แพ้รักลูกบุญธรรม
ตอนที่6 ป่วย
_____________________
บ้านวิจิตรมณีรัตน์
ประตูรถซูเปอร์คาร์คันหรูถูกเปิดออกโดยมีแค่ร่างบางเดินลงมาเพียงลำพัง เมื่อประตูถูกปิดลงตัวรถก็พุ่งทะยานไปด้านหน้าออกจากรั้วบ้านด้วยความเร็วจนตัวรถลับตาลลินไป เธอระบายยิ้มเพียงนิดด้วยความสมเพชตัวเอง
"ถ้าทนไม่ไหวจนหัวใจมันอยู่ไม่ได้ ค่อยไปอยู่ที่อื่นเนาะลลิน"ร่างบางบอกกับตัวเองพร้อมกับโอบกอดเพื่อเรียกกำลังใจ
ลลินเดินเข้าไปในตัวบ้านที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่หลายไร่ ขนาดของตัวบ้านกว้างขวางใหญ่โตจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่แปลก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นอิมพอร์ตมาจากต่างประเทศ สมกับที่เป็นบ้านของท่านเจ้าสัวยุทธนากับคุณหญิงวรรณา ร่ำรวยด้วยการหาเงินอย่างสุจริตแต่ก็บริจาคเม็ดเงินมหาศาลช่วยเหลือผู้ยากไร้โดยเฉพาะบ้านเด็กกำพร้าทุกปี
ลลินเดินเข้าไปกอดคุณย่าสุดที่รักแล้วขอตัวขึ้นไปนอนบอกเพียงว่าปวดหัว เธอหลับตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็น ผ่านไปหลายชั่วโมงคุณหญิงให้โสมที่เป็นสาวใช้ขึ้นไปตามเพื่อให้หลานรักลงมาทานข้าว แต่เคาะเท่าไรประตูห้องบานใหญ่กลับไม่เปิดออกมาสักที โสมรีบวิ่งลงไปบอกคุณหญิง ต่างคนต่างวิ่งหากุญแจสำรองกันจ้าละหวั่น
"มีอะไรกันครับคุณแม่"ภาคินที่กลับมาจากทำงานในช่วงค่ำทีแรกกะว่าจะนอนคอนโดแต่เปลี่ยนใจเพราะเห็นอาการซึมๆและคำตัดพ้อของลลินเมื่อเช้า ทำให้เขาไม่เป็นอันทำงาน ขนาดจะดื่มกาแฟใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตายังฉายชัดอยู่ในนั้นให้เขาได้เห็น นี่คือเหตุผลที่ทำให้ภาคินต้องโร่มาถึงที่บ้าน
"ตาคิน หนูลินกลับมาบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าบอกแม่ว่าปวดหัวอยากนอนพัก นี่ก็ปาไปหลายชั่วโมงแล้วหลานก็ยังไม่ออกมา แม่ให้โสมไปเคาะประตูเรียกหนูลินก็ไม่ยอมเปิดประตูออกมาสักที"คุณหญิงรีบอธิบายด้วยใจที่ร้อนรนใบหน้าบ่งบอกอย่างเป็นกังวลว่าเป็นห่วงหลานสาว
ภาคินรีบขอกุญแจสำรอง เดินไปยังห้องนอนของคนตัวเล็กที่อยู่ฝั่งซ้ายติดกับห้องนอนขนาดใหญ่ของเขา กุญแจที่สาวใช้ยื่นให้ไขผิดไขถูกจนในที่สุดประตูบานหนาก็ถูกเปิดออกอย่างสำเร็จ ห้องนอนสีหวานที่มีแสงไฟสว่างจากหัวเตียงพอให้ได้เห็นร่างบางที่นอนหลับใหล แต่ใบหน้าที่เคยนวลใสกลับซีดเผือด ไอร้อนที่สุมกายแผ่ขยายจนภาคินรู้สึกเป็นห่วง
ชายหนุ่มใช้หลังมือแตะเข้าที่หน้าผากของคนที่มีผ้าห่มผืนหนาคลุมถึงช่วงอกที่นอนในท่าตะแคง คิ้วหนาเคลื่อนตัวเข้าหากันเพราะความร้อนที่สัมผัสได้จากผิวบางนั่น เนื้อตัวที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มแดงปลั่งจนตัวแทบสุก มือเท้าก็ร้อนระอุจนภาคินเองก็แทบทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน คนตัวเล็กนอนขดตัวด้วยความเหน็บหนาว เนื้อตัวสั่นเทาจนภาคินต้องเข้าไปโอบกอดอย่างไม่กลัวติดไข้
"ทำไมตัวร้อนขนาดนี้ล่ะ"พึมพำด้วยความตกใจ ปกติถ้ารู้ว่าตัวเองไม่สบายลลินจะรีบโทรหาเขา หรือไม่ก็ต้องรีบทานยา หรือว่านอนหลับจนลืมเป็นห่วงตัวเอง ความผิดเริ่มถาโถมสาเหตุคงมาจากเขาที่ลงโทษลลินด้วยการตีจนทำให้เธอจับไข้
"คุณแม่ครับรบกวนตามหมอให้ผมที ป้าสีครับผมขอผ้าชุบน้ำแล้วก็ยาลดไข้ด้วยนะครับ"ภาคินร้องขอในสิ่งที่จะสามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยของลลินได้
"ได้ลูก"คุณหญิงวรรณรีบบอกให้สาวใช้โทรศัพท์ต่อสายหาคุณหมอประจำตระกูลเพื่อมาดูอาการของลลิน ที่ตอนนี้ดูไม่ค่อยสู้ดีหนัก และหันไปบอกสาวใช้อีกคนให้เอาผ้าชุบน้ำและยาลดไข้มาให้ภายในห้อง
ผ้าหมาดๆถูกยื่นให้ภาคิน เขารับมันมาด้วยความรวดเร็วเช็ดตามร่างกายเพื่อให้ความร้อนระเหยออกมาตามรูขุมขน แต่เช็ดเท่าไรความร้อนที่สุมกายของลลินกลับไม่ทุเลาจนภาคินรู้สึกกลัว
"หนูลินครับได้ยินแดดดี้ไหมคะ คนเก่งได้ยินแดดดี้รึเปล่าคะ"จูบไปที่แก้มทั้งสองข้างพยายามเรียกอีกคนให้ลืมตาขึ้นมา เปลือกตาที่หนักอึ้งไม่สามารถทำให้ลลินลืมตาตื่นขึ้นมาได้เลย แม้จะได้ยินเสียงเรียกอันคุ้นเคยของแดดดี้แต่เธอก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมามองหน้าอีกคนได้
"หนูลินปวดหัว"มือเล็กทั้งสองข้างกุมหัวทุยที่เต็มไปด้วยเรือนผมเงาสีดำ ลลินส่ายหัวไปมาอย่างทรมาน มันปวดจนหัวแทบจะระเบิด มันหนักอึ้งเหมือนมีหินก้อนหนักๆมาทาบทับ
"งั้นหนูลินทานยาลดไข้ก่อนนะครับจะได้หายปวดหัว หมอกำลังมาคนเก่งของแด๊ดดี้อดทนนะครับ"จากที่กอดร่างบางไว้ในอ้อมอกอยู่แล้วภาคินรีบเปลี่ยนท่าเพื่อให้ลลินทานยาได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าทานในท่านอนเขาเกรงว่าเม็ดยาจะติดคอจนทำให้ลลินหายใจไม่ออก
ใบหน้าซีดเผือดบิดเบี้ยวขึ้นมาเมื่อได้รับรสชาติของเม็ดยาขมๆ เธอไม่ชอบทานยาและเกลียดการโดนฉีดยาเป็นที่สุด ถ้าจะให้ลลินเด็กดื้อทานยาต้องมีคนอยู่เฝ้า แต่ถ้าไม่มีคนเฝ้าลลินจะเอายาทิ้งขยะหรือไม่ก็ทิ้งลงชักโครก เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนจนเธอโดนเอ็ดอยู่บ่อยๆ
"หนูลินปวดหัว"เสียงแหบแห้งทอดบอก หัวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความปวด ภาคินมองคนตัวเล็กที่กุมหัวใจเขาไว้ทั้งดวงด้วยความสงสาร ถ้าเป็นไปได้เขาอยากป่วยไข้แทน เจ็บปวดแทนเธอในทุกๆเรื่อง
"เดี๋ยวหมอมาแล้วครับ"ภาคินจูบปากเล็กซ้ำๆอย่างลืมตัว คลอเคลียลูบไล้ตามเนื้อตัวที่ยังร้อนรุ่มเหมือนไฟสุมให้ลลินรู้สึกดี เพราะคนตัวเล็กชอบแบบนี้และแดดดี้ภาคินก็รู้ใจ เวลาที่ลลินป่วยไข้ภาคินจะอ่อนโยนแบบนี้เสมอผิดจากเวลาปกติที่ชอบเฉยชา
คุณหญิงวรรณาถึงกับอึ้งยกมือขึ้นป้องปากด้วยความตกใจ ไม่เคยเห็นแบบนี้สักครั้งแต่ท่านกลับยิ้มกริ่มภายในใจอย่างรู้สึกยินดี สงสัยงานหมั้นกับผู้หญิงคนอื่นคงเป็นอันต้องยกเลิก สิ่งที่คุณหญิงเคยต้องการที่เหมือนจะหริบหรี่อย่างไม่มีทางเกิดขึ้นได้คงต้องปัดตกไป เพราะเหตุการณ์ในตอนนี้กำลังทำให้ท่านมีความหวัง หลานรักพ่วงด้วยตำแหน่งลูกสะใภ้
"ดีขึ้นไหมครับให้แดดดี้จูบหนูลินอีกรึเปล่า"