ตอนที่ 2 คนคุ้นหน้า

1687 Words
"เลย์ นายเลิกกับฉันจริงๆ เหรอ" เจนิสเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงสะอื้นและสั่นเครือ เมื่อโดนแฟนหนุ่มต่างคณะนั้นขอจบความสัมพันธ์ ร่างบางที่โดนจบความสัมพันธ์แบบกะทันหัน รับไม่ได้ถึงกับร้องห่มร้องไห้ "แต่เจ...ยังเหมือนเดิมนะเลย์" เจนิสยังคงเอ่ยถามอดีตแฟนหนุ่มทั้งที่โดนฝ่ายชายนั้นบอกเลิกอย่างไม่ทันตั้งตัว "พอ ซะทีเถอะ เจ ไม่ต้องยื้อเราและไม่ต้องโทรหาเราอีก แค่นี้นะ" ยิ่งได้ยินอดีตแฟนหนุ่มเอ่ยตัดเพ้อมาเช่นนั้นร่างบางยิ่งร้องไห้ สะอึกสะอื้นออกมาอย่างหนักขึ้นกว่าเดิม "ฮือ... เลย์" เจนิสร้องไห้อยู่เช่นนั้นราวสิบนาที แต่ร่างบางกับไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนที่ยืนมองเธอ ด้านริว อ่า...อย่างน้อยก็เป็นคนไม่ใช่ผีอย่างที่เขากำลังขนลุก "ที่แท้ อกหักโดนแฟนนั้นบอกเลิกนี้เอง" แต่มันดึกและมืดขนาดนี้แล้วทำไมยัยนี้ มานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว นี้เธอไม่กลัวบ้างเหรอไง แต่ขณะที่ริวกำลังจะเดินเข้าไปใกล้เธอนั้น เสียงสมาร์ตโฟนก็ดังขึ้นมาทันที Rrrrrrr A Ran [สัส มึงอยู่ไหน ไอ้เชี่ยริกแม่งโทรตามแล้วครับ กูรอที่ลานจอดรถ] เสียงอรัณเอ่ยมาตามสาย [แม่ง ไอ้ห่าริก มันจะรีบไปไหนบอกให้มันแดกก่อนเลย กูกำลังเดินกลับคณะ] ริวเอ่ยมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดให้กับริกเล็กน้อย ที่มักจะโทรตามเขาและเพื่อนในกลุ่มกันเป็นประจำ ที่ไม่กล้าโทรเข้าเครื่องเขาเพราะกลัวโดน เลยโทรเครื่องไอ้อรัณแทน ร่างบางที่หนั่งฟุบหน้าที่ม้าหินอ่อนข้างตึก เมื่อได้ยินเสียงรบกวน เจนิสถึงกับละใบหน้าขึ้นมา มือบางเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลออกมาทั้งสองข้าง ออกจากใบหน้าสวยอย่างลวกๆ เมื่อเห็นว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ร่างบางก็ลุกขึ้นยืนและเดินผ่านชายหนุ่มออกไป ริวที่เห็นสภาพใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับชะงัก ร่างบาง ใบหน้าสวยหวาน ขอบตาที่บวมแดง บ่งบอกว่าเธอนั้นผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก สวยขนาดนี้อกหักได้ยังไงวะ ร่างสูงได้แต่คิดในใจ จากนั้นริวก็เดินกลับคณะเพื่อจะออกไปผับ ด้านเจนิส ฉันไม่อยากกลับไปนอนร้องไห้ที่คอนโดคนเดียวลำพัง ฉันคบกับเลย์มาตั้งแต่เราเรียนมัธยมปลายด้วยกัน ฉันไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ วันที่เลย์นั้นเป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอเลิกกับฉัน คงสถานะไว้เพียงแค่เพื่อนกัน เลย์คือผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉัน "เราเลิกกันเถอะนะเจนิส เลย์ขอโทษ แต่เลย์ไม่อยากจะฝืนความรู้สึก และทำร้ายความรู้สึกเจมากไปกว่านี้" คำพูดของอดีตแฟนหนุ่มราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ หัวใจดวงเล็กๆ ของฉันถึงกับแตกสลายไม่เป็นชิ้นดี สิ่งที่ฉันเชื่อใจและรักเขามาตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็รักกันดีแต่เมื่อเดือนที่แล้วหลังจากที่เลย์กลับมาจากค่ายอาสาเขาก็มีท่าทีเปลี่ยนไป และตีตัวห่างจากฉัน เลย์เป็นถึงเดือนคณะโลจิสติก เรื่องความหล่อความเท่ก็เป็นธรรมดาของระดับคนเป็นเดือน ที่มักจะมีสาวๆ นั้นวิ่งเข้าหา แต่ที่ผ่านมาเขาก็ดูแลฉันดีและไม่เคยมีคนอื่น ขณะที่เรายังเป็นแฟนกัน หลายคนเพื่อนในห้องบอกว่าฉันไม่เหมาะกับเลย์ เพราะเลย์เขาเป็นถึงเดือนคณะ ซึ่งฉันไม่ได้สวยมากพอที่จะเป็นดาวคณะได้ สิ่งที่คนอื่นตัดสิน ฉันไม่เคยเก็บเอามาคิดและใส่ใจ ฉันรักเลย์ในแบบที่เรารักกัน โดยไม่ได้เอาคำพวกนั้นมาเปรียบเทียบ ร่างบางเดินออกมาจากตึกคณะด้วยสีหน้าและแววตาที่เหม่อลอยออกไปราวกับคนบ้า อกหักมันเป็นอะไรที่ปวดใจ เจ็บและทรมาน คิดถึง อยากคุยอยากโทรหาแทบจะขาดใจ แต่ก็ทำไม่ได้ หึ...! ฉันพึ่งเข้าใจและได้สัมผัสความรู้สึกที่ผิดหวังครั้งแรก มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ร่างบางในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทสั้นเดินมาโบกแท็กซี่ที่ป้ายรถเมล์ ฉันไม่รู้จะไปที่ไหนรู้เพียงแค่ว่าไม่อยากกลับคอนโดด้วยสภาพแบบนี้ คืนนี้ฉันอยากมีเพื่อนเมาๆ เผื่อฉันจะลืมความเจ็บปวดที่แสนจะทรมานภายในใจนี่ออกไป มาแนะนำตัวกันหน่อย ฉันชื่อเจนิส ปี2 คณะบริหารธุระกิจ ครอบครัวฉันรวยไหม อันนี้ฉันก็ไม่เคยบอกใครว่ารวยพ่อฉันทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เปิดร่วมกับภรรยาคนใหม่ แต่พอแม่ฉันเสียพ่อฉันก็รับฉันมาเลี้ยงดูส่งเสียเรียนต่อตอนฉันอายุสิบเจ็ด ฉันกับพ่อเราเลยไม่ได้สนิทกันมาก เพราะพ่อกับแม่ของฉันพวกท่านแยกทางกันเมื่อฉันยังเล็ก และตอนนี้ฉันก็ใช้นามสกุลของแม่ หลังจากที่เริ่มเข้าเรียนมหาลัยพ่อก็ให้ฉันออกมาอยู่คอนโดกับพี่สาวลูกติดแม่เลี้ยง แต่เราไม่ได้พักอยู่ด้วยกันหรอกนะ เราอยู่กันคนละคอนโด เรียนกันคนละคณะ ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่าฉันมีพี่สาวลูกติดแม่เลี้ยงเรียนที่ มอ.B แต่ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดฉันก็ยังนึกถึงใบหน้าของคนในครอบครัว ถึงจะไม่ใช่ทางสายเลือดแท้ๆ แต่ฉันก็นับว่าเขาเป็นพี่สาวอีกคนของฉัน Rrrrrr พี่แป้ง ฉันเสมองชื่อที่โชว์ขึ้นมาจากหน้าจอ ก่อนหน้านี้ฉันไลน์ไปหาพี่แป้งแต่เขาก็ไม่ตอบฉัน [เจนิส นี้พี่เจอเลย์ เจกับเลย์เลิกกันจริงๆ เหรอ] หลังจากที่ฉันกดรับสายเสียงของพี่แป้งก็ดังเข้ามาในหูฉัน พี่แป้งคือพี่สาวติดแม่เลี้ยงฉันมา และเขาเป็นอีกคนนั้นทราบดีว่าฉันกับเลย์เรารักกัน เพราะฉันกับพี่แป้งเราเรียนโรงเรียนมัธยมมาด้วยกัน [เล่ามาให้ละเอียดเลยนะเจ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเลย์ถึงได้เมาหนักขนาดนี้] เสียงของแป้งเอ่ยถาม แม้ เธอจะไม่ค่อยชอบเจนิส แต่เธอก็อยากทราบเรื่องส่วนตัวของน้องสาวต่างสายเลือด [เลย์เมาเหรอคะ แล้วตอนนี้พี่แป้งอยู่ไหน] [ก็ใช่นะสิ เลย์เมา คุยไม่รู้เรื่อง พี่อยู่ร้านเหล้าแถวหลัง มอ ร้าน S Bar พี่บังเอิญเจอกับเลย์] เมื่อพี่แป้งบอกฉันว่าเลย์อยู่ที่นั้นฉันเองก็อยากเจอหรือคุยกับเขา ร่างบางไม่รอช้าฉันโบกแท็กซี่และไปที่ร้าน S Bar ทันที @ร้าน S Bar อีกด้านของริว หลังจากที่ขับรถออกมาจากมหาลัย พวกผมก็มานั่งต่อกันที่ร้านแห่งนี้ เนื่องจากร้านประจำนั้นโต๊ะเต็ม ไอ้ริกเลยเปลี่ยนเป็นร้านเหล้าแถวมหาลัยแทน ก็ไม่เลวนะผมว่านั่งฟังเพลง เบาๆ ดนตรีสด บรรยากาศชิวๆ ดี ได้เหมือนกัน แต่ขณะที่พวกผมนั่งกับอยู่นั้นก็เจอกับสาวสวยคณะนิเทศอย่าง ริต้า คริสตัล แป้ง น้ำอิง สาวสวยสุดฮอตที่หมายปองของไอ้ริก ก็อยู่ที่นี่ด้วย พอเจอคนถูกใจไอ้ริกถึงกับนั่งไม่ติดโต๊ะ ลุกออกจากโต๊ะพวกผมและไปนั่งกับสาวๆ แทน "ไอ้ริกนิมันร้ายจริง สัส" ไอ้อรัณที่กำลังยื่นแก้วบรั่นดีมาให้ผมถึงกับว่าให้ไอ้ริก ที่ไปนั่งกับริต้า ขณะที่หญิงสาวไม่ได้เอ่ยชวน " มึงยังไม่ชิน กับมันอีกเหรอ" ไอ้เรียวเอ่ยขณะที่นั่งจิบเงียบๆ ที่นิ่งเงียบแบบนี้ เพราะไอ้เรียวตะ มันพึ่งเข้าพิธีเป็นเจ้าบ่าวมาเมื่อไม่กี่วัน สมัยนี้แล้วใครจะเชื่อว่าเพื่อนสนิทพวกผม ถูกคุณย่าบังคับแต่งงานอยู่อีก แต่ขณะที่ผมกำลังยกแก้วในมือขึ้นมากระดกอยู่นั้น สายตากับสะดุดเข้ากับร่างบาง ในชุดนักศึกษา สะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กสีชมพู หวานแหวว อันคุ้นตาเดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับทั้งสี่สาวคณะนิเทศ "อ่า...ผมรู้สึกคุ้นหน้าเธอนัก เหมือนเคยเจอที่ไหน" สายตาคมของริวจ้องมองร่างบางที่เข้ามานั่งร่วมโต๊ะเดียวกับริต้า เพื่อนริต้างั้นเหรอดูท่าแล้วไม่น่าจะใช่ เพราะไม่เคยเห็นเดินกับกลุ่มสาวสวย "ใคร วะ มึงรู้จักเธอเหรอ" อรัณที่สังเกตุท่าทีของเพื่อน ถึงกับเอ่ยถาม เมื่อริวนั่งเล่นจ้องมองร่างบางที่มาใหม่ไม่ยอมละสายตา "เปล่า...กูไม่รู้จัก" ริวเอ่ยตัดบทพร้อมกับเบนสายตามายังเรียวตะ และอรัณที่นั่งร่วมโต๊ะ "สวย น่ารัก ใช้ได้เลยเหละ แต่เธอ ไม่ใช่สเปค มึง วะ.." ไอ้อรัณเอ่ยกับผมมา "กูคิดว่า มึงรู้จักเธอซะอีก แม่งจ้องเขาตั้งแต่เดินเข้ามาและ" เรียวตะที่นั่งฟังสองหนุ่มคุยกัน เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างจากอรัณ ปกติริวมองใครแบบนี้ที่ไหน เหมือนว่าริวนั้นจะสนใจเธอ "ไงสนใจ...หรืออยากได้ วะ" เรียวตะเอ่ยมาเช่นนั้นริว ถึงกับชักสีหน้าขึ้นใส่เรียวตะทันที ทั้งสองหนุ่มอย่างอรัณและเรียวตะ ถึงกับยกยิ้มออกมาตามๆ กันกับท่าทีของริวที่เล่นจ้องสาว แต่ในจังหวะที่ร่างบางนั้นลุกออกจากโต๊ะ และเดินผ่านโต๊ะพวกผมไปนั้น ผมสบตาเข้ากับเธออย่างจังๆ หึ...!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD