8

985 Words
คฤหาสน์สกุลเติ้ง “นายท่านเจ้าคะ” เติ้งอี้เทียนมองสาวใช้ที่เดินเข้ามา “พ่อบ้านเล่า” “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่เจ้าค่ะ ป้าโปก็ไม่อยู่” ซูฮวารายงานอย่างนอบน้อม คำพูดของนางทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าสองผัวเมียขอลากลับบ้านกะทันหัน เพราะน้องชายของลุงโปป่วยหนัก จึงอยากกลับไปดูใจเป็นครั้งสุดท้าย “มีอะไร” “ฮูหยินจูมาขอพบนายท่านเจ้าค่ะ” “ใครคือฮูหยินจู อ้อ.. นางอยู่ไหน” “ที่โถงรับแขกเจ้าค่ะ” “ตามเฟิงเมี่ยนมาพบข้า” “เจ้าค่ะ” โถงรับแขก จูอินหัวใจเต้นแรงจนต้องกำมือสะกดความรู้สึกกริ่งเกรง เมื่อได้เห็นบุรุษใบหน้าหล่อเหลาที่นั่งรถเข็นเข้ามา ขนกายของนางลุกซู่เมื่อได้สบสายตาเย็นชาที่มองมา เติ้งอี้เทียนเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้า ไม่ยอมพูดจา “ได้ยินว่าอยากพบข้า” จึงพูดขึ้น “คะ..คารวะนายท่าน ท่านเติ้ง ข้าน้อยจูอิน ภรรยาของอาเกอ ของจูเกอ เจ้าของร้านซาลาเปาสกุลจูเจ้าค่ะ” พูดผิดพูดถูกจนลิ้นพันกัน “นั่งสิ” เฟิงเมี่ยนรินน้ำชาให้ทั้งสอง แล้วขยับไปยืนห่าง ๆ อย่างรู้หน้าที่ “ดื่มชาสิ” “ขอบคุณนายท่าน” นางรีบยกน้ำชาขึ้นจิบ อี้เทียนอาศัยทีเผลอมองสำรวจอีกฝ่าย แม้นางจะเป็นแค่ฮูหยินร้านซาลาเปา แต่ทั้งเครื่องประดับและเสื้อผ้าของนางก็ดูดีมากเมื่อเทียบกับลูกสาวคนโตของนาง ที่ไม่มีเครื่องประดับดี ๆ ติดศีรษะสักชิ้น เป็นแม่ลูกที่ดูแตกต่างราวนายกับทาส เขาจิบน้ำชาเล็กน้อยแล้ววางลง “มาพบข้าวันนี้คงเอาคำตอบมาให้สินะ” จูอินรวบรวมความกล้า สบสายตาเย็นชาที่ให้ความรู้สึกเหมือนไม่พอใจของอีกฝ่าย “เจ้าค่ะ..” “อยากพูดอะไรก็พูดออกมา เจ้าไม่พูดข้าก็คงไม่รู้สักที” เห็นความลังเลของนางจึงพูดขึ้น “ข้าอยากถามท่านเติ้งสักสองสามประโยคเพื่อความแน่ใจ ถ้าขัดใจก็ต้องขอโทษด้วย” “เชิญ” “ท่านอยากแต่งกับลูกสาวคนไหนของข้า” “พ่อบ้านของข้าคุยกับเถ้าแก่จูชัดเจนไปแล้วนี่” “สามีข้าบอกว่าเป็นลูกสาวคนโต แต่ที่ข้าต้องมาถามเพราะกลัวว่าพ่อบ้านของท่านอาจจะเข้าใจผิด อาจจะเป็นลูกสาวคนรองที่ชื่ออ้ายเหม่ย” “เฟิงเมี่ยน” “นางชื่อซินซิน ไป๋ซินซิน” “ไป๋” คิ้วเข้มพาดเฉียงแสร้งขมวดเข้าหากัน “ไป๋ซินซิน นางใช่ลูกสาวของบ้านเจ้าหรือไม่ หรือข้าสู่ขอผิดบ้าน” “ชะ ชะ ใช่ ใช่ นางคือลูกสาวคนโตของข้าเอง” เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกหวาดหวั่นกับแซ่ไป๋ของซินซิน เพราะบุรุษหน้าตาเย็นชาไร้ความอ่อนโยนตรงหน้านี้คนเดียว “เช่นนั้นก็เป็นนางไม่ผิดแน่” “นายท่านเคยเจอนางแล้วหรือ” “จำเป็นด้วยหรือ ก็แค่แต่งภรรยาสักคนเพื่อมีลูกให้ข้าก็เท่านั้น” คำพูดไม่แยแสของเขาทำให้นางแอบสะใจ แต่ความมั่งคั่งของเขาก็ทำให้นางนึกเสียดาย และคิดว่าความเย็นชาของเขาจะต้องเปลี่ยนไปเป็นความลุ่มหลง เมื่อได้เจอกับจูอ้ายเหม่ยผู้เลอโฉม “ข้าอยากให้นายท่านได้เจอกับลูกสาวทั้งสองคนของข้าสักครั้ง ต่อให้นายท่านแค่อยากแต่งภรรยาเพราะอยากจะมีลูก แต่จะดีกว่าไหมถ้าได้โฉมงามที่ถูกใจมาร่วมเตียง” ชายหนุ่มรูปงามรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย แต่ก็แสดงออกอย่างสนใจ “เจ้าคิดอย่างไรเฟิงเมี่ยน” เฟิงเมี่ยนอยากเหลือกตามองบน แต่ก็ต้องทนทำตัวสำรวม “เป็นความคิดที่ดี” “เช่นนั้นเจ้าจัดการแทนข้าก็แล้วกัน” “ความหมายคือท่านจะให้บ่าวรับใช้เลือกภรรยาให้ท่านหรือ” จูอินถามเสียงสูง คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความคิดผิดเพี้ยนได้ขนาดนี้ “ใช่” “เช่นนั้นข้าคงต้องขอปฏิเสธเช่นกัน ขออภัยถ้าทำให้ท่านเติ้งไม่พอใจ” นางไม่พอใจเขาจริง ๆ แต่ที่พูดไปก็เพียงแค่เสแสร้ง เพราะถึงอย่างไรนางก็อยากให้เขาพบกับจูอ้ายเหม่ยสักครั้ง “ขอบคุณสำหรับน้ำชา” “ฮูหยิน” เขาอยากจะหัวเราะกับอาการเสแสร้งของนาง “ทำตามที่ฮูหยินเสนอก็ได้” กระตุกยิ้มสะใจเมื่อเห็นอาการดีใจของนาง “อีกสามวันพาพวกนางมาพบข้าที่นี่” จูอินรีบพยักหน้าตอบรับ ในใจอยากให้เป็นพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ แต่สามวันก็ดี นางจะได้มีเวลาหาซื้อชุดใหม่และเครื่องประทินโฉมให้อ้ายเหม่ย ส่วนไป๋ซินซิน นางจะมอบความเมตตาให้สักครั้ง จะยกชุดเก่าของอ้ายเหม่ยให้สักชุด “นายท่านจะให้ข้ามาพบเวลาไหนดี” “ยามอู่ก็แล้วกัน ในเมื่อมีวาสนาได้เจอหน้ากันแล้วก็ควรกินข้าวด้วยกันสักมื้อ” “ดีเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนนายท่านแล้ว” “เชิญ” “นายท่าน” เติ้งอี้เทียนมองสาวใช้ที่เดินเข้ามาแทนที่แขกที่เพิ่งเดินออกไป “วันนี้บ่าวทำมันต้มกานเจียง อยากให้นายท่านได้ลองชิม” “ข้าดื่มชาอิ่มแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้นแล้วเดินจากไป ซูฮวาผิดหวังอย่างมาก แต่ก็ยอมย่อกายคารวะตามหลังเขา ไม่ถึงครึ่งเค่อเฟิงเมี่ยนก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าไปหาผู้เป็นนาย มองเขาด้วยสายตาขัดใจ แต่พอเห็นสายตาดุดันที่จ้องกลับก็รีบทำหน้าสลด ยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้ “นายท่านยังจะออกไปข้างนอกอยู่หรือไม่” “เจ้าทำแผนข้าล่มหรือ” “ไม่ แต่เกรงว่าถ้าไม่รีบออกไปตอนนี้อาจจะล่ม บ่าวเตรียมม้าไว้ให้พร้อมแล้ว” มุมปากของอี้เทียนกระตุกยิ้มเล็กน้อย “ดีมาก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD