ตอนที่4.ฉันจะเป็นดีลเลอร์มือทอง

1628 Words
รุ่งเช้าของอีกวัน กวินตานอนทำใจมาทั้งคืน ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมอันแสนโหดร้าย ทั้งที่จริงวันนี้เธอควรจะได้เฉิดฉาย เป็นสาวแบงค์แต่งหน้าแต่งตัวสวย คุยสนุกกับเพื่อนร่วมงาน ดื่มกาแฟดำกับแซนวิชที่ชอบกินทุกเช้า "ชุดนี้ก็เข้าท่าดีนะยัยโฟม" กวินตาชื่นชมตัวเองในกระจกเงา ในชุดยูนิฟอร์มพนักงานคาสิโนของคนป่าเถื่อน แต่งหน้าสวยปกปิดรอยคล้ำ จากการร้องไห้มาทั้งคืน ผมยาวรวบตึงมัดสูง คว้ากระเป๋าสะพายคล้องไหล่ ใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่เงินในกระเป๋ายังอยู่ครบ เอกสารส่วนตัวอย่างบัตรประชาชน บัตรเครดิตหรือใบขับขี่ยังอยู่ครบ เว้นแต่สมาร์ทโฟนที่ถูกคนป่าเถื่อนยึดเอาไป กวินตาหมายมั่นปั้นมือยังไงเธอต้องทวงคืนให้ได้ สำรวจตนเองว่าเรียบร้อยดี ล็อคประตูห้องด้านหลังเรียบร้อย กวินตาจึงเปิดประตูออกจากห้อง "ว้าย! ผี" หญิงสาวตกใจกับเงาหนึ่ง ของผู้ชายคุ้นหน้า พ่อบอดี้การ์ดหน้านิ่ง ที่ยืนเป็นยักษ์อยู่หน้าห้อง เธอจึงยกขาขึ้นถีบตามสัญชาตญาณ แต่เขาหลบทันอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย... "ขอโทษคุณเสี่ยว มายืนทำไมตรงนี้" "เสี่ยวตง..." เขาพูดรอดไรฟันชื่อเขาออกจะเท่ห์ หญิงสาวจะเรียกดีๆไม่ได้หรือยังไง กวินตาคิดว่า เขาคงโกรธอยู่เหมือนกัน ที่เกือบโดนถีบเต็มเป้า ถ้าโดนเข้าเขาต้องอายผู้คนแถวนี้โดย เฉพาะสาวๆ แน่จึงทำสีหน้าแบบนั้น กวินตาสงสัยว่าเขามาทำไม มีธุระอะไรกับเธอนักหนา "คุณมาทำไม อย่าบอกนะว่าเจ้านายคุณให้เอาโทรศัพท์มาคืนฉัน" กวินตารีบแบมือ ดีใจจนบอกไม่ถูก ไม่ได้ท่องโซเชียลหนึ่งคืน แทบขาดใจให้ได้ เสี่ยวตงดับฝันอีกครั้ง "ไม่ใช่ครับ บอสให้ผมมาคอยเทคแคร์พาคุณไปกินข้าว" "เทคแคร์?" กวินตานิ่วหน้า ไม่ใช่เทคแคร์หรอก มาคุมซะมากกว่า "เร็วครับ เวลากินมีน้อย" เสี่ยวตงเร่งอีก กวินตาหน้าแห้งลดมือที่แบลง ความหวังว่าจะได้โทรศัพท์คืน หายวับไปกับตา ล็อคประตูห้องเดินตามเขาไปที่ห้องอาหาร ระหว่างที่เดินอย่างหมดแรง เธอเห็นเพื่อนร่วมหอพัก ต่างทะยอยออกจากห้อง ลองสังเกตดีๆจะเห็นว่าในหนึ่งห้อง จะอยู่รวมกันอย่างน้อยสองคนเสมอ แต่เธอได้อยู่คนเดียวคือมันดีมาก @ ห้องอาหารพนักงาน ห้องอาหารตั้งอยู่ใจกลาง ระหว่างหอพักชายกับหอพักหญิง เป็นห้องอาหารแบบเปิดโล่ง บริการแบบบุฟเฟ่ต์ เมื่อไปถึงจะมีพนักงานเข้าแถวยาวเหยียดทั้งที่เพิ่งจะหกโมงเช้า "คุณนั่งตรงนี้" เสี่ยวตงแหวกผู้คน มุ่งไปที่โต๊ะกินข้าวตัวเล็ก มีป้ายห้ามนั่งวางไว้ เขาบอกให้นั่งแล้วหายไป กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับถาดในมือ มีข้าวและกับข้าวสองสามอย่าง วางไว้ให้บนโต๊ะ แต่กวินตาไม่อยากเป็นจุดเด่น .มีสิทธิพิเศษเหนือใคร "นี่คุณเสี่ยว ฉันต้องเข้าแถวสิถึงจะถูก" เขายืนนิ่งหลังจากวางแก้วน้ำ และน้ำส้มอีกแก้วให้หญิงสาว "บอสสั่ง" เอ่อ...ก็แล้วแต่ พูดว่าบอสคำเดียวเธอรู้เรื่อง "เอาขนมปังปิ้งด้วยไหมครับ" ณ.ตอนนี้ กวินตาเป็นจุดเด่นอย่างช่วยไม่ได้ ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องถูกซุบซิบ จึงตอบไปว่า "เอาขนมปังทาเนยโรยน้ำตาล กับกาแฟดำหนึ่งแก้วค่ะ" อย่าได้แคร์ ยัยโฟมเธอไม่มีอะไรจะเสีย.... กวินตาสนใจกับอาหารอิ่มแล้ว จะว่าอร่อยก็ไม่เชิง เพราะไม่ถูกปากเท่าไหร่ แต่กินจนหมด แค่กินเพื่ออยู่เท่านั้น ตบท้ายด้วยกาแฟกับขนมปัง เธอพบว่าไม่ว่าจะนานแค่ไหน เสี่ยวตงยังคงยืนนิ่งเหมือนเดิม ชวนกินข้าวก็ไม่กิน พ่อคุณเอ้ย.... เสี่ยวตงเห็นว่าหญิงสาวอิ่มแล้ว เขาจึงพาเดินรอบๆคาสิโน ที่ทั้งกว้างขวางโอ่โถงและเลิศหรู ยกระดับคาสิโนแบบบ้านๆ ให้เทียบเท่าลาสเวกัส เครื่องเล่นทันสมัยสวยงามสั่งตรงจากสหรัฐอเมริกา เพราะฉะนั้นที่นี่ใสสะอาดได้มาตรฐาน เสี่ยวตงพูดแบบนั้น ไม่ว่าจะเดินไปส่วนไหน ก็สะอาดสวยงาม พื้นพรมนุ่มนิ่มรองรับน้ำหนักได้ดี สีสันสวยสะดุดตา รับกับแสงไฟที่ไม่เคยปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงได้อย่างดี @ ห้องฝึกงาน เสี่ยวตงเปิดประตู ให้หญิงสาวได้เข้าไปในห้องฝึกงาน "ห้องนี้ครับคุณกวินตา" ทันทีที่กวินตาโผล่หน้าเข้าไป ก็มีฝรั่งตัวโตรอรับอยู่ "ไฮ...มิสกวินตา ผมเจฟฟรี่ครับ" กวินตายกมือไหว้ พิจารณาดูแล้วเขาน่าจะเป็นครูสอนแน่ๆ เขาเป็นฝรั่งพูดไทยได้ชัดด้วย ดูเป็นกันเองมากมาย "สวัดดีค่ะคุณเจฟฟรี่ เรียกโฟมก็ได้ค่ะ" "ครับ...มิสโฟมเชิญครับ" กวินตากวาดสายตาทั่วห้อง พบว่าในห้องนี้มีอุปกรณ์หลายอย่าง โต๊ะที่ใช้เล่นพนันหลายตัว มีคนฝึกจ่ายไพ่อยู่ในห้องนี้อยู่ด้วยสองสามคน ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เจฟฟรี่เดินนำกวินตาไปยังโต๊ะที่ยังว่าง ให้นั่งที่เก้าอี้ เริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐาน ทำความรู้จักกับชิปสีสวย ทำความคุ้นเคยกับไพ่ กวินตาทำตามเขาเงอะๆงะๆ อยู่หลายครั้ง ก่อนมายังนึกอยู่ว่า สับไพ่แจกไพ่จะไปยากตรงไหน เห็นเพื่อนผู้ชายเขาเล่นไพ่กันก็หลายครั้ง "นี่คุณ...ดีลเลอร์นะ ไม่ใช่เจ้ามือไพ่ตามงานวัด" เสียงคุ้นๆวุ้ย กวินตาเงยหน้าจากไพ่ในมือ กำลังคร่ำเคร่งไม่ทันได้ระวังตัว ตาป่าเถื่อนนี่... เมื่อเขามาถึง เจฟฟรี่ทักทายนอบน้อม "มิสเตอร์เควิน วันนี้มาถึงนี่เลยนะครับ" เควินวางมาดใหญ่โต กระชับเสื้อสูท สายตาแหลมคมพุ่งตรงมาที่กวินตา มองสาบเสื้อที่แหวกออก กระดุมด้านบนเหมือนแกะออกเพราะร้อน บนใบหน้ามีเหงื่อเกาะพราว เขาสั่งเสียงเข้ม "เจฟฟรี่คุณเพิ่มแอร์หน่อย คุณผู้หญิงเขาร้อน" กวินตาสบตากับคนจอมยุ่งจอมวางมาด นึกในใจว่าที่ฉันเหงื่ออก เพราะประหม่าต่างหากล่ะ เควินขยับกายเข้ามาใกล้ "มา...ผมจะสอนเอง คุณเจฟฟรี่ไปสอนคนอื่นเถอะ" เขาพูดคำเดียวเจฟฟรี่ก็รีบปลีกตัว ดึงเก้าอี้อีกตัว เข้ามาใกล้ นั่งบนเก้าอี้คร่อมด้านหลังหญิงสาว ถอดสูทออกพาดกับเก้าอี้ กวินตาว่าจะไม่สนใจเขาแล้ว แต่เขามานั่งซ้อนหลัง เก้าอี้ติดกันโอบลำตัวไว้แบบนี้ แล้วเธอจะมีสมาธิได้ยังไง "นี่คุณ...ไม่มีงานมีการทำเหรอคะฉันจะเรียน" แต่เขามันพวกยิ่งไล่เหมือนยิ่งยุ เขาจะอยู่ใครจะทำไม นัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องไปที่ร่องอก "ผมเป็นเจ้าของที่นี่ จะนั่งตรงไหนทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น" พูดแบบไม่แยแส กับการต่อต้านของหญิงสาว วางคางสากไว้กับไหล่บาง สองแขนกางออก กวินตาดิ้นกุกกักในอ้อมกอด "คุณเควินทำไมต้องนั่งแบบนี้ด้วยคะ" กวินตาไม่อยากเงยหน้าขึ้นไป กลัวจมูกไปชนแก้มคนป่าเถื่อนที่ชอบฉวยโอกาส เควินเขาอยากเอาชนะ ยิ่งหญิงสาวไม่อยากให้อยู่ใกล้ เขาก็ยิ่งทำ เลื่อนมือจับผมยาวนุ่มลื่นกดจมูกลงไป "ผมคุณย้าวยาวหอมด้วย" กวินตาทำท่าจะขยับเก้าอี้หนี แต่ถูกคนขายาวกักไว้ "นั่งตรงนี้แหละคุณหนีผมไม่พ้นหรอก" เขารวบไพ่จากมือกวินตามาถือไว้ กดเสียงที่ข้างหู "ผมจะทำให้ดูเป็นบุญตา สับไพ่ต้องทำแบบนี้" กวินตาวางมือลงบนตักขยับตัวหนี เขาก็ตามมาประกบ จึงปล่อยเลยตามเลย ไม่ขยับตัวอีก เพราะเมื่อไหร่ที่หนีเขาก็ยิ่งเบียดชิด เควินพอใจที่หญิงสาวว่านอนสอนง่าย กดจมูกกับเรือนผมหลายครั้ง เพื่อยั่วโมโห ในขณะที่สองมือแบ่งไพ่ออกเป็นสองกอง กรีดไพ่เอาเข้ารวมกัน แบ่งไพ่อีกครั้งทำเหมือนเดิมอย่างกับมืออาชีพ "ไง...คุณอึ้งไปเลยล่ะสิ" กวินตายักไหล่ "ก็งั้นๆใครเขาก็ทำได้ ฉันเพิ่งจะเริ่มเรียนจะให้เก่งภายในวันแรกคงไม่ได้หรอกค่ะ" "เอา...ตาคุณ" คราวนี้เควินทิ้งไพ่ดูกวินตาฝึกต่อ รู้สึกได้ว่าหญิงสาวตั้งใจมาก คงต้องฝึกอีกหลายวันกว่าจะคล่อง "จำไว้นะคุณดีลเลอร์ความจำต้องดี ความไวต้องมา เวลาแจกต้องเร็ว" "พรุ่งนี้ผมจะสอนคุณพิทคาร์ด" กวินตาเงยหน้าจากไพ่ในมือ เพิ่งเคยได้ยินคำนี้ "พิทคาร์ดคืออะไรคะ" เควินยิ้มที่มุมปาก ตั้งใจวางคางสากสูดดมความหอม แต่หญิงสาวเบี่ยงตัวหนี เขาฮึ่มฮ่ำไม่พอใจในลำคอ "คุณจะหนีไปไหน รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็หนีไม่พ้น" กวินตาอายสายตา ของคนอยากรู้อยากเห็นในห้อง กระทุ้งศอกที่สีข้างเขาครั้งหนึ่ง "คุณจะฉวยโอกาสไปถึงไหน" "เป็นเมียผมเมื่อไหร่ผมจะเลิก" คนป่าเถื่อน คนลามกจกเปรต... กวินตาก็ได้แต่ก่นด่าเขาในใจระบายอารมณ์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD