บทที่ 2.1 - ขัดคำสั่ง (รวบรวมความกล้า)

1430 Words
“สอบเสร็จเราไปเที่ยวฉลองเรียนจบด้วยกันนะ” ณิชากล่าวขึ้นขณะช่วยปลายรุ้งจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำบาร์บิคิวในค่ำคืนนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของแทนคุณ ก็เลยจัดปาร์ตี้เลี้ยงฉลองตามประสาครอบครัว เชิญเฉพาะเพื่อนพ้องคนสนิทมาร่วมสนุกด้วยเท่านั้น “เที่ยวทะเลดีไหม เราสองคนไม่เคยไปทะเลด้วยกันเลยนะ เราอยากใส่บิกินี่เล่นน้ำแล้วก็อยากเห็นรุ้งใส่ด้วย” เพื่อนสาวจอมแก่นพูดเสียงเจื้อยแจ้วไปเรื่อย “ไม่รู้ว่าจะไปได้หรือเปล่า ก็รู้อยู่ว่าคุณทัพไม่ชอบให้ไปไหนไกลๆ” ปลายรุ้งหวนนึกถึงผู้ปกครองจอมเข้มงวด อย่าว่าแต่เที่ยวทะเลเลย ลำพังขอไปดูหนังฟังเพลงตามประสาวัยรุ่นเขายังสั่งห้าม หรือถ้าอนุญาตก็มักมีข้อแม้ว่าต้องโทร. รายงานความเคลื่อนไหวทุกๆ ครึ่งชั่วโมง อยู่ที่ไหนทำอะไรเขาต้องรู้ หากดื้อรั้นไม่ทำตามคำสั่งระเบิดลงหัวแน่ๆ “ตกลงคุณทัพเป็นผู้ปกครองบุญธรรมหรือเป็นพ่อบังเกิดเกล้ากันแน่ยะ ห้ามนู่นห้ามนี่ตลอด เขาคิดว่ารุ้งเป็นเด็กอมมือไม่รู้ประสาหรือไง รุ้งโตแล้วนะ หัดคิดเองทำอะไรเองได้แล้ว ไม่ใช่เอะอะก็ถามคุณทัพก่อน บอกคุณทัพก่อน ขนาดพ่อแม่เรายังไม่จุ้นจ้านเท่าคุณทัพของรุ้งเลย” ณิชาระบายความอึดอัดแทนปลายรุ้ง คบกันมานานย่อมเห็นว่าอีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้สารพัดกฎเกณฑ์ที่ผู้ปกครองหนุ่มขีดเส้นใต้เอาไว้ เธอสงสารเพื่อน อยากให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการบ้าง ทุกวันนี้ปลายรุ้งมีชีวิตไม่ต่างกับนกน้อยในกรงทองที่จอมทัพเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ความสุขสบายที่เขามอบให้มันเทียบไม่ได้กับอิสรภาพที่ถูกริดรอนลงทุกวันๆ ต่อให้ดูแลเป็นอย่างดีก็ใช่ว่าจะสั่งให้ทำอะไรตามอำเภอใจ “อะไรกันไอ้หมู พูดอะไรให้น้องรุ้งเขาหนักใจอีกล่ะ” แทนคุณที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จแวะเวียนมาทักทายสองสาวถึงในครัว สายตาเจ้าเสน่ห์ไม่ได้มองน้องสาว เอาแต่จ้องใบหน้าหวานปนเขินอายของปลายรุ้ง “น้องอยู่นี่ค่ะพี่ชาย” ณิชาสะกิดไหล่พี่ชายตัวโต “พูดกับน้องก็มองหน้าน้องสิคะ ไม่ใช่เอาแต่จ้องยัยรุ้ง” “ทับทิม” ปลายรุ้งตีแขนเพื่อนเบาๆ ณิชามักเป็นเช่นนี้เสมอ ชอบพูดชอบทำให้อายอยู่เรื่อย “พอเลย ว่าแต่เราเถอะ พูดอะไรให้น้องรุ้งคิดมากอีกล่ะ” แทนคุณรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เขายังไม่อยากเสียเชิงชายให้น้องสาวตัวแสบล้อเลียนไปมากกว่านี้ “สัปดาห์หน้าเราสองคนก็จะสอบเสร็จแล้ว นั่นหมายความว่าเรียนจบเป็นที่เรียบร้อย น้องเลยชวนรุ้งไปเที่ยวทะเลด้วยกัน แต่ยัยสวยนี่ไม่ยอมไป” ประโยคสุดท้ายพูดแล้วหันมาแลบลิ้นใส่เพื่อนรักเป็นเด็กๆ “น้องรุ้งไม่ชอบทะเลหรือครับ” แทนคุณถือโอกาสเอ่ยถาม “ชอบค่ะ รุ้งชอบทะเลมาก” “แล้วทำไมไม่ไปล่ะ พี่ว่าไปฉลองเรียนจบก็ดีเหมือนกันนะ ถือเป็นการให้รางวัลตัวเอง” แทนคุณสนับสนุนความคิดของน้องสาว “เห็นไหมรุ้ง ไปเถอะ ขนาดพี่แทนยังเชียร์ให้ไปเลย นะๆ” ณิชาเขย่าแขนปลายรุ้งพร้อมทำตาแป๋วเหมือนเด็กน้อยอ้อนขอขนม “แต่…” บอกตามตรงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เธอ หากแต่เป็นจอมทัพ ปลายรุ้งไม่รู้ว่าจะพูดขอกับเขาอย่างไรดี “ไปเถอะครับ พี่เองก็ว่าจะไปพักผ่อนด้วยเหมือนกัน ไปกันหลายๆ คนสนุกดี นะครับน้องรุ้ง” ปลายรุ้งเม้มปากชั่งใจ ที่ผ่านมาเธออยู่ในโอวาทของจอมทัพมาโดยตลอด ไม่เคยสักครั้งที่จะออกนอกลู่นอกทาง ไหนๆ ก็เรียนจบทั้งทีขอทำตามใจตัวเองดูสักครั้งแล้วกัน “ตกลงค่ะ” อะไรจะเกิดนับจากนี้ค่อยว่ากันอีกที “เย่ๆ” ณิชากระโดดโลดเต้นดีใจยกใหญ่ “ในที่สุดเราสองคนก็จะได้ไปเที่ยวด้วยกันสักที ใครจะเชื่อว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแต่ไม่เคยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเลยสักครั้ง ความผิดนี้ต้องยกให้คุณทัพเขาเลย เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง” “เสียมารยาทน่าทับทิม ไปว่าคุณทัพเขาแบบนั้นได้ยังไง เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ” แทนคุณตำหนิน้องสาว ณิชาย่นจมูกใส่แต่ไม่วายบ่นอุบอิบ “เอาเป็นว่าน้องรุ้งตกลงไปเที่ยวทะเลกับพวกเราแล้วนะครับ” แทนคุณถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “ค่ะ” ปลายรุ้งตอบรับเสียงหวานพร้อมพยักหน้ายืนยัน “ดีเลย พี่จะได้เคลียร์คิวงานให้ว่างสำหรับทริปนี้” ทั้งสองเผลอจ้องตากันชั่วขณะ ปลายรุ้งเป็นฝ่ายได้สติก่อนจึงรีบขอตัวไปตระเตรียมวัตถุดิบสำหรับปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ ทิ้งให้ชายหนุ่มหน้าตี๋ยืนอมยิ้ม ยกมือเกาศีรษะแก้เก้อต่อหน้าน้องสาวจอมทะเล้น “ฮั่นแน่” “อะไรไอ้หมู พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัวจะแย่” เอ่ยจบก็รีบวิ่งขึ้นชั้นสองไปยังห้องนอนทันที หารู้ไม่ว่ามีสายตาของปลายรุ้งคอยแอบมองอยู่เป็นระยะๆ การสอบอันเคร่งเครียดผ่านพ้นไปด้วยดี การเดินทางอันแสนยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว ปลายรุ้งเรียนจบปริญญาตรีตามที่ตั้งใจเอาไว้ และถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด หญิงสาวจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาครอบครองสมปรารถนา จอมทัพยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังเห็นความสำเร็จของเด็กในปกครอง เขาภาคภูมิใจในตัวปลายรุ้งไม่น้อย ถึงภายนอกจะดูนิ่งขรึมแต่ลึกๆ แล้วเขาชื่นชมในความใฝ่รู้ใฝ่เรียนของปลายรุ้งมาโดยตลอด “อยากได้อะไรเพิ่มไหม” เมื่อหล่อนเรียนจบทั้งทีเขาก็ไม่พลาดเอาใจคนเก่งโดยการพามาช้อปปิ้ง “ไม่แล้วค่ะ รุ้งอยากกลับคอนโดฯ แล้ว” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา จอมทัพพยักหน้า ลึกๆ แอบขัดใจที่หล่อนทำเหมือนไม่อยากอยู่ใกล้เขา “งั้นกลับ” บรรยกาศภายในรถลีมูซีนเงียบกว่าตอนขามา พอไม่ได้แจกแจงเรื่องการทำข้อสอบรวมไปถึงกำหนดการรับปริญญา ปลายรุ้งก็หมดเรื่องสนทนากับจอมทัพไปโดยปริยาย หนุ่มใหญ่หยิบไอแพดขึ้นมาตรวจดูงานที่คั่งค้าง คนที่ตั้งใจว่าจะเอ่ยปากขอเรื่องสำคัญจำต้องนั่งนิ่ง เกรงว่าจะไปทำลายสมาธิอันแน่วแน่ของเขา “มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะ” นั่นปะไร เขารู้ทันอีกจนได้ “ถ้าถึงคอนโดฯ แล้วฉันกลับเลยนะ ไม่ว่างคุยด้วยแล้ว” คืนนี้เขารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากปลดปล่อยอารมณ์เบื้องลึกกับใครสักคน หางตาปรายมองผู้หญิงข้างกาย หล่อนยังถือเป็นของต้องห้ามที่เขาต้องย้ำเตือนตัวเองให้หนักๆ ว่าอย่าเผลอไปแตะต้องก่อนถึงเวลาอันควร “ไหนๆ รุ้งก็เรียนจบแล้ว ที่ผ่านมารุ้งก็เชื่อฟังคุณทัพทุกอย่าง เวลารุ้งขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ถ้าคุณทัพห้ามรุ้งก็ไม่เคยขัด รุ้ง…” “อย่าอ้อมโลกให้เสียเวลา เข้าเรื่องเลยฉันรอฟังอยู่” น้ำเสียงติดคล้ายรำคาญ ปลายรุ้งหน้าเสียเล็กน้อย พยายามรวบรวมความกล้าเอ่ยประโยคสำคัญออกมา “รุ้งขออนุญาตไปเที่ยวทะเลกับครอบครัวของทับทิมได้ไหมคะ” พูดออกไปแล้ว หล่อนพูดมันออกไปแล้ว! “ครอบครัวของทับทิม” จอมทัพละสายตาจากจอไอแพด ยกมือลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด “มีใครไปบ้าง?” “มีทับทิม คุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็…” ดวงหน้าหวานเริ่มวิตก “พี่แทนคุณ พี่ชายของทับทิมค่ะ” สันกรามเกร็งกระตุกเมื่อได้ยินชื่อศัตรูหัวใจ เขาคาดว่ามันคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ปลายรุ้งอยากไปเที่ยวทะเลครั้งนี้ มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น ปลายรุ้งจิกเท้าเกร็งลุ้นคำตอบ จอมทัพพยายามข่มกลั้นโทสะ มันยากที่จะทำใจยอมรับว่าปลายรุ้งเริ่มมองผู้ชายอื่นนอกจากเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสร้างกฎเกณฑ์มากมายเพื่อกักขังให้ร่างบางอยู่ภายใต้โอวาท แต่โชคชะตากลั่นแกล้งส่งหนามหยอกอกมาทำให้หงุดหงิดจนได้ “ไม่อนุญาต!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD