3 ถูกขังลืม

1309 Words
"แพง! เหม่ออะไรนักหนายะ" "ว่าไงนะแก" "ตาลอยไปถึงไหน..แกแอบมีผู้แล้วไม่บอกเพื่อนปะเนี่ย" "ฉันคิดถึงเรื่องพี่เพื่อนน่ะ" ฉันถอนหายใจแรง รีบตักข้าวเข้าปากก่อนที่จะหมดเวลาพักเที่ยง "พี่แกยังไม่รู้เหรอว่าแกฝึกงานที่เดียวกันกับเขา" ฉันส่ายหน้าไปมาบอกคะนิ้ง เอาตัวพิงกำแพงหนาที่อยู่ข้างหลัง เงยหน้ารับลมที่พัดไปมาอย่างแรง "แกเหมือนไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันกับพี่สาวแกงั้นแหละ" "อาจจะใช่ก็ได้มั่ง" "อย่าคิดมากเลย แล้วนี่กินอิ่มยังฉันเริ่มปวดท้อง" "แกไปก่อนเลย อย่าลืมเอาหินดันประตูไว้ให้ด้วยละ" "อืมๆ" คะนิ้งรีบลุกขึ้นและดันประตูหนีไฟวิ่งออกไป พวกฉันชอบแอบมานั่งทานข้าวบนดาดฟ้าของบริษัท มันเงียบและเป็นส่วนตัวดี แถมวิวยังดีอีกไม่ต้องกังวลว่าจะเข้างานสาย เพียงแค่เดินลงไปข้างล่างไม่กี่ชั้นก็ถึงแผนกฉันแล้ว หลังจากที่เพื่อนฉันวิ่งลงไป มันก็ยังเหลือเวลานอนพักบ้าง เพราะเรื่องเมื่อวานมันทำให้ฉันนอนไม่หลับ แถมช่วงนี้ยังชอบฝันแต่เรื่องเดิมๆ ฉันรีบเอนตัวพิงกำแพงขอแอบงีบสักหน่อย แต่พอจะหลับตาลงเท่านั้นแหละ หูก็ผึ่งรับเสียงที่ได้ยินทันที "ท่านครับ...สายเรารายงานมาว่าบลูไดมอนจะมาพร้อมกับของลอตนี้ครับ...ส่วนเรื่องเมื่อวานสารวัตรเคลียร์เรียบร้อยแล้วครับ ของกลางหายไปคนของเรากำลังติดตามคาดว่าจะทราบเรื่องภายในคืนนี้ ส่วนเรื่องที่ท่านให้ผมไปสืบมาเกี่ยวกับ เอ่อ..คุณพะเพื่อน" พี่เพื่อน!? ฉันนั่งนิ่งและตั้งใจฟังทันทีเมื่อได้ยินชื่อพี่สาวตัวเอง "เธอเป็นสายให้กับทางฝั่งนั้นจริงครับ..นายจะให้ผมทำยังไงกับเธอดีครับ" "เก็บ" ฉันตกใจกับคำคำนั้นที่ฉันได้ยินมาก 'เก็บ' เหรอ?? มันหมายความว่ายังไง เก็บ = ตาย หรือยังไง ฉันรีบหมุนตัว พาตัวเองแอบมุมกำแพงให้มิดชิดกว่าเดิม ฉันว่าลมข้างบนดาดฟ้าตีหน้าจนเย็นมากแล้วนะแต่ทำไมตอนนี้เหงื่อฉันแตกเต็มหน้าเลย ฉันพยายามมองหาทางลงไปข้างล่างด้วยหัวใจที่เต้นระรัวกลัวพวกเขาจะจับได้ และฉันต้องรีบคุยกับพี่สาวฉันให้เร็วที่สุด หมับ! ปึก! "โอ๊ย!" จับถูกจับได้และถูกเหวี่ยงอย่างแรง จนตัวไถลไปกับพื้นเป็นทางยาวทันที ฉันรับรู้สึกความเจ็บแสบที่หัวเข่ามันคงถลอกไปหมดแล้วล่ะ "คุณพะเพื่อน" เสียงผู้ชายคนเดิมเรียกฉัน พอฉันเงยหน้ามองเขาเท่านั้นแหละ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เป็นสายตาที่ไม่ค่อยแน่ใจนัก เขากวาดตามองสำรวจฉันที่นั่งพับอยู่บนพื้นเพียงครู่ พอมองอย่างถี่ถ้วนและมั่นใจเท่านั้นแหละ แกรก! ปากกระบอกปืนสีดำ จ่อเข้ามาที่หัวฉันทันที "ยะ..อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ" ฉันยกมือขึ้นเนื้อตัวสั่นด้วยความกลัว จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ "เอายังไงดีครับนายท่าน..รู้สึกว่าจะเป็นน้องสาวของคุณพะเพื่อน" "เก็บ" เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลังฉันสั้นๆ เก็บเหรอ!? "มะ..ไม่นะ! ฉันยังไม่อยากตาย..ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วย" ฉันพูดอย่างร้อนรนยกมือปฏิเสธไปมา น้ำตาไหลเป็นทางอย่างควบคุมมันไม่ได้ "คุณได้ยินอะไรครับ" คนตรงหน้าถามคำถามฉันแต่ก็ยังไม่ลดปืนลง "มะ..ไม่" "อย่าโกหกครับ" "บลูไดมอน!! พี่เพื่อน! สารวัตรอะไรนั่นอีก!" ฉันกรีดร้องบอกเขาสุดเสียง พอดีกับเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้นจากบนฟ้า มันมาพร้อมกับแรงลมมากมาย เกือบทำฉันปลิว ฉันรีบกดมือปิดกระโปรงนักศึกษาที่มันปลิวตามแรงลมจากเจ้านกเครื่องใหญ่ที่กำลังลงจอดเอาไว้ ชายคนตรงหน้าก้มหน้าเหมือนท่าทำความเคารพ เขาถอดเนกไทที่คอ นำมันมามัดปิดตาฉันและหิ้วปีกฉันลุกขึ้น เขาใช้ปืนกระบอกเดิมจี้หลังฉันและให้ฉันเดินตรงไปยังเสียงเฮลิคอปเตอร์ที่ลงจอดเรียบร้อยแล้ว หูก็อื้อกับเสียงเฮลิคอปเตอร์ จมูกก็ตันกับน้ำมูกที่เอาแต่ร้องไห้ ในใจก็นึกกลัว พวกเขาจะพาฉันไปไหน!? ปึก! แรงเหวี่ยงของผู้ชายที่เหวี่ยงฉันเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ที่มีเพียงแค่เตียงนอนเตียงเดี่ยว พร้อมกับเสียงล็อกประตูจากทางข้างนอกสองชั้น ทั้งหมดที่ฉันกำลังเผชิญกับมันอยู่ = ฉันถูกขัง! โดยใครไม่รู้! และอีกประเด็นคือ ที่ไหน? ปัง ปัง ปัง ฉันรีบเดินตรงไปเคาะประตูแรงอย่างเอาเป็นเอาตายจนเจ็บมือ แหกปากร้องขอความช่วยเหลือบ้าง อ้อนวอนขอให้พวกเขาปล่อยบ้าง แต่ก็ไร้วี่แวว มีเพียงแต่ความเงียบที่สะท้อนกลับมา พอตั้งสติได้ตอนแรงหมด ฉันรีบถลกกระโปรงตัวเองขึ้นล้วงเอาโทรศัพท์ที่สอดไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวข้างในที่ใส่ซ้อนไว้กันโป๊ ดึงมันออกมาอย่างทุลักทุเล และรีบกดหาคะนิ้งทันที "แกอยู่ไหนแพง!" "ฉันถูกใครจับขึ้นฮอมาก็ไม่รู้เนี่ย" "กดส่งโลเคชั่นมาซิ..จะไปช่วย" "อืม" ฉันประคองสติตัวเองไม่ให้รนมากไปกว่าที่เป็นอยู่ รีบกดวางสายคะนิ้ง เปิดแอปพลิเคชันเพื่อที่จะส่งโลเคชั่นให้เพื่อนสนิท พรึบ! จอดำดับไปต่อหน้าต่อตา แบตโทรศัพท์หมด!!! จะมาหมดอะไรตอนนี้เนี่ย!! คำถามประเดประดังเข้ามาในหัวไม่หยุด จะรอดไหม!? จะตายหรือเปล่า? พี่พะเพื่อน พะพาย จะตามหาฉันไหมเนี่ย!? ฉันได้แค่นั่งกอดเข่าอมทุกข์อยู่คนเดียวในห้องขัง แกรก! เสียงประตูเปิดเข้ามาอีกครั้งตอนช่วงเย็น พร้อมกับจานข้าวและน้ำดื่มหนึ่งขวด แกรก! เสียงประตูปิดเหมือนเดิมและฉันก็ถูกขังเหมือนเดิมไร้ซึ่งคำว่า อิสรภาพ ฉันต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนี้วนลูปซ้ำๆ กันวันละสามเวลา เช้า กลางวัน เย็น ตลอดระยะเวลาสองวัน ช่วงแรกก็ไม่ยอมแตะอะไรหรอก กลัวจะมียาพิษ สงสัยฉันดูหนังมากไป แต่ด้วยความที่ทนไม่ไหว ใครจะไปอยากตายตอนนี้ล่ะ! ฉันก็ต้องกินเพื่อความอยู่รอด.. "พี่ผมหาผู้หญิงมารับรองท่านไม่ได้เลย เอาไงดีใช้คนที่ถูกขังในห้องนั้นได้หรือเปล่า" เสียงแว่วเข้ามาทำให้ฉันรู้สึกตัวหลังจากที่ตะโกนจนคอแทบพังเมื่อช่วงกลางวัน ด้วยความเหนื่อยก็เลยเผลอหลับไปไม่รู้ตัว "คงได้อยู่มั่ง..ขังมาตั้งสองสามวันแล้วไม่เห็นมีคำสั่งลงมา..ว่าแต่มันจะยอมเหรอ" "ผมมีวิธี" ปัง! เสียงประตูกระแทกกับกำแพงอย่างแรงทำให้ฉันสะดุ้ง รีบถอยหนีผู้ชายหน้าโหดตรงหน้าจนชิดกำแพง "อย่าเข้ามานะ" มือถือส้อมกินข้าวอันเล็กยื่นออกไปไว้ป้องกันตัว ฉันรู้ว่ามันโง่มากที่ทำแบบนั้น แต่มันก็ทำให้ฉันพอฮึดสู้ได้ ส่วนพวกมันไม่เห็นกลัวสักนิด เดินตรงเข้ามารวบตัวฉันลากออกจากห้อง ซึ่งฉันก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีดิ้นสุดกำลังเท่าที่จะทำได้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง "เอายาสลบมาดิมึง!" หนึ่งในสองหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ามันเทน้ำอะไรไม่รู้ลงไปและยื่นเข้ามาใกล้จมูกฉัน "ปล่อยฉันนะโว้ย!! ปะ..." สติสัมปชัญญะเลือนหายไปในทันทีที่ฉันเผลอสูดดมมันเข้าไป อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD