ตอนที่ 1

1370 Words
1 1 เสียงเฮฮาบนดาดฟ้าตึกสูงสี่ชั้น ดังลงมาถึงชั้นล่าง ในเวลาเพียงสามทุ่มแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติเสียแล้ว ตึกๆ นี้เป็นศูนย์รวมของเหล่านักศึกษาเอย คนทำงานเอย ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานโรงงานทั้งนั้น โรงงาน...ไม่ใช่ว่า โรงงานเล็กๆ เหมือนสมัยย้อนไปสักเกือบสิบปี ทุกวันนี้บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามาตั้งฐานการผลิตเยอะแยะแล้ว โดยเฉพาะบริษัทจากญี่ปุ่น คนงานไม่ใช่มีแค่ฝ่ายผลิตที่คนส่วนใหญ่มองว่า ความรู้น้อยหรือไม่มีการศึกษาเลย แต่คำว่าโรงงานสมัยนี้ รวมเอาคนกลุ่มใหญ่ มีหลายฝ่ายหลายแผนก ตั้งแต่ไม่มีความรู้ ไม่ได้เรียนหนังสือ ยันคนจบยังระดับด็อกเตอร์กันเลยทีเดียว แล้วแต่ว่า แต่ละฝ่ายนั้นๆ ต้องการบุคลากรด้านใด อย่าได้ดูถูกคนทำงานโรงงานเชียว คนระดับยากหญ้าในสายตาคนส่วนใหญ่นี่แหละ ทำงานได้เงินเป็นกอบเป็นกำ โบนัสออกทีวางแผนอนาคตกันได้เลยทีเดียว ขณะที่คนจบปริญญาตรีแท้ๆ กลับแทบไม่มีเงินเก็บ จะเป็นเพราะคนทำงานโรงงานทำงานเยอะกว่าก็ใช่ เวลางานปกติ ทำโอที เข้ากะ สารพัด เรียกได้ว่ารายรับสมน้ำสมเนื้อกับเวลาทำงาน อาจไม่ได้นั่งในออฟฟิศตากแอร์เย็นๆ แต่งตัวสวยๆ เหมือนคนจบสูงๆ แต่รายได้ไม่ได้น้อยหน้าเลยทีเดียว หอพักหรือห้องเช่ารายเดือนที่มีพนักงานโรงงานมาเช่าพัก ส่งเสียงดังเป็นเรื่องปกติ เพราะมีการดื่มกินสังสรรค์กันเนืองๆ ไหนจะลูกค้านักศึกษาอีก กับราคาค่าเช่าเดือนหนึ่งไม่เกินสามพันบาท ถือว่าไม่แพงเกินไป มันเป็นทางเลือกให้ใครๆ หลายคน หากคนที่อยากพักเงียบๆ ห้องพักหรูๆ ก็มีหอพักอีกเกรดไว้ให้เลือกอยู่แล้ว ขวัญฤทัย น้อยอนุชา หรือที่ใครเรียกชื่อเล่นว่า ตุ๊กตา เลือกเช่าห้องที่นี่ มีเพื่อนๆ เธอเช่าอยู่ห้องชั้นสามกันหลายคน เพื่อนในที่นี้ก็คือเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกัน เธอจบปริญญาตรีมาทางด้านเทคโนโลยีอาหาร ได้งานในแผนกการตรวจสอบและควบคุณคุณภาพของสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็ได้รู้จักกับเพื่อนพี่เพิ่มที่นี่ ส่วนเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานต่างบริษัท ต่างถิ่นที่กันหมดแล้วแต่ว่าใครโชคดีได้งานที่ไหน บางคนได้งานไม่ตรงกับสาขาที่เรียนมา บางคนโชคดีได้ตรงกับสาขาที่เรียน อย่างเอกรัฐคนรักของเธอ ซึ่งได้ทำงานในแผนกวิศวเครื่องกลโรงงานบริษัทเดียวกับเธอนี่เอง ทั้งสองวางแผนเก็บเงินสักก้อน แล้วจะแต่งงานกัน เอกรัฐเช่าห้องอยู่กับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันชื่อนพดนัย เมื่อเรียนจบแล้ว ทั้งสองก็ยังคงเช่าอยู่ด้วยกัน เพราะนพดนัยได้งานบริษัทเดียวกับเธอในตำแหน่งวิศวกรเครื่องกลโรงงาน เอกรัฐจึงพาตุ๊กตามาเช่าห้องที่ตึกนี้ เขาเองมาค้างด้วยบ้างเป็นครั้งคราว เพราะยังไม่ได้แต่งงาน ตุ๊กตาจึงปฏิเสธที่จะให้เขามาอยู่ด้วย เกรงเรื่องจะถึงหูพ่อแม่ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดนั่นเอง แม้ว่าเรื่องอื่นๆ นั้นมันจะล่วงเลยไปไกลแล้วก็ตาม วันนี้กลุ่มเพื่อนๆ ที่ทำงานมีสังสรรค์กันตามประสาวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์ ก็นัดกันมาดื่มกินที่ตึกนี้ เพราะมีเพื่อนทั้งเพื่อนของเธอเพื่อนของเขาพักที่นี่หลายคน ทำงานด้วยกันมาเกือบปีจึงสนิทกันเป็นพอควร เมื่อกินเหล้าก็มีเล่นไพ่กันสนุกๆ เอาฮา กับแกล้มนั้นซื้อหาเข้ามา สถานที่ประจำคือบนดาดฟ้าตึกนั่นเอง ตุ๊กตาขึ้นไปสนุกกับคนอื่นๆ พักหนึ่ง กินเหล้าผสมโซดาโค้กไปสองสามแก้ว ก็ขอตัวลงมานอนพัก เพราะอยากให้เอกรัฐกับเพื่อนๆ สนุกกันตามประสาหนุ่มๆ วันนี้นพดนัยก็มาร่วมด้วย อีกเรื่องคือ ตุ๊กตาเห็นว่ามีแต่เพื่อนๆ กัน คงไม่มีเรื่องอะไรให้เป็นห่วง ไอ้เรื่องกินแล้วจะมีเรื่องต่อยตีเหมือนสมัยยังวัยรุ่นเลือดร้อนคงจะมีน้อยมาก พรุ่งนี้วันอาทิตย์ได้หยุดหนึ่งวัน เธออยากนอนพักผ่อนเต็มที่จึงลงมาซักผ้า กวาดถูห้องเรียบร้อย ก่อนจะอาบน้ำเข้านอน เคลิ้มหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ มาสะดุ้งตื่น ยังได้ยินเสียงเฮฮาข้างบนมาแว่วๆ ในห้องตอนนี้มืด ตุ๊กตาตื่นก็เพราะการคลอเคลียแถวๆ ลำคอ กับลำแขนกำยำที่สอดมากอดตรงเอว “เอก เลิกกินแล้วเหรอ” ถามเสียงงัวเงีย พลางย่นคอหนี วูบวาบกับลมหายใจอุ่นๆ กรุ่นกลิ่นเหล้าหึ่ง ห้องนี้ราคาค่าเช่าถูกเพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมาก นอกจากแอร์หนึ่งตัว ที่จริงตึกนี้มีห้องให้เลือกหลายแบบ ห้องมีเฟอร์นิเจอร์ ห้องแอร์ ห้องพัดลม และห้องเปล่าแบบมีแอร์กับพัดลม ตุ๊กตาเลือกห้องเปล่ามีแอร์ เพราะเธอมีที่นอนปิกนิกมีตู้เสื้อผ้าแล้ว อีกอย่างคิดว่าพักอาศัยไม่นาน ถ้าซื้อบ้านหรือแต่งงานก็ย้าย จึงไม่เดือดร้อนที่จะอยู่แบบง่ายๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อเก็บเงินทองไว้ดีกว่า คนที่นอนซ้อนข้างหลังไม่ตอบ มีแค่เสียงลมหายใจที่ดังแรงขึ้น กลิ่นเหล้าอวลไปทั่ว มันไม่แปลกสักนิด เอกรัฐชอบนอนกอดเธอ ชอบจูบ ชอบทำแบบนี้ เขาจูบไปทั่วลำคอ ปาดลิ้นเลียไปทั่วกกหู หลังใบหูและติ่งหู ลูบมือเบาๆ ที่หน้าท้องแบนๆ นวดเคล้นขยำฝ่ามือขึ้นสูงนอกเสื้อกล้ามตัวบางที่ตุ๊กตาใส่นอน เขากอบขยำกำเคล้นที่เต้าอวบ เธอไม่ได้สวมชั้นในทั้งชิ้นบนและล่าง เนื้อตัวจึงมีแค่เสื้อกล้าม กับกางเกงขาสั้นเนื้อนิ่มเท่านั้น “เอกจ๋า... เดี๋ยวๆ ไปอาบน้ำก่อนสิคะเอก” ความวาบหวาม วูบวาบไปทั่วตัวทำให้ตื่นเต็มตา ตุ๊กตาพยายามจะดึงตัวเองออกห่าง ไล่เอกรัฐไปอาบน้ำ เพราะเธอรู้ดีว่าเวลาที่เขาทำแบบนี้ ทำนาน กว่าจะจบเรื่องกับเธอคงดึกจึงอยากให้อาบน้ำก่อน ที่สำคัญเธอชอบให้เขาตัวหอมๆ มากกว่ามีกลิ่นเหงื่อหรือกลิ่นน้ำมันเครื่องจักร เขากลับไม่สนใจ ขยับตัวแนบเข้ามาชิดอีก หน้าอกกว้างเสียดสีด้านหลังของตุ๊กตา มือใหญ่บีบขยำตูมเต้าอวบเต็มทั้งสองก้อนหนักๆ ขณะที่ปากซุกไซ้ไปทั่ว คอ ไหล่ ใบหน้าเนียนนุ่ม เขาทั้งจูบทั้งเลียลิ้นราวกับเธอเป็นอาหารอร่อย “เอก...” เสียงตุ๊กตาเบาหวิว น้ำเสียงมีความกระเส่ามากขึ้น เมื่อมือข้างหนึ่งของแฟนหนุ่มปราดลงไปที่ซอกขา มือใหญ่แข็งแรงบีบขยำเนินเนื้อที่ซุกซ่อนใต้กางเกงเนื้อนุ่ม เนินนาผืนใหญ่เต็มฝ่ามือกระตุ้นเลือดร้อนๆ ในกายหนุ่ม เขากดลำนิ้วแข็งเบียดแทรกลงหารอยแยกกลางกลีบเนื้อสาว แทรกลำนิ้วกลางยาวใหญ่กรีดเขี่ยร่องที่พบ ลากขึ้นลากลง รับรู้ถึงสองกลีบดอกไม้งามที่อวบแน่นทั้งสองข้าง ค้นพบตูมเกสรเหนือร่อง มันเริ่มเป่งแข็งตั้ง เมื่อเขากดปลายนิ้วลงไปบี้บดรัวๆ “อ๊า เอก... เอกจ๋า...” ยามนี้ ตุ๊กตาร่ำร้องครางออกมา บิดสะโพกส่ายรับการบดบี้อย่างเสียวซ่าน มือน้อยๆ ของเธอไขว่คว้ามาด้านหลัง ไม่ได้ผลักแฟนหนุ่มออก แต่เพื่อจะได้สัมผัสเขา ลูบไล้ บีบเคล้นเนื้อตัวเขาเพื่อระบายความซ่านเสียว ตุ๊กตาป่ายมือบีบขยำเนื้อโคนขา สะโพกสอบ ป่ายคลำสะเปะสะปะตามอารมณ์รัญจวน ใบหน้าที่ซุกซ่อนในความมืดแหงนหงาย ปากห่อคราง แม้ห้องเธอจะอยู่ด้านในสุดของชั้น แต่ก็ติดระเบียงทางเดินกลาง ตุ๊กตาไม่กล้าส่งเสียงดังมาก กลัวเสียงจะลอดออกไปด้านนอก ความเสียวจากน้ำมือชายที่กดขยี้ไม่หยุด ทำให้เสียวซ่านจนตัวสั่น อดร้องครางไม่ได้ “เอก...อูย...มันเสียวนะเอก...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD