เควินอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย เกิดนึกอยากให้หญิงสาวพูดเพราะๆกับเขา พูดเสียงหวานๆให้รื่นหู
"ต่อไปนี้แทนตัวเองว่าโฟมกับผม แล้วจะลดหนี้ให้ห้าแสน"
กวินตาพูดแบบไม่ต้องคิด เรื่องอะไรจะปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆ
"โอเคค่ะ..."
ถึงกระนั้น กวินตาคิดว่าการจูบครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลใดๆกับหัวใจ มันแค่ผลประโยชน์จึงไม่คิดอะไรมาก ผิดกับเขาโดยสิ้นเชิง หัวใจเขาเต้นรุนแรงอย่างกับเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ครั้งแรกนึกว่าหญิงสาว จะช่ำชองมากกว่านี้เสียอีก แต่นี่อะไรเธอทำอย่างกับไม่เคยจูบไปได้ ใช้มือถูคางสากใช้ความคิด
หรือว่าเธอจะยังไม่เคย...
เห้ย! ...มันจะเป็นไปได้ยังไง สองห้วงในความคิดของเควิน ตีกันสับสนวุ่นวายไปหมด แต่พอเห็นใบหน้าหญิงสาวซีดเซียวก็นึกสงสาร
"ไปเถอะกินข้าวเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป"
กวินตาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จับโทรศัพท์ไว้แน่น คิดในใจว่ารีบกินจะได้รีบไป ไม่อยากอยู่ห้องนี้นานๆหรอก แล้วรีบเดินตามเขาไปที่ห้องครัว
"อี๊...อี๊"
สิ้นเสียงร้องเบาจนแทบไม่ได้ยิน กวินตาเบรคตัวโก่ง เธอเกือบเหยียบเสือเข้าแล้ว เจ้าเสือตัวเล็กหน้าดุ ในใจคิดว่ามันคงยังเด็ก เป็นเสือต้องคำรามสิถึงจะถูก แถมยังคลอเคลียเจ้านายไม่ยอมห่าง
หญิงสาวเพ่งมองมันเสือหรือแมวกันแน่ ทำไมเชื่องจังเธอต้องระวังเอาไว้ก่อน สัตว์หน้าขนเชื่อใจได้ที่ไหน
"คุณเลี้ยงเสือทำไมคะน่ากลัวจะตาย"
เควินเห็นหญิงสาวกลัวคิดว่าเป็นเสือ ก็แมวเขาตัวใหญ่กว่าแมวทั่วไปหน้าตาดุอย่างกับอะไรดี เขาถึงซื้อมาเลี้ยง แต่พอโตขึ้นมามันกลับไม่ตรงปก ขี้อ้อนจนเขารำคาญ
"แมว...มันเป็นแมว คุณดูยังไงว่าเป็นเสือฮะที่รัก"
กวินตามองมันอีกครั้ง ที่บ้านมีแต่แมวไทย เก็บมาเลี้ยงจากข้างถนนเพราะเจ้าของเอามาทิ้ง เลี้ยงอย่างดียังเล็กกว่านี้ตั้งหลายเท่า
"เมี้ยว..." กวินตาลองเรียกมัน ถ้าเป็นแมวจริงๆต้องเดินมาหา และก็จริงเจ้าแมวตัวใหญ่เดินมาตามเสียงเรียก ถูไถกับขาของเธอ ทำสีหน้าอ๋อดอ้อนทั้งที่ลุคภายนอกดุอย่างกับเสือ เธอเกาคางให้มันได้ยินเสียงร้องเบาหวิว
"อี๊...อี๊"
ริมฝีปากได้รูปยิ้มพอใจหรี่ตามองหญิงสาว รู้สึกว่าทำไมเธอถึงได้น่าแกล้งขนาดนี้ ตอนเด็กๆเขาก็แกล้งน้องสาวเป็นประจำ โดนแม่ตีก็หลายครั้ง แต่ยังดีที่มี Dad ไม่อย่างนั้นเขาโดนแม่ตีจนหลังลายไปแล้ว
เมื่อถึงห้องครัวบนโต๊ะอาหาร ที่มีอาหารเต็มโต๊ะยังร้อนอยู่เลย กวินตายังรู้สึกงงอยู่ว่าอาหารมาส่งตอนไหนกัน
เควินนั่งลงที่เก้าอี้ โดยมีเจ้าแมวตัวโตในร่างเสือ หมอบราบแทบเท้า เขาผายมือให้กวินตานั่งฝั่งตรงข้าม
"จะดีเหรอคะ ฉันตักข้าวราดใส่จาน ไปนั่งกินที่เก้าอี้ตัวโน้นดีกว่าค่ะ"
กวินตาไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่ เมื่อวานเขายังร้ายกับเธออยู่เลย วันนี้กลับดีแสนดี แต่คนอย่างเขา ปากกับใจไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไหร่ ทำสีหน้าบูดบึ้ง
"ผมบอกให้กินคุณก็ต้องกิน ถือว่าผมขอร้องแล้วกัน"
กวินตาเลิกคิ้วอย่างเขาเนี่ยนะ รู้จักขอร้องใครเป็นด้วย เธอหูฝาดไปหรือเปล่า
"นั่งลงผมบอกให้นั่งก็นั่งสิ อย่าเรื่องมาก"
มันเกือบดีแล้วกวินตาหน้าบึ้งบ้าง นั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม เห็นอาหารน่ากินวันนี้เธอต้องกินให้อิ่ม ที่นี่ไม่มีอะไรให้บันเทิงมากนัก ตักข้าวสวยในโถให้ตนเองและเขาคนละจาน
"เชิญคุณโฟม"
กวินตาก้มหน้าก้มตา กินอาหารบนโต๊ะมันอร่อยมาก น่าจะมาจากห้องอาหารวีไอพีของที่นี่ ส่วนเควิน เขาอยากมีคนกินข้าวด้วยแบบนี้ทุกวัน คงเจริญอาหารไม่น้อย ตักแกงมัสมั่นราดบนข้าวสวยร้อนๆเข้าปาก
"กินเยอะๆคุณโฟม"
หญิงสาวไม่ตอบเพราะอร่อยอยู่กับผัดเปรี้ยวหวานตรงหน้า จวบจนอิ่มแล้วเธอรีบขอตัวกลับ ย่อตัวขยี้หัวเจ้าแมวก่อนกลับ
"ไปก่อนนะ..."
"โบโบ้...มันชื่อโบโบ้" เขาบอก
กวินตายืดตัวขึ้นสูงกว่าหัวไหล่เขานิดหน่อย เดินตรงไปที่ประตูห้อง โดยไม่ลืมขอบคุณเขา
"ขอบคุณค่ะสำหรับอาหารเที่ยงตอนบ่ายโมง"
แต่เขาไม่อยากได้แค่คำว่าขอบคุณ รั้งเอวบางให้หันมาทางเขากอดไว้หลวมๆ ก้มจูบขบเบาๆกระซิบที่ข้างหู เขาอยากทำให้เธอคุ้นเคยกับสัมผัสนี้
"จำไว้นะโฟม ว่าคุณต้องเป็นของผมคนเดียวเข้าใจไหม"
กวินตาตั้งรับไม่ทัน ดันตัวออกจากอ้อมแขน
"บ้า...คุณต้องบ้าไปแล้ว เงินก็จะเอาตัวฉันคุณจะมาทำเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ อะไรของคุณเนี่ย"
กวินตาอาศัยที่เขาอึ้งกับคำพูด รีบออกจากห้องทันที กลัวเขาอย่างกับอะไรดี ถ้าไม่ใช่เพราะโทรศัพท์ ก็ไม่คิดจะมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สองหรอก
เควินเขาปล่อยหญิงสาวกลับไป รู้สึกกระชุ่มกระชวยไม่รู้สาเหตุ แต่ที่แน่ๆเขาจะต้องได้เธอมานอนกอดในเร็วๆ นี้แน่นอน
ทันทีที่กวินตาโผล่หน้าออกจากห้อง ก็พบกับเสี่ยวตง พ่อบอดี้การ์ดหน้านิ่งยืนอยู่ หญิงสาวจึงรีบพูดธุระ
"พี่เสี่ยว...ช่วยพาไปซื้อของหน่อยได้ไหมคะ"
เสี่ยวตงพยักหน้าไม่รู้จะพูดยังไง ให้เธอเลิกเรียกพี่เสี่ยวสักที
"ไปเถอะ...ผมมีงานอีกเยอะ"
จากนั้นเสี่ยวตงพาหญิงสาว ไปที่ร้านค้าสวัสดิการพนักงาน ไม่ว่าสากกระเบือยันเรือรบที่มีครบ กวินตาจึงสั่งทุกอย่างที่ขาดแคลน ไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นใน ใช้เงินที่กดจากตู้เอทีเอ็มเมื่อวันก่อน ส่วนที่นี่บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตของกวินตา เควินไม่อนุญาตให้ใช้ เพราะตำรวจจะตามเจอทันที
"จ่ายตังค์เลยหรือเปล่าคะ" กวินตาถามพนักงานเมื่อสั่งของเสร็จ
พนักงานสาวสวยมารยาทดีตอบ "พรุ่งนี้ของมาถึงค่อยจ่ายก็ได้ค่ะ"
"อ่ะ...อ้อ เก็บเงินปลายทางสินะคะ"
กวินตายังอยากกลับไปฝึกสับไพ่ต่อ แต่เสี่ยวตงกำชับว่า
"บอสให้กลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยฝึกใหม่"
ดีเหมือนกัน กวินตาคิดในใจ...
@ ห้องพักพนักงานหญิง 529
กวินตาเดินถึงห้องขาแทบลากชั้น5 เชียวนะ หญิงสาวทิ้งตัวลงที่นอน รีบหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋าสะพายออกมา แต่เมื่อเปิดดูมันกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด แอพพลิเคชั่นอะไรต่ออะไรถูกล็อค รูปความทรงจำระหว่างเธอกับวิษณุหายหมดเกลี้ยง ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตรวจสอบให้ชัดเจน โทรศัพท์ก็สั่นครืดคราด
กวินตากดรับสายที่ขึ้นชื่อว่า เควิน
เธอจำได้ไม่เคยรู้จักหรือมีคนรู้จักชื่อนี้มาก่อน นอกจาก....เขา
กวินตา: หะ...ฮัลโหล
เควิน: หวัดดีคุณโฟม นอนดูโทรศัพท์อยู่ใช่ไหม
กวินตากลอกตาไปมา เขารู้ได้ยังไงว่าเธอดูโทรศัพท์อยู่
เควิน: โทรศัพท์คุณใช้เบอร์ใหม่ โทรออกได้เฉพาะผมคนเดียวเท่านั้น เข้าใจใช่ไหม
กวินตาอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง ทำไมเขาถึงใจร้ายขนาดนี้ ไม่อยากคุยด้วยคิดจะกดวางสาย
เควิน: อย่า...อย่าวางสาย จนกว่าผมจะอนุญาต ผมยังบอกไม่หมด แอพพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิง คุณดูได้อย่างเดียวเท่านั้น จะแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น แค่นี้นะ ขอให้เพลิดเพลินกับความบันเทิงนะคุณโฟม
กวินตากดวางสายด่าแบบพาลๆ
"ไอ้...ไอ้คนจิตไม่ปรกติ ไอ้คนใจร้าย"
หญิงสาวอยากร้องไห้ ทีนี้เธอจะติดต่อทางบ้านได้อย่างไร อุตส่าห์เสียจูบไปแล้วแท้ๆ สรุปว่าเธอเสียรู้เขาใช่ไหม
@ ห้องเพ้นท์เฮ้าส์ของเควิน
เควินวางโทรศัพท์ลง เขาเพิ่งทำให้หญิงสาวอารมณ์เสีย คงเสียดายรูปคู่ของเธอกับวิษณุไอ้ผู้ชายขี้ขลาดล่ะมั้ง
ตอนนี้ทุกการกระทำของหญิงสาว หรือแม้กระทั่งด่าทอเขาให้สาแก่ใจดังก้องอยู่เต็มสองหู ก็กล้องวงจรปิดที่เขาแอบติดไว้ช่างดีสมคำร่ำลือจริงๆ
แต่แล้วเขาต้องรีบปิดหน้าจอลง เพราะหญิงสาวถอดชุดพนักงานออกทีละชิ้นอย่างใจเย็น มวยผมยาวติดกิ๊บไว้ลวกๆ ยังเหลือแพนตี้อีกสองชิ้นที่หญิงสาวกำลังถอด
"บ้าเอ๊ย! " เขาด่าตัวเองรีบพับหน้าจอลง เขาแค่อยากรู้ว่าหญิงสาวทำอะไรบ้าง ไม่ใช่แอบดูหญิงสาวแก้ผ้าแบบนี้
นึกแล้วก็เสียดายเรือนร่างเย้ายวน เขาน่าจะใจแข็งอีกนิด ทำตัวเลวอย่างที่หญิงสาวชอบด่าว่า หาว่าเขาเป็นพวกลามกจกเปรตบ้างล่ะ คนฉวยโอกาสบ้างล่ะ
ก็ใช่!..เขายอมรับ