ แบบอาชีพที่ไม่ต้องคุยกับคนหรือไม่ก็ไปเป็นสัตวแพทย์ดูแลน้องช้างอยู่บนป่าบนเขา" คนอะไรพูดตรงและแรงมากไม่มีถนอมน้ำใจ เธอเป็นคนไข้นะ เดี๋ยวก็แจ้งหน่วยงานซะเลย แต่แรงมาเธอก็แรงกลับ "เรื่องของผม" สั้นๆ คือจบ ใบหน้าหล่อเงยขึ้นจ้องมองดวงตากลมใส คล้ายกับกำลังคิดวิเคราะห์อะไรบางอย่าง !!! แรงมากแต่ก็จริง เรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย..แล้วเธอจะไปยุ่งทำไม ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งแค่สงสัย หมออะไรปากหมาเสียจริง "รู้ค่ะ ดิฉันแค่เสนอแนะเผื่อชีวิตคุณจะดีขึ้น" ยิ้มแห้งภายใต้หน้ากาก โชคดีที่เธอใส่แมสไม่งั้นเธอคงเผลอหลุดอ้าปากเหว๋อแน่ๆ "เชิญรับยาครับ" คุณหมอหนุ่มพูดตัดบทสั้นๆ ผายมือออกไปด้านนอก ทำเอาคนไข้สาวไปต่อไม่ถูกเหมือนถูกเหยียบเบรกหัวทิ่ม คนอะไรไร้มนุษยสัมพันธ์ ไม่น่าคบหาไม่รู้ว่าเฮียขุนไปคบเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง เป็นหมอเธอเข้าใจแต่ไร้ความรู้สึกสุดๆ "ค่ะ" น้ำขิงใช้มือเลื่อนล้อรถเข็นตัวเองออกมา จะให้เธอออกไปยังไงล่ะถ้าไม่เข็นออกมาเอง แต่ในจังหวะนั้นคุณหมอหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินมาช่วยเข็นก็ทำเอาเธอตกใจเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง ด้านนอกห้องตรวจ เมื่อลูกสาวคนสวยออกมาจากห้องตรวจ คนเป็นแม่ก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วงแต่เมื่อแม่เกดเจอคุณหมอหล่อเดินออกมาด้วย ก็รีบเดินไปทักทายคุณหมอหล่อแทนที่จะเข้ามาช่วยลูกสาว "คุณหมอภามสวัสดีค่ะ ลูกสาวแม่ไม่ดื้อกับคุณหมอใช่ไหมคะ แม่กลัวว่าคุณหมอจะปวดหัวกับลูกสาวที่แสนจะดื้อรั้นคนนี้" ยิ้มทักทายมีความสุข "แม่!!!" น้ำขิงตกใจ นี่แม่เป็นห่วงเธอจริงๆ ใช่ไหม "สวัสดีครับแม่เกด ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ แล้วอาการปวดหลังของแม่เกดเป็นยังไงบ้างครับ" ถึงแม้ชายหนุ่มจะมีอาการตกใจที่รู้ว่าเธอคือลูกสาวคนไข้เจ้าประจำแต่เขาก็เก็บอาการทำทุกอย่างเป็นปกติ หมอภามไม่ได้สนใจโลกภายนอกจึงไม่รู้ว่าแม่เกดเป็นภรรยาของ ส.ส.เต้อภิสิทธิ์ ขนาดตัว ส.ส.เอง เขาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าแต่อาจจะเห็นรูปผ่านตามาบ้าง "ตอนนี้อาการปวดหลังของแม่ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถ้าไม่ได้หมอภามแม่คงเดินไม่ได้ขนาดนี้หรอกค่ะ ต้องขอบคุณที่หมอภามเป็นเทพบุตรมาโปรดคนแก่ปวดหลังคนนี้" เอ็นดูคุณหมอยิ่งนัก แม่เกดปลื้มใจอยากมีลูกชายแบบนี้เสียจริง หล่อนิสัยดี หาที่ไหนได้ การพูดทักทายของเขากับแม่ทำให้น้ำขิงรับรู้ได้ว่าเขาเลือกคุยแค่กับบางคนจริงๆ และเหมือนจะคุยดีแค่กับผู้สูงอายุแล้วแม่เธอก็ดูจะไม่สนใจเธอเลยสักนิด สรุปอยากให้ลูกมาหาหมอหรือตัวเองอยากมาเจอหน้าหมอเสียเองก็ไม่รู้ "แม่..ขิงปวดหลัง อยากกลับบ้านไปพักผ่อน" เหนื่อยจะแย่ ทำไมต้องพามารักษาที่นี่ด้วยก็ไม่รู้ "ขิง..นี่หมอภาม หมอที่รักษาแม่จนหายปวดหลัง รู้จักคุณหมอเอาไว้นะลูกเผื่อมีอะไรจะได้พึ่งพากัน" ยิ้มมีความสุข อยากให้รู้จักผูกมิตรไมตรีกันเอาไว้ "ค่ะ" คนสวยตอบสั้นๆ "งั้นแม่ไปก่อนนะคะ คุณหมอ" "สวัสดีครับ" หนุ่มหล่อยกมือไหว้สวัสดี แม่เกดคือคนที่เขาเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่และคือคนที่คอยให้คำแนะนำกับเขาในช่วงแรกๆ ที่เขามาประจำอยู่ที่นี่และท่านก็คอยส่งข้าวส่งน้ำมาให้ตลอด คุณหมอหนุ่มจึงรู้สึกขอบคุณ "สวัสดีค่ะ..น้ำขิงสวัสดีคุณหมอด้วยสิลูก นัดครั้งหน้าเดี๋ยวก็มาเจอกันอีก" บอกให้ลูกสาวทำตัวน่ารัก "สวัสดีค่ะ" ยกมือไหว้แบบเร็วๆ ส่วนอีกคนก็ยกมือสวัสดีตอบ ดูจะไม่ค่อยถูกชะตากันสักเท่าไหร่ แม่เกดก็รับรู้ได้ อยากจะตีลูกสาวสักทีทำกิริยามารยาทไม่งามเอาเสียเลย แล้วแบบนี้ผู้ชายที่ไหนจะมาเหลียวมอง มีแค่ความสวยอย่างเดียวไม่ได้หรอก..ดูอย่างแม่ขนาดแก่แล้วยังพูดเสียงหนึ่งเสียงสองไม่ตรงฉินเหมือนผู้เป็นลูก หลังจากสวัสดีกันก็ได้เวลาแยกย้าย กลับมาที่บ้าน สส.เต้อภิสิทธิ์ ผู้เป็นพ่อกลับมาก่อนเพราะมีธุระด่วน เมื่อรู้ว่าลูกสาวกับภรรยามาถึง ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาแม้จะอายุห้าสิบปลายๆ ก็เดินออกไปรับลูกสาว "กระดูกหักหรือมีส่วนไหนชำรุดหรือเปล่า ครั้งนี้พ่อคงต้องทำโทษทั้งคนทั้งม้า" บอกหลายครั้งหลายหนว่าให้ระมัดระวังก็ยังดื้อทั้งคนทั้งม้า "ผลเอกซเรย์ปกติดีค่ะไม่แตกไม่หัก ลูกสาวพ่อกระดูกเหล็กอยู่แล้ว วันนี้โดนฉีดยาไปสองเข็มเข็ดไปอีกนาน พ่ออย่าทำโทษเจ้าสมุทรเลยนะ เรื่องนี้ขิงผิดเอง" เจ้าสมุทรคือม้าสุดที่รักของเธอ เจ็บนี้เข็ดไปอีกนาน "พ่อบอกหลายครั้งหลายคราไม่เคยฟัง เวลามันพยศอย่าไปเข้าใกล้ ไอ้ปืนกับไอ้ไฟก็อยู่ ทำไมไม่ให้พวกมันดูแล ส่วนหน้าที่ของเราคือดูแลรีสอร์ตให้พ่อ" พูดแล้วเหนื่อย เป็นสส.ยังไม่เหนื่อยเท่ากับเป็นพ่อคน "รับทราบค่ะ ต่อไปนี้ขิงจะไม่ดื้อทำอะไรเอง พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะพรุ่งนี้ขิงก็เดินได้สบายๆ" ใครจะไปคิดว่าเจ้าสมุทรจะพยศแรงจนทำเธอล้มหงายหลัง "ให้มันจริง เข้าไปพักผ่อนในบ้านไป ต่อไปนี้พ่อขอสั่งห้ามไม่ให้ไปที่ฟาร์มจนกว่าจะหายดีและห้ามขี่ม้าเป็นเวลาสามเดือน" "สะสามเดือนเลยเหรอคะ ขิงได้ขาดใจตายพอดี พ่อก็รู้ว่าขิงชอบขี่ม้า"แล้วก็ตกม้าทุกปี ก็คนชอบทำไงได้.. "ห้ามคือห้าม ถ้าไม่ฟังพ่อจะเปลี่ยนให้มาช่วยงานพ่อแทนงานที่รีสอร์ต" ให้ทำงานตามใจแล้วเป็นไง เจ็บตัวทุกปีกว่าจะผ่านพ้นปีนี้ไม่รู้จะเจ็บตัวอีกสักกี่รอบ มีลูกสาวคนเดียวพ่อก็ห่วงหวง "ไม่เอานะ ขิงไม่อยากตามพ่อไปงานบวช งานประชุม ขออยู่ดูแลรีสอร์ตดีกว่า" งานของพ่อคืองานที่เธอขอลา ขี้เกียจยิ้มปั้นหน้า "งั้นก็ต้องทำตามที่พ่อบอก" เป็นสส.ใช้อำนาจได้กับทุกคน ยกเว้นเมียกับลูกใช้ยากเหลือเกิน ลูกว่าพูดยากแล้วเมียยกให้ที่หนึ่ง พูดนิดพูดหน่อยก็หาว่าออกคำสั่ง.. "รับทราบค่ะ" ยิ้มหวานเดินเข้าไปกอดอ้อนพ่อ แม้จะรู้สึกว่าตัวเองโตแล้วแต่สุดท้ายก็ยังคงเป็นเด็กสำหรับพ่อแม่เสมอ พ่อกับแม่คือเซฟโซนของเธอ ถึงเธอจะดื้อรั้นแค่ไหนแต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยปล่อยมือจากลูกคนนี้ คอยบอกคอยเตือนตลอด เข้าวันต่อมา อาการปวดก้นกบเริ่มระบมแต่ก็ไม่ได้ปวดจนเดินไม่ได้แค่ยังรู้สึกเดินขัดๆ ห้องครัวด้านล่าง "เดี๋ยวมะขามช่วยค่ะ" มะขามคนงานวัยยี่สิบต้นๆ รีบเข้ามาช่วยพยุง "วันนี้แม่ทำอะไรกินอะ กลิ่นหอมเชียว" หลังๆ แม่ทำกับข้าวเยอะมากไม่รู้เอาไปฝากใครทำแต่ละเมนูเป็นอาหารภาคกลางทั้งนั้นแล้วแต่ละเมนูก็เป็นเมนูที่ลูกสาวไม่ได้ชอบกินแต่หลังๆ แม่ทำบ่อยจนเธอเริ่มติดใจ "วันนี้มีแกงมัสมั่นไก่ค่ะและอีกหลายเมนู" สาวใช้ยิ้มพูดคุย ดูมีความสุขแปลกๆ "แกงมัสมั่นไก่อีกแล้วเหรอ ของโปรดใครหรือเปล่าเนี่ย" แรกๆ ก็อร่อยหลังๆ แม่ทำบ่อยเกิน ร่างบอบบางค่อยๆ เดินไปนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว ส่วนพ่อกับแม่กินข้าวเช้ากันตั้งแต่เจ็ดโมงวันนี้เธอตื่นสายเลยไม่ทันต้องนั่งกินคนเดียวซึ่งก็ปกติส่วนน้องชายที่เรียนอยู่ในเมืองจะกลับมาบ้านทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์แต่หลังๆ เรียนหนักไม่ค่อยได้กลับ "คุณน้ำขิงยังไม่รู้เหรอคะ" มะขามทำหน้าสงสัย คุณผู้หญิงทำเมนูนี้มาหลายเดือนแล้วนะ "หึ..ทำไมเหรอ" ปกติเธอไม่ได้สนใจ ตื่นเช้ามากินข้าวแล้วก็รีบไปทำงานที่รีสอร์ตแต่วันนี้ป่วยจึงมีเวลาได้สังเกต "เป็นเมนูโปรดของคุณหมอกระดูกที่รักษาคุณหญิงค่ะ" พูดแล้วก็ยิ้ม คุณหมอหล่อมาก มะขามเคยไปโรงพยาบาลกับคุณหญิงเคยเจอบ้างบางครั้ง แค่นึกถึงก็อดชื่นชมในความหล่อของคุณหมอไม่ได้ คนอะไรหล่อยังกับเทพบุตร คุณหญิงเคยบอกว่าอยากได้มาเป็นลูกเขยแล้วก็ยิ้มหัวเราะในรถคนเดียว.. "ฮะ!! ของโปรดนายหมอประหลาดคนนั้นเหรอ" ได้ยินแล้วแทบช็อก นี่แม่เธอคิดอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า เรื่องนี้ต้องถึงหูพ่อ ทีกับข้าวที่พ่อชอบบอกขี้เกียจทำ พอเมนูโปรดนายหมอหล่อนั่นทำกินเกือบทุกวันอย่าบอกนะว่าทำไปฝากเขาที่โรงพยาบาลถึงได้ทำเยอะทุกวัน ดีที่เธอรู้ก่อนจะได้ไม่กิน "หมอประหลาดคือใครหรือคะ" มะขามทำหน้างง "ก็หมอคนที่มะขามพูดถึงนั่นแหละ วันนี้ขิงไม่กินแกงมัสมั่นนะ เป็นเมนูอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เมนูนี้" ต่อให้อร่อยเธอก็ไม่กิน ไม่อยากจะกินเมนูเดียวกับคนที่เธอไม่ชอบหน้า "ดะได้ค่ะ เดี๋ยวมะขามไปตักให้" มะขามทำหน้างง วันก่อนบอกแกงอร่อยมาก วันนี้บอกไม่กินก็เริ่มจะงง คนในบ้านนี้แปลกๆ ทั้งนั้น เดินไปกระซิบบอกป้าสายให้ตักเมนูอื่นแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD