ฉันคิดออกแล้ว!!
เขา คือ คุณเพชรพชร บวรวัชรศิริกุล
ผู้บริหารที่อยู่จุดบนสุดของบริษัทเครือ บวรวัชร หรือบริษัทที่ฉันกำลังฝึกงานอยู่ ฉันไม่รู้จักเขามากหรอก ส่วนใหญ่รู้มาจากคะนิ้ง ที่นำเสนอให้ฟังอยู่ตลอดเกี่ยวกับเทพบุตรรูปงามท่านประธานบริษัท ซึ่งฉันไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้งตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาฝึกงาน
แต่ที่เพื่อนฉันเล่าให้ฟังอยู่ตลอดว่าเขาคือ เทพบุตรในหมู่สาวๆ แต่ทำไมคนตรงหน้าฉันเหมือนผู้ทรงอิทธิพลที่เรียกว่ามาเฟียละ
แถมยังฆ่าคนง่ายๆ เพียงแค่..เอ่ยปาก
ตั้งแต่เจอเขาตัวเป็นๆ รังสีอำมหิตมันแพร่กระจายจนเห็นได้ชัด แถมแววตาที่มันดูขนลุกนั่นอีก แต่ละครั้งก็มีแต่ปืน ปืนและก็ปืน
"จ้องฉันจนพอใจหรือยัง"
เสียงทุ้มที่เย็นยะเยือกนั้นเอ่ยถาม พร้อมกับปล่อยมือออกจากคอฉัน ไม่ลืมที่จะพ่นควันบุหรี่อัดเข้ามาเต็มหน้า
แคก แคก แคก
ฉันรีบสำลักและหอบหายใจแรง สูดออกซิเจนเข้าเต็มปอดอย่างรวดเร็ว
"ขออนุญาตคะ คุณท่าน"
คุณหัวหน้าเมดคนเดิมเพิ่มเติมเดินถือถาดแก้วน้ำกับแผงยาอะไรไม่รู้เข้ามา เธอวางมันลงและขอตัวเดินออกจากห้องไป
เขาคงไม่สั่งให้ฉันกินยาตายหรอกนะ
ฉันยืนนิ่งใช้ความคิด พยายามหาทางรอดให้กับตัวเอง
"กินมันซะ"
"..."
ฉันเดินไปหยิบแผงยาขึ้นมาดู 'ยาคุมฉุกเฉิน'
ฉันจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ดูจากสภาพแล้ว ฉันควรต้องกินมันซินะ
"น่าหงุดหงิด น่ารังเกียจ"
เขาเอ่ยเมื่อเห็นฉันหยิบมันและแกะกินยาอย่างโดยดี
"คะ..คุณจะปล่อยฉันเมื่อไหร่คะ"
ฉันตัดสินใจที่จะถามออกไป
นอกจากเขาจะไม่ตอบฉันแล้ว ยังทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศ จนทำตัวไม่ถูกเอาแต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมตัวเองในตอนนี้
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจนหยุดอยู่ตรงหน้า
"โอ๊ย!..ฉันเจ็บนะคุณ"
เขาจับผมฉันและกระชากมันลงจนฉันต้องเงยหน้ามองเขา ใบหน้านิ่งนั้นมันทำให้ฉันต้องรีบหลบตาทันทีที่มองมัน
เขาดูน่ากลัวจริงๆ
เขาไม่พูดพร่ำอะไรสักอย่าง จับตัวฉันพาดกับที่พิงหลังโซฟาราคาแพง ฉันพอจะรู้แล้วละว่าตัวเองต้องเจอกับอะไร
"กรี๊ด!!"
ฉันกรีดร้องสุดเสียงดีดดิ้นจนสุดกำลัง แต่ดูเหมือนเขาไม่เดือดร้อนอะไรเลย จับฉันโก้งโค้งรัดข้อมือฉันไขว้หลังไว้แน่น ถลกกระโปรงฉันขึ้นกองไว้ที่เอว ใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในของฉันและดึงมันออกอย่างแรงจนมันขาดหลุดลุ่ย
"ปล่อยนะโว้ย!!!"
ปึก!!
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก..เขาสาดส่งความคับแน่นเข้ามาทันที โดยทั้งที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเพราะเอาแต่ดิ้นให้ตัวเองหลุดออกจากเขา ความเจ็บแสบแล่นแป๊บเข้ามา มีภาพฉายเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ
"กรี๊ด..มันเจ็บ!!!..ได้โปรด"
ปึก ปึก ปึก
ฉันกรีดร้องอ้อนวอนขอความเมตตาจากเขาทันที ที่ถูกล่วงล้ำเข้ามาอย่างป่าเถื่อน
"อึก! เจ็บ! แพงเจ็บ! ได้โปรดเอามันออกไปที"
ฉันร้องไห้น้ำตานองหน้า ส่งเสียงร้องขอเขาไม่หยุด มือหนาจับผมที่ยาวสลวยของฉันและดึงมันไปทางข้างหลังอย่างแรง เขาหยุดสูบควันเข้าปอดอีกครั้งและขยับร่างกายต่อไม่สนใจเสียงที่กรีดร้องอย่างทรมานของฉัน
ปึก!
เขาขยับตัวเข้าออกอีกครั้ง มือข้างหนึ่งรัดมือฉันไว้แน่น ส่วนอีกข้างสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ช่วงล่างขยับเข้าหาฉันไม่หยุด
"อื้อ~~ คุณเพชรพชร!"
"เธอไม่มีสิทธิ์เรียกฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาต!"
ควันบุหรี่พุ่งลอยเต็มอากาศอีกครั้ง จนฉันสำลักมันอีกรอบ
"แคกๆ ..อึก! อื้อ! คุณกำลังขมขื่นฉันอยู่..โอ๊ย!"
ปึก ปึก ปึก
เขาตอบฉันด้วยการกระแทกกระทั้นเข้ามาอีกครั้ง
"ให้ฉันเอาอย่างเต็มใจ...หรือให้พี่สาวเธอตายก่อนดี"
เขาเสนอตัวเลือกมาให้ฉันพร้อมกับวางปืนกระบอกสีดำลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า ตัวเลือกที่เขากำลังให้ฉันเลือกนั้นมันทำให้ฉันนิ่งตะลึง ใบหน้าพี่พะเพื่อนลอยเข้ามาในหัว รอยที่แขนนั่น ไปสถานที่แห่งนั้นอีก
มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
"เข้ามา!"
ปึก ปึก
"โอ๊ย!"
เขาเรียกอิคุณเนกไทเข้ามาอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังกระแทกฉันอยู่เนี่ยนะ!
อิคุณเนกไทเดินเข้ามาแล้วก้มหน้าทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า ถึงแม้จะไม่เห็นตรงๆ แต่มันก็ชัดเจนว่าเรากำลังทำอะไร
อิคุณเนกไทเปิดจอไอแพดแล้วหันจอมาทางฉันที่ก้มหน้าเข้าหาโซฟาด้วยความอาย
"มองพี่สาวเธอซิ...ก่อนที่จะไม่ได้เห็น"
พี่พะเพื่อนถูกขังอยู่ในห้องห้องหนึ่งคล้ายกับห้องที่ฉันถูกขังจริงๆ เธอเดินวนไปมาด้วยสภาพที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด
เขาให้ฉันดูเพียงเท่านั้น ปิดจอและยืนก้มหน้าอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเหมือนรอคำสั่งของคนเถื่อนที่ตัวแนบติดอยู่กับตัวฉัน
"ฉันยอมแล้ว...แต่ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าพี่สาวฉันปลอดภัย"
"เธอไม่มีสิทธิ์มาต่อรอง"
ฉันนิ่งและใช้ความคิด เผลอกัดปากตัวเองจนรับรู้ถึงกลิ่นของคาวเลือดที่คลุ้งอยู่ในปาก
"เซอร์!"
"ครับท่าน!"
"ก็ได้! ฉันเต็มใจ"
"ออกไป!"
"ครับ"
"ปรนนิบัติฉันให้เหมือนกับที่เคยทำซะ!"
TOT ฉันน้ำตาไหลพราก ส่ายหัวไปมาตอบเขาด้วยความเจ็บแทบขาดใจ
"ฉะ..ฉัน จำไม่ได้..อึก! รู้ตัวอีกที...ก็"
เขาทำท่าทางหงุดหงิด โยนบุหรี่ลงบนพรมราคาแพงและใช้เท้าบดขยี้มัน เอ่ยปากเรียนลูกน้องเข้ามาใหม่
"เซอร์!"
ฉันรีบกรีดร้องบอกเขา เพราะไม่อยากอายไปมากกว่านี้แล้ว
"อย่านะ!!"
"ฉันจะทำ..ฉันจะทำมันเอง...ได้โปรดอย่าเรียกเขาเข้ามาอีกเลย"
เขาทำหน้านิ่งเป็นน้ำแข็งเหมือนเดิม มือหนาจับเอวคอดของฉันไว้แน่นและอัดความคับแน่นเข้ามาอีกครั้ง
ปึก ปึก ปึก
"อื้อ!!!"
ฉันกัดปากกลั้นเสียงตัวเอง ข่มความเจ็บปวดรวดร้าวเอาไว้ กำมือที่ถูกเขารัดอยู่ข้างหลังไว้แน่น ถึงแม้ตอนนี้จะมีสิ่งหล่อลื่นพอช่วยให้คลายความเจ็บมาบ้าง แต่มันก็ยังทรมานมากอยู่ดี
ความอัปยศของชีวิต
ทำให้ฉันอยากตายให้ได้เสียตรงนี้
"อา!"
เสียงครางกระเส่าของคนที่อยู่ข้างหลังมันบ่งบอกได้ดีว่าเขามีความสุขขนาดไหน
"อะ..อืม..อื้อ!"
ฉันกลั้นเสียงตัวเองไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกไป ซึ่งเขาก็ยังคงกระแทกเข้ามาไม่หยุด เพิ่มความเร็วและความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เพียะ!! เพียะ!!!
"อร๊าง!!!"
ฉันเงยหน้าอ้าปากเปล่งเสียงออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว ฝ่ามือหนาตวัดตบเข้ามาที่บั้นท้ายซ้ายขวาอย่างแรง ตามมาด้วยความกระแทกเข้ามาจนฉันจุกไปทั่วท้อง
ปึก ปึก ปึก
"ตอดแรงๆ แรงอีก! อา!"
"อื้อ!!!"
ปึก!
ความป่าเถื่อนสงบลงในที่สุด เขาปล่อยมือฉันให้เป็นอิสระ ถอดถอนตัวของเขาออกพร้อมกับฉันที่ปล่อยร่างตัวเองร่วงลงกับพื้นด้วยความอ่อนแรง
ไม่เหลืออะไรแล้วซินะฉัน ศักดิ์ศรีที่ถูกย่ำยี
เขาคงพอใจแล้ว...ฉันหวังว่าเขาคงรักษาคำพูดกับฉัน
ฉันใช้แรงทั้งหมดที่มีพาตัวเองลุกขึ้น วิ่งตรงไปยังโต๊ะกระจกที่มีปืนวางอยู่ตรงนั้น ยกมันขึ้นจ่อหัวตัวเองมองคนตรงหน้าที่มองกลับมาอย่างไร้ความรู้สึก
"พอใจแล้วซินะ..พอใจก็ปล่อยฉันไป ไม่มีฉันความลับของพวกคุณก็คงไม่รั่วหรอก หวังว่าคุณจะรักษาคำพูดเรื่องพี่สาวฉัน"
"พล่ามพอยัง"
เขาเดินอ้อมกลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม ยกขาขึ้นไขว่ห้างกางมือออกและนั่งอย่างสบายใจมองฉันที่กำลังยืนสั่น
ฉันเปลี่ยนเป็นเล็งปืนมาทางเขาด้วยร่างกายที่สั่นระรัว เกิดมาเพิ่งเคยจับมันนี่แหละ
พ่อเทพบุตรที่หลายๆ คนเข้าใจ ยิ้มย่องมุมปากอย่างเยือกเย็น เขาลุกขึ้นมาเดินตรงมาที่ฉันจนปลายกระบอกปืนประชิดตัวตรงจุดสำคัญ..ตรงหัวใจ
"ยิงซิ..ถ้าไม่ยิงก็มาทำต่อ"
"ฮือๆ อึก...ต้องทำยังไงคุณถึงจะปล่อยฉันไป"
ฉันหันปลายมาจ่อที่ขมับตัวเองอีกครั้งกดแช่ไว้ไม่นาน ก็ลดมันลง
'จงมีชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีเพื่อพ่อกับแม่นะ'
หากไม่ใช่เพราะเสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่พ่อบอกกับฉันแล่นเข้ามา ฉันอาจมีความกล้าพอที่จะเหนี่ยวไก