Kyle & Queen - 8 ถ้าเป็นห่วงมากก็ขึ้นมาส่งซะสิ

1733 Words
1 อาทิตย์ต่อมา ฉันเดินเข้างานปาร์ตี้มาพร้อมกับพี่คิงส์ แน่นอนว่าครั้งนี้พี่คิงส์ไม่ปล่อยให้ฉันแต่งตัวตามใจอีกแล้ว ทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายฉันพี่คิงส์เป็นคนเลือกให้หมด มันก็ดูดีอยู่หรอกยอมรับว่าพี่คิงส์มีเซนส์ในการเลือกเสื้อผ้าผู้หญิงดี ก็คงจะเลือกให้สาว ๆ บ่อยแต่ถ้าจะปิดตั้งแต่คอยันตาตุ่มขนาดนี้ไม่ต้องให้ฉันใส่เสื้อผ้าหรอกเอาผ้าห่มมาคลุมตัวฉันเลย “หวัดดีครับน้องควีน วันนี้ดูสวยแปลก ๆ นะครับ” คำหยอกล้อของพี่เฉินยิ่งทำฉันเสียความมั่นใจไปใหญ่ “ไม่สวยก็บอกว่าไม่สวยเถอะค่ะ” ฉันเอ่ยขึ้นพี่เฉินกับพี่อาร์มหัวเราะกันอย่างสนุกกับท่าทางของฉันก่อนที่พี่คิงส์จะเอาน้ำเปล่ามาให้ฉันกิน ฉันมองภายในงานที่มีแต่คนรูปร่างหน้าตาดูดีกันหมดแต่ทำไมป่านนี้แล้วฉันยังไม่เห็นพี่ไคล์เลยละ “มองหาไอ้ไคล์เหรอครับ มันอยู่กับมีนานู่นเดี๋ยวตอนเปิดตัวเจ้าของวันเกิดจะเดินออกมาพร้อมกัน” ฉันพยักหน้ารับกับสิ่งที่พี่อาร์มบอกแต่ฉันงงอย่างเดียวคือแน่ใจนะว่าพี่มีนาไม่ได้สนใจพี่ไคล์จริง ๆ เพราะที่กำลังทำอยู่นี่ฉันคิดว่าพวกเขาแทบจะเหมือนคู่รักกันอยู่แล้ว ไม่นานภายในห้องโถงก็มืดลงก่อนจะมีแสงหลากหลายสีสาดส่องพร้อมกับเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังขึ้นแล้วปรากฏบุคคลสองคนที่อยู่ชั้นบน ฉันมองขึ้นไปพี่มีนาอยู่ในชุดเดรสสีขาวบนหัวของเธอประดับด้วยมงกุฏเจ้าหญิงเล็ก ๆ ยืนยิ้มอยู่และข้างกายคือพี่ไคล์ที่อยู่ในชุดสูทสีดำ นี่งานวันเกิดหรืองานแต่งงาน? ฉันตบมือตามคนอื่น ๆ มองทั้งคู่ที่เดินลงมาจากชั้นบนสู่ชั้นล่างโดยที่มือของพี่มีนาคล้องแขนพี่ไคล์อยู่ แน่นอนว่าตอนนี้สีหน้าพี่ไคล์มันปกปิดความดีใจไม่อยู่เลยแหละ หน้าหล่อของพี่ไคล์จ้องมองแต่พี่มีนาด้วยรอยยิ้มก่อนที่ทั้งคู่จะลงมาถึงชั้นล่างสุด พี่ไคล์เดินไปหยิบแก้วไวน์ส่งให้พี่มีนาและถือของตัวเองด้วยเช่นกัน “ขอบคุณทุกคนที่มางานวันเกิดของมีนากันนะคะ มีนารู้สึกดีใจมากเลยที่มีเพื่อนที่น่ารักมากขนาดนี้” คำว่าเพื่อนที่พี่มีนาพูดเจ้าตัวก็หันไปสบตากับพี่ไคล์ด้วยเช่นกันจนพี่ไคล์ต้องเกาจมูกตัวเองแก้เขิน “อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อปีที่แล้วมีนาได้ไปศึกษาต่อที่อังกฤษและวันนี้มีนามีเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องจะมาบอกค่ะ” ทุกคนต่างลุ้นกับคำพูดของพี่มีนาแต่สายตาของฉันจับจ้องไปที่พี่ไคล์อย่างเดียว วันนี้เขาหล่อจัง หลังจากนั้นไฟก็ดับลงอีกครั้ง ก่อนที่จะสว่างเพียงแค่สองจุดเท่านั้น จุดแรกคือจุดที่พี่มีนายืนอยู่และจุดที่สองคือผู้ชายต่างชาติร่างสูงที่หล่อเหลามาก ๆ ผู้ชายคนนั้นยิ้มแล้วเดินไปหาพี่มีนาพร้อมกับจับมือของเธอขึ้นมาจูบท่ามกลางความตกใจของคนทั้งงาน “นี่คือโจเชฟ แฟนของมีนาเองค่ะ เราคบกันได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว”คำพูดของพี่มีนาทำเอาดวงตาของฉันเบิกกว้างทันที ก่อนที่ฉันจะหันไปทางพี่ไคล์ที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงใด ๆ ฉันไม่รู้เลยว่าพี่ไคล์มีสีหน้ายังไงเพราะภายในห้องมันมืดไปหมด ฉันยังตกใจขนาดนี้แล้วพี่ไคล์ล่ะ ไม่นานภายในห้องก็สว่างขึ้นพร้อมกับเสียงตบมือ คนที่ชื่อโจเชฟดึงพี่มีนาไปจูบอย่างดูดดื่ม ทุกคนต่างร่วมแสดงความยินดีให้กับทั้งสองฉันรีบมองหาพี่ไคล์แต่ก็พบว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว “เหี้ยไรเนี่ย…” พี่เฉินสบถขึ้นมาดูจากสีหน้าของพวกพี่ ๆ แล้วก็คงจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนเช่นกัน ฉันรีบวางแก้วน้ำของตัวเองปลีกตัวไปหาพี่ไคล์ทันที ฉันเดินตามหาพี่ไคล์อยู่นานมากเพราะงานค่อนข้างใหญ่ก่อนจะมาเจอเจ้าตัวนั่งหลบมุมอยู่ข้างบ่อน้ำพุโดยในมือถือแก้วไวน์อยู่ ฉันดูจากใบหน้าที่แดงก่ำแล้วเขาคงจะดื่มไปเยอะพอควรเลย “พี่ไคล์” ฉันเรียกเขาเสียงเบาใบหน้าหล่อแดงก่ำเงยขึ้นมาสบตากับฉันสายตาลอย ๆ ของเขามองฉันเพียงครู่เดียวแล้วยกไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง “มีอะไร” เขาเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะใช้มือหนาของตัวเองดึงเน็กไทออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวเผยให้เห็นแผงอกแกร่ง “พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม” ฉันถามเขาด้วยความเป็นห่วง พี่ไคล์หัวเราะในลำคอเบา ๆ ท่าทางของเขาเหมือนคนอกหักอย่างเห็นได้ชัด พี่ไคล์ไม่ตอบคำถามฉันแต่จ้องมองไปทางด้านหน้าแทน ฉันจึงมองตามเขาไปก่อนจะเห็นพี่มีนากับแฟนของเธอกำลังทักทายเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้มหวาน ฉันหันกลับมามองพี่ไคล์ตาของเขาคลอไปด้วยน้ำตาฉันก็รู้สึกเจ็บใจแทน ทำไมพี่มีนาถึงมาเล่นกับความรู้สึกของพี่ไคล์ได้ขนาดนี้กันทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังมาใกล้ชิดมาให้ความหวังพี่ไคล์แบบนี้ “จะไปไหนคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูง เมื่อจู่ ๆ เจ้าตัวก็ลุกขึ้นทั้งยังเซไปเซมาจนฉันต้องเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าพี่เขาจะเซลงบ่อน้ำพุ “อย่ามายุ่ง!” พี่ไคล์พูดเสียงห้วนก่อนจะผลักฉันให้ออกห่างฉันเซจนเกือบจะเป็นคนที่ลงไปในบ่อน้ำพุเสียเองแต่โชคดีที่ยังทรงตัวไว้ได้ สายตาของพี่ไคล์วูบไหวเล็กน้อยตอนที่มองฉันคล้ายว่าเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะผลักฉันแรงขนาดนั้น เจ้าตัวยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะเดินหนีฉันไป ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็เห็นพี่ไคล์นั่งอยู่กับพวกเพื่อน ๆ ของเขาฉันจึงเดินไปนั่งข้างพี่คิงส์เงียบ ๆ “หายไปไหนมา”พี่คิงส์เอ่ยถามฉัน “ไปห้องน้ำน่ะ”ฉันบอกปัด ๆ ไปก่อนจะเห็นว่าพี่มีนาและแฟนหนุ่มของเธอกำลังเดินมาที่โต๊ะ “ไฮทุกคนงานเป็นไงบ้าง อาหารอร่อยไหม?” พี่มีนาทักทายทุกคนอย่างอารมณ์ดี ส่วนฉันได้แต่มองพี่ไคล์ที่ยังคงนั่งนิ่งเงียบ “ดีเลย” เป็นพี่คิงส์ที่ตอบออกไป ถ้าปกติก็คงจะเป็นพี่ไคล์ละมั้งเป็นคนแรกที่จะตอบคำถามของพี่มีนา “เก็บเงียบเลยนะไม่เห็นรู้เลยว่ามีแฟนแล้ว” พี่เฉินเอ่ยแซ่วแต่ฉันคิดว่าพี่เขาคงแซวตามมารยาทเท่านั้น “ฮ่า ๆ ก็นะ มีนาอยากให้ชัวร์ ๆ ก่อนค่อยเปิดตัว โจเชฟนี่เพื่อน ๆ ของมีนาเอง” บทสนทนายาวไปเรื่อย ๆ สายตาของฉันจับจ้องแต่พี่ไคล์ที่กระดกทั้งไวน์และเหล้าเข้าปากไม่พักจนกระทั่ง ตึก! เสียงวางแก้วดังลั่นโต๊ะเป็นพี่ไคล์ที่ทำมันเอง ภายในโต๊ะเงียบสนิทก่อนที่ร่างสูงจะลุกขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าพี่มีนาด้วยสายตาเศร้า “สุขสันต์วันเกิดนะมีนา..ไคล์ขอตัวกลับก่อน” พี่ไคล์พูดด้วยเสียงสั่นเครือก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป ทุกคนมองกันอย่างเลิกลั่กกับสิ่งที่เกิดขึ้น พี่มีนาชะงักไปเล็กน้อยแล้วรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติพูดคุยกับเพื่อนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจึงใช้โอกาสนั้นเดินตามพี่ไคล์ออกไป “หยุดนะพี่ไคล์พี่เมาอยู่นะจะขับรถได้ยังไง!”ฉันปรี่เข้าไปห้ามเมื่อเห็นว่าพี่ไคล์กำลังจะเข้าไปในรถ “แล้วจะมายุ่งอะไรด้วยวะแม่ง!!” พี่ไคล์หันกลับมาตะคอกใส่ฉันใบหน้าหล่อแสดงถึงความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “พี่อยากตายหรือไง เมาขนาดนี้จะขับรถได้ยังไงกัน” ฉันตะคอกสวนกลับ ฉันรู้ว่าตอนนี้พี่ไคล์รู้สึกแย่แค่ไหนแต่การเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเลยสักนิด พี่ไคล์มองหน้าฉันอย่างโกรธเคือง เจ้าตัวปิดประตูรถเสียงดังก่อนจะเดินเซ ๆไปยังถนนใหญ่ “พี่จะไปไหน” ฉันถามเขาพร้อมกับเดินเข้าไปประคองร่างสูงอีกครั้ง ฉันรู้ว่าตัวเองจุ้นจ้านแต่ฉันเป็นห่วงพี่เขามากจริง ๆ พี่ไคล์ทำท่าหงุดหงิดแต่ก็ยอมให้ฉันประคองเขาอย่างง่ายดาย ไม่ใช่ว่าจะเดินไปให้รถชนหรอกใช่ไหมเนี่ย ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเพราะพี่ไคล์แค่เดินออกมาเรียกแท็กซี่เท่านั้น ฉันค่อย ๆ ประคองเขาให้เข้ารถไปอย่างปลอดภัย พี่ไคล์บอกสถานที่คนขับเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวก็หันมาจ้องหน้าฉัน “กลับบ้านดี ๆ นะคะ” ฉันโบกมือลาเขาด้วยรอยยิ้ม พี่ไคล์มองฉันเขม็ง ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ พี่ไคล์ก็ดึงแขนฉันอย่างแรง “ถ้าเป็นห่วงมากก็ขึ้นมาส่งซะสิ” คำพูดห้วน ๆ ของพี่ไคล์ทำฉันชะงักไปเล็กน้อยหมายความว่ายังไงคือจะให้ฉันไปด้วยงั้นเหรอแต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรพี่ไคล์ก็น็อกคาเบาะไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD