.
“ฟ้าขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เ**กอล์ฟ” ฟ้าเพิ่งออกมาจากห้องประชุม เธอก็ขออนุญาตเ**กอล์ฟผู้จัดการของเธอ เพื่อที่จะไปทำธุระส่วนตัว
“ตามสบายจ๊ะ เจ๊รอที่รถนะ ส่วนน้องอิฐไม่รู้หลบไปไหนแล้ว”
“รออยู่ที่รถแล้วมั้งค่ะ” เธอพูดตอบเ**กอล์ฟ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำ สายตาเธอดูกังวล ตั้งแต่ที่เธอเดินออกมาจากห้องประชุมนั้น เธอเดินก้มหน้ามาตลอดทาง เธอคิดว่า เธอไม่สามารถที่จะเล่นละครได้เลย แล้วต้องมาเล่นกับตอง เธอยิ่งทำไม่ได้ไปใหญ่
“ฟ้า” เสียงเรียกของชายหนุ่ม นั้นยิ่งทำให้เธอตกใจ มันคือเสียงของตอง ที่เขาเพิ่งออกมาจากห้องน้ำพอดี พอเธอเห็นหน้าของตอง เธอก็หลบหน้าทันที แต่ก็ถูกชายหนุ่มดึงข้อมือของเธอไว้
“ปล่อยฟ้านะ” เธอยังคงทำสีหน้าไม่พอใจใส่ฝ่ายชาย
“ผมไม่ปล่อย”
“ตอง!” เธอขึ้นเสียงใส่ตองทันที
“ผมรู้ว่าคุณโกธรผม แต่ผมชอบคุณนะ ผมอยากให้เราสนิทกัน เหมือนตอนเราอายุหกขวบ”
“ฟ้าจำตองได้ค่ะ จำได้ขึ้นใจ เด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนคนแรกของฟ้า แต่ฟ้า...คงไม่อาจที่จะทำความฝันของตองให้เป็นจริงได้หรอกนะ”
“...” ผมก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากเงียบเพื่อฟังเธอพูดต่อ
“ตอง ฟ้าไม่ใช่เด็กอายุ หกขวบแล้วนะ ตอนนั้น...ฟ้าก็คงไม่ได้คิดอะไรหรอก มันก็เป็นแค่คำพูดสมัยเด็กเท่านั้นแหละ”
“...” ผมยังคงจับข้อมือเธอแน่น ซึ่งผมรู้ดี ว่าเธอน่าจะรู้ ว่าผมบีบข้อมือเธอแน่นขนาดไหน
“ยิ่งตองทำแบบนี้ฟ้ายิ่งอึดอัด เราจะทำงานด้วยกันลำบากนะ”
“...”
“ฟ้าอยากให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เราจะได้มีความสุขเหมือนตอนอายุหกขวบไง” พอเธอพูดแบบนั้น ผมบีบข้อมือเธอแน่น สายตามองไปทางเธอ
ปึก!
ผมใช้มือตัวเอง กั้นร่างกายของเธอไว้ ซึ่งเธอก็ตกใจ จนร่างกายของฟ้าติดกับผนังห้อง
“ตอง! จะทำอะไร เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เธอทำสีหน้าแตกตื่น และมองซ้านมองขวา เพราะกลัวคนอื่นจะมาเห็น แต่ผมไม่สนใจแล้ว ถ้าผมจะเป็นข่าวกับเธอ ก็ดีเลยสิ
“นอกจากความฝันนั้น ฟ้าคงลืมส่วนสำคัญไป” ผมมองใบหน้าของเธอจริงจัง จนเธอก็คงจะตกใจกับอาการของผม ดวงตาที่มองเธอด้วยความแข็งกราว ผมไม่คิดเลย ว่าทำไมตัวเองจะต้องมายึดติดกับสัญญานั้นด้วย และทำไมผมต้องจะเป็นคนที่จำสัญญานั้นได้คนเดียว
“ฟ้าฝันอยากเป็นนางแบบ ผมฝันอยากแต่งงานกับฟ้า ถึงมันจะเป็นคำพูดของเด็กหกขวบ แต่ฟ้าก็สามารถที่จะทำความฝันตัวเองให้เป็นจริง ส่วนผม...ก็ยังคงตามล่าความฝันนั้นอยู่ มันไม่ใช่แค่นั้นนะฟ้า วันนั้น มันมีสัญญาอะไรที่มากกว่านั้น ถ้าคุณจำมันได้” ผมมองใบหน้าเธอจริงจัง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะจำมันไม่ได้
“ฟ้าจำไม่ได้”
“ให้ผมรื้อฟื้นให้ไหม” ผมขยับใบหน้าตัวเองไปใกล้ๆ เธอ จนเธอตกใจ และก็ตอบผม
“มะ...ไม่ต้อง” เธอเสียงสั่น เพราะกลัวว่าผมจะทำอะไร แต่ผมก็เป็นผู้ชายดื้อสะด้วยสิ ทำยังไงได้ ก็ผมอยากจะรื้อฟื้นความทรงจำกับเธอแทบแย่
“แต่ผมอยากบอก”
“...” เธอได้แต่เงียบ และเม้มริมฝีปากตัวเอง ใบหน้าของผมยังคงเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ จนห่างกันไม่กี่เซน
“ตอนหกขวบนะ คุณบอกผมเองว่า...” เธอคงจะตื่นเต้นกับคำพูดของผม เธอดูเหมือนกำลังคาดหวังกับคำพูดของผม และก็กลัวว่าผมจะจู่โจมเธอ
“ฟ้าจำได้แล้ว ปล่อยฟ้าได้แล้ว” เธอพยายามที่จะผลักอกผมออก แต่เรื่องอะไรผมจะปล่อยเธอไปง่ายๆ กัน
“ถ้าจำได้แล้ว ผมจะได้ไม่เล่ารายละเอียด แต่ผมจะแสดงให้คุณดู ว่าตอนนั้นคุณทำอะไรผม” ผมกำลังจะก้มหน้าลงไปประกบริมฝีปากเธอ แต่เธอรู้ตัว เอามือมาปิดปากตัวเองทันที ผมเลยหยุด และมองหน้าเธอต่อ
“คุณรู้ไหม ว่าคุณคือคนที่ขโมยจูบแรกของผม จูบเมื่อสักครู่ในห้อง นั้นคือครั้งที่สองของเรา” ผมพูดด้วยความอ่อนโยน และแสดงใบหน้าตื่นตระหนก
“ผมว่าคุณคงยังจำไม่ได้ ผมเล่าดีกว่า” เธอยังคงทำตาโต มือยังคงปิดปากตัวเองไว้ เพื่อป้องกันการรุกของผม
“ผมบอกว่าผมอยากแต่งงานกับฟ้า คุณก็ยิ้มให้ผม แล้วยังขโมยจูบแรกของผมอีก ไม่เท่านั้นคุณยังบอกอีกว่า...ตองอย่าลืมสัญญานี่นะ ฟ้าจะรอ ทำไมผมถึงเป็นคนเดียวที่จำคำพูดพวกนี่ได้ละ แล้วทำไมคุณถึงลืม ทั้งๆที่คุณคือคนที่พูดบอกผมเอง”
ฉันไม่รู้จะทำตัวยังไง พอตองพูดแบบนั้นออกมา ฉันก็เริ่มจะจำคำพูดของตัวเองได้ดี ฉันดีใจที่ตองพูดแบบนั้นออกมา แล้วเราก็ยังเกี่ยวก้อยสัญญากันอีกว่าโตขึ้นมา เราจะแต่งงานกัน แล้วฉันยังเป็นคนขโมยจูบเขาในวัยเด็กอีก ตอนนั้นฉันคงไม่ได้คิดอะไร และฉันก็ไม่คิดว่าตองจะจริงจังกับคำสัญญาในวัยเด็กขนาดนั้น
“ผมไม่ใช่เด็กวัยใสเหมือนเมื่อก่อน ที่จะตื่นเต้นกับสัมผัสจุ๊บเล็กๆ แบบตอนหกขวบ ผมอายุ 24 ผมโตพอที่จะรู้ว่า...จะต้องทำยังไงถึงจะได้คุณเป็นเมีย!”