1

1368 Words
เมืองหลวง แคว้นเทียนฝู่ “ท่านพ่อได้โปรด อย่าให้ข้าแต่งงานกับอาหูเลย” หญิงสาววัยสิบเจ็ดโขกศีรษะอ้อนวอนบิดาทั้งน้ำตา “ทำไมเจ้าถึงไม่อยากแต่ง เขาไม่ดีตรงไหนเสี่ยวอิน” พยายามถามอย่างใจเย็น “เขา..ข้าคิดว่าเขาไม่ได้รักข้า” บิดาถอนหายใจอย่างแรง คำตอบของนางเขารู้ดีว่าหมายถึงนางมีบุรุษอื่นอยู่ในใจแล้ว “มีใครบ้างที่แต่งงานเพราะรักกัน ทุกคนล้วนแต่งงานตามความเห็นควรของพ่อแม่ทั้งนั้น” “แต่ข้าอยากแต่งงานกับคนที่ข้ารัก” “...ยังไงเจ้าก็ต้องแต่งงานกับอาหู” แม้จะเห็นใจแต่เขาก็ต้องเด็ดขาด “ข้าไม่แต่ง ถ้าท่านพ่อยังบังคับข้า ข้าจะหนีตามคนที่ข้ารักไป” สตรีใบหน้างดงามข่มขู่บิดา “ถ้าเจ้าอยากให้ข้ากับแม่ของเจ้า ต้องแบกรับความอัปยศก็ตามใจเจ้าเถิด นอกจากอับอายขายขี้หน้าชาวบ้าน ข้ากับแม่ที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ของเจ้า ก็คงต้องขายตัวไปเป็นทาสให้บ้านอาหู เพื่อชดใช้หนี้ที่หยิบยืมมารักษาแม่ของเจ้า” “ท่านพ่อ!” เสี่ยวอินได้แต่มองบิดาที่หุนหันเดินจากไปผ่านม่านน้ำตา หลายวันผ่านไป “อย่าเสียใจไปเลยอาอิน ข้าดีใจด้วยซ้ำที่เจ้าจะได้แต่งงานกับอาหู เพราะอาหูเขาเป็นคนดีมาก จิตใจโอบอ้อมอารี คอยช่วยเหลือเพื่อนอย่างข้าเสมอ” ชายหนุ่มหน้าตาดีบอกกับหญิงคนรัก ยิ้มให้นาง ไม่แสดงความเสียใจออกไปให้เห็น “เจ้าไม่รักข้าแล้วหรืออาเกอ” “รักสิ..แต่เจ้าก็ควรกตัญญูต่อบิดามารดามากกว่าไม่ใช่หรือ” “แต่ข้ารักเจ้า” “เจ้าควรลืมข้าเสีย คนอย่างข้ามันไร้อนาคต เป็นแค่ลูกจ้างในโรงเตี๊ยม แต่อาหูเป็นทหารในวังหลวง มีหน้าที่การงานที่ดี เขาจะต้องมีตำแหน่งที่สูงขึ้นในอนาคต เจ้าก็จะสุขสบายมากขึ้น ไม่ต้องลำบากเหมือนตอนนี้” “ข้ายอมลำบากถ้าได้อยู่กับเจ้า” “แต่ข้าอยากให้เจ้าอยู่อย่างสุขสบายกับอาหูมากกว่า..เจ้ากับข้าจบสัมพันธ์กันแค่นี้ดีกว่า” จูเกอตัดใจลูกขึ้นแล้วหันหลังให้หญิงสาวผู้เป็นที่รัก “ลาก่อน” “อาเกอ” เสี่ยวอินร้องไห้น้ำตานองหน้า เมื่อชายคนรักเดินจากไปทันทีที่พูดจบ ทำไมทุกคนที่นางรักถึงไม่รักนาง ทำไมทั้งบิดาและทั้งเขาถึงหันหลังให้นางอย่างง่ายดาย หนึ่งเดือนผ่านไป เสี่ยวอินมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของเจ้าบ่าว ที่เปิดผ้าคลุมหน้าของนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่สนใจรอยยิ้มอ่อนโยนที่เขามอบให้สักนิด แต่ก็ยอมทำตามประเพณีโดยดี ยอมแม้กระทั่งร่วมหัวจมท้ายเป็นสามีภรรยา ก๊อก ๆ ๆ ยามโฉ่วของคืนแต่งงาน ขณะที่บ่าวสาวกำลังนอนหลับอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง “อาหู” ไป๋ซินหูรีบลุกจากที่นอนแล้วรีบเดินไปเปิดประตู “มีเรื่องด่วนอันใดท่านพ่อ” “มีคำสั่งให้หน่วยของเจ้าออกเดินทางนำเสบียงอาหารและยาไปที่เมืองไฮ่ เพราะที่นั่นฝนตกหนัก หินจากภูเขาถล่มปิดเส้นทางสัญจร ทำให้ชาวบ้านถูกตัดขาดจากเมืองอื่น ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก แล้วตอนนี้ก็เริ่มเกิดการระบาดของโรคซางหานในเด็กอีกด้วย” “ตอนนี้เลยหรือท่านพ่อ” “ภายในยามโฉ่วพวกเจ้าต้องไปรวมตัวกันที่หน้าประตูทิศเหนือของวังหลวง” “เช่นนั้นข้าจะรีบไปเตรียมตัว ท่านพ่อไปพักผ่อนเถิด” เจ็ดเดือนผ่านไป เสี่ยวอินเก็บจดหมายที่ได้รับจากสามีหลังจากที่อ่านจบ นางไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับข้อความที่บอกว่าเขาเสร็จงานแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับ ซึ่งป่านนี้ก็คงกำลังอยู่ในระหว่างเดินทาง และคงใช้เวลาอีกแรมเดือนกว่าจะมาถึงเมืองหลวง นางลูบหน้าท้องที่นูนออกมาพอสมควร ทารกในท้องเริ่มดิ้นให้รู้สึกแล้ว แต่นางก็ไม่ได้ตื่นเต้นยินดีสักนิด “เสี่ยวอิน” “พี่สะใภ้” หญิงสาวรีบลุกขึ้นเดินไปหาพี่สะใภ้ของสามี “เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกปวดหลังปวดเอวบ้างไหม” “ไม่ ข้าปกติดีมาก ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย” “โชคดีนัก เด็กคนนี้ช่างเจียมตัวดีเหลือเกิน รู้ว่าพ่อไม่อยู่ก็ไม่กล้าทำให้แม่เหนื่อยเพราะตัวเอง” เสี่ยวอินได้แต่ยิ้มกับคำพูดของพี่สะใภ้ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร “วันนี้เจ้าพอจะมีเวลาว่างไหม” “พี่สะใภ้จะไปไหนหรือ” “อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของสามีข้าแล้ว ข้าอยากไปไหว้พระขอพรให้เขาสักหน่อย ข้าก็เลยอยากชวนเจ้าไปด้วย เจ้าจะได้ไหว้พระขอพรให้ลูกในท้องกับสามีของเจ้าบ้าง” “ได้สิ” แต่นางไม่ได้อยากไปไหว้พระขอพรหรอกนะ นางแค่รู้สึกเบื่อ อยากออกไปเที่ยวเล่นบ้างก็เท่านั้น วัดไท่หลินจง “พี่สะใภ้ ข้าอยากเข้าห้องน้ำ” “ห้องน้ำต้องเดินลงบันไดไปทางด้านหลัง ไกลหน่อยนะ ให้ข้าไปเป็นเพื่อนไหม” “ไม่ต้องหรอก ที่วัดนี้ร่มรื่นนัก เข้าห้องน้ำแล้วข้าอยากจะเดินเล่นสักหน่อย” “ตามใจ ข้าจะนั่งสมาธิรออยู่ที่นี่นะ” “อือ” เสี่ยวอินเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็เดินชมสวนที่แสนร่มรื่นของวัด เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในสวน มองดูปลาหลีฮื้อสีสันหลายสิบตัวแหวกว่ายอยู่ในสระ แล้วหูของนางก็บังเอิญได้ยินเสียงหัวเราะของสตรีนางหนึ่ง.. จึงเหลือบไปมองด้วยความใคร่รู้..เห็นบุรุษสตรีคู่หนึ่ง.. แต่เพียงแค่เห็นแผ่นหลังผึ่งผายของฝ่ายชาย ก็จำได้ทันทีว่าเขาคือหูเกอ อดีตชายคนรักของตน ความหึงหวงบังเกิดขึ้นทันที เมื่อเห็นพวกเขาส่งยิ้มให้กันและกันอย่างหวานซึ้ง เท้าที่ยืนนิ่งอยู่ริมสระเปลี่ยนเป็นเดินตรงไปยังที่พวกเขานั่งอยู่ “เสี่ยวอิน!” หูเกอเห็นหญิงสาวที่เดินเข้ามาก็ตกใจ “เจ้ามาได้อย่างไร เป็นอย่างไร สบายดีไหม” แต่ก็รีบทักทายอย่างเป็นมิตร เสี่ยวอินมองหญิงสาวที่มากับเขาด้วยสีหน้าชิงชังอย่างเปิดเผย “เจ้ามากับใครหรืออาเกอ” “นางคือแม่นางสี นางกับข้ากำลัง” “ไม่ต้องบอก ข้าไม่อยากรู้ ข้าแค่อยากมาทักเจ้าเท่านั้น ข้าไปแล้ว” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินจากไปทันที ถ้าไม่ใช่เพราะไป๋ซินหู คนที่ได้ยืนอยู่ข้างอาเกอก็ต้องเป็นนาง เพราะเขาคนเดียวทำให้นางต้องเสียคนรัก ทำให้นางต้องเจ็บปวดใจถึงเพียงนี้ ไป๋ซินหู ข้าเกลียดเจ้ายิ่งนัก!!! เสี่ยวอินเดินหน้าบึ้งกลับไปที่ศาลาใหญ่ เห็นพี่สะใภ้กำลังนั่งสมาธิอยู่ก็ไม่อยากเสียมารยาท จึงนั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเองเงียบ ๆ แต่ภาพของอาเกอกับสตรีนางนั้นก็ยังรบกวนจิตใจไม่เลิก เขากับนางกำลังจะแต่งงานกันงั้นหรือ.. ริมฝีปากบางเม้มเข้ากันหา ปาดน้ำตาที่ยังไม่ทันไหลออกจากดวงตาทิ้ง “ขอให้สามีและลูกของข้าเดินทางกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยด้วยเถิดพระคุณเจ้า” เสียงขอพรที่ไม่ดังนักของสตรีวัยกลางคนนางหนึ่ง ทำให้เสี่ยวอินหันไปมอง.. มองสตรีนางนั้นตั้งใจไหว้พระขอพร มองรูปปั้นพระพุทธรูปที่นางกราบไหว้ แล้วมองไปที่รูปปั้นองค์อื่น ๆ ภายในศาลา.. นางลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบธูปมาจุด แล้วมองจ้องไปที่ดวงตาของพระพุทธรูป ‘ถ้าท่านศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้ไป๋ซินหูสามีของข้าจากข้าไปชั่วชีวิต อย่าได้กลับมาที่เมืองหลวงแห่งนี้อีก ส่วนลูกของเขาคนนี้’ นางก้มมองท้องของตัวเอง ‘ถ้าข้าสมหวังข้าจะยอมให้เด็กคนนี้ได้เกิดมา เพื่อชดเชยกับชีวิตของพ่อเขา’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD