แรกพบ 1

1015 Words
เขากดจูบลงไปที่ริมฝีปากนุ่มหยุ่น ก่อนเริ่มเลาะเล็มอย่างเชี่ยวชาญ ทำให้เธอยอมเผยอปากเพื่อให้เรียวลิ้นอุ่นร้อนของเขาเข้าไปสำรวจความหวานล้ำในโพรงปาก เขาสำรวจอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ส่งลิ้นกลับมาทักทายเขาอย่างขัดเขินและเก้ๆ กังๆ มือเรียวเหมือนมือผู้หญิงลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนวลเนียนแล้วไล่ลงไปที่สะโพกงอนงาม จากเบากลายเป็นหนักหน่วงตามความปรารถนาที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ เขาลากริมฝีปากร้อนๆ ลงมาที่ปลายคาง ซอกคอหอมกรุ่น ส่วนมือก็ละจากสะโพก เป็นสอดเข้าไปใต้เนื้อผ้าทางด้านหน้า ค่อยๆ ลูบไล้หน้าท้องแบนราบที่เนียนลื่นมือ ก่อนเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงปทุมถันหนั่นแน่นที่ไม่มีอาภรณ์ใดปกป้อง แล้วทักทายมันด้วยปลายนิ้วแข็งแรง ร่างบางไหวเยือกก่อนจะตัวเกร็งและนิ่ง คล้ายลังเลในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอเพื่อหยั่งความรู้สึก บอกตัวเองว่า ถ้าเธอไม่พร้อม เขาก็ไม่ไปต่อ แต่สิ่งที่เห็นจากดวงตาคู่นั้น ทำให้เขาผลักเธอลงบนที่นอนหยาบกระด้าง แล้วทาบทับร่างตัวเองลงไป แล้วเริ่มต้นจูบปากเธออีกครั้ง คราวนี้เธอสนองตอบเขาอย่างไม่เก้กังเท่าคราวที่แล้วแล้ว ธาริตครางเสียงพอใจ เลื่อนจากปากลงมาที่ซอกคอของเธออีกหน สูดเอาความหอมกรุ่นนั้นเข้าเต็มปอด เป็นกลิ่นเนื้อแท้ผสมกลิ่นสบู่อ่อนๆ ไม่มีโลชั่น ไม่มีน้ำหอม มันจึงยั่วอารมณ์เขาได้อย่างที่สุด เขาได้กลิ่นนี้ตั้งแต่กลางวันแล้ว ตอนที่นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ของเธอไปโน่นมานี่ ยังแอบสูดเอาความหอมอยู่บ่อยๆ เหมือนคนโรคจิตก็ไม่ปาน              เมื่อวานนี้              ธาริตก้าวออกจากโฮมเสตย์เล็กๆ ด้วยความรู้สึกสดชื่นหลังจากได้นอนเต็มอิ่ม เมื่อคืนเขามีงานร้องเพลงที่จังหวัดนี้ งานจบ เขายังไม่อยากกลับกรุงเทพ จึงแบกเป้ออกท่องเที่ยวต่อ              ขาเรียวยาวไม่ต่างจากขาผู้หญิงเดินช้าๆ ไปตามสะพานไม้ ซึ่งทอดไปสู่สวนสาธารณะเล็กๆ เขาแวะทักทายสุนัขพันทางที่นอนอาบแดดยามสายครู่หนึ่ง ถ่ายรูปของมันสองสามรูป เก็บเอาไว้ลงโลกโซเชี่ยลเพื่อสื่อสารกับพ่อ เพื่อน และแฟนคลับหลักสิบของตนให้รับรู้ จากนั้นจึงเดินต่อ               ระหว่างนั้น มีหนุ่มสาวสองคนเดินสวนมา พอเห็นเขาก็มองมาอย่างไม่แน่ใจ แล้วก็แค่นั้น ไม่มีใครสนใจเขาอีก ชายหนุ่มเผลอยิ้มขื่น เขาไม่ได้วาดหวังว่าคนจะเข้ามากรี๊ดขอถ่ายรูปขอลายเซ็นหรืออะไร แต่การเป็นศิลปินแล้วคนไม่สน จำไม่ได้ ร้องเพลงตัวเองไม่ได้ ก็นับเป็นความเจ็บปวดอย่างที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็พยายามคิดอีกแง่ว่า เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาได้มีเวลาส่วนตัวทำโน่นทำนี่ อย่างการออกมาเดินท่อมๆแบบนี้ เมื่อเดินมาสุดสะพานไม้ ธาริตก็ได้ยินเสียงหัวเราะ เสียงหวีดร้องด้วยความสนุกสนานของเด็กๆ ดังมาจากทางด้านหนึ่ง มันสดใสจนเขาต้องเผลอยิ้มและตัดสินใจเดินตามหาเสียงเหล่านั้น              อยู่นั่นเอง              เด็กชายหญิงห้าคนกำลังเล่นเกมแม่งูเอ๋ย โดยมีเด็กชายตัวใหญ่ที่สุดเป็นพ่องู และหญิงสาวคนหนึ่งเป็นแม่งู หญิงสาวเจ้าของร่างบาง ผิวสีน้ำผึ้งเนียนตา รวบผมมัดเป็นจุกไว้กลางศีรษะ เสื้อยืดพอดีตัวสีดำ กางเกงขาสั้นสีชมพูอวดขาเรียวสวย ดูๆ แล้วเธอน่าจะเป็นครูที่พาเด็กๆ มาเที่ยวเล่น              “เล่นด้วยคนได้มั้ยครับ” เขาส่งเสียงออกไปอย่างอดใจไม่ไหว ด้วยใจนั้นชอบเล่นกับเด็กๆ อยู่แล้ว              ทั้งหมดหันขวับมามองหน้าเขา แต่เขามองรอที่ ‘คุณครู’ คนเดียว รอยยิ้มเขากว้างขึ้นไม่รู้ตัว เมื่อเห็นหน้าคุณครูชัด คิ้วเรียว ตาคมหวาน ขนตาหนาและงอน จมูกโด่งรับกันดีกับริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้มีสีส้มอ่อนเคลือบไว้ เขาเห็นเธอเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ ไม่แน่ใจ ก่อนจะยิ้มและพยักหน้าอย่างใจดี              “เชิญค่ะ...” แล้วเธอก็หันไปหาเด็กๆ “ให้พี่โป้งเล่นด้วยนะคะ”              “ค่ะ/ครับ” เด็กๆ ตอบรับเสียงใส              การเล่นแม่งูเอ๋ยเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยเขาเป็นพ่องูแทนเด็กชาย ส่วนเธอเป็นแม่งู ซึ่งก็ว่องไวปราดเปรียวไม่น้อย เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกันกว่าจะแย่งลูกได้แต่ละตัว              หัวใจของธาริตเบิกบาน สมองโล่งขึ้นมาเมื่อได้หัวเราะและได้เหงื่อออก เขามองไปที่คุณครูแล้วก็ต้องเผลอยิ้ม เมื่อเห็นแววตาเป็นประกายสดใสเหมือนเด็ก เห็นรอยยิ้มที่แต้มแต่งริมฝีปากและใบหน้าไว้ตลอดเวลา แม้ใบหน้าจะโซมไปด้วยเหงื่อ มันก็น่ามองอย่างบอกไม่ถูก              “เอ้า เด็กๆ กลับบ้านได้แล้วนะ ห้ามเถลไถลล่ะ ไม่งั้นจะเหมือนใครนะ...” หลังการเล่นสิ้นสุด เธอสั่งเด็กๆ ด้วยเสียงอ่อนโยนแต่เป็นกังวานน่าฟัง              “หนูน้อยหมวกแดง” เด็กๆ แย่งกันตอบ หญิงสาวพยักหน้ายิ้มๆ              “ดีมาก งั้นบ๊ายบายนะ อ้อ ขอบคุณพี่โป้งด้วยนะคะ ที่มาเล่นกับเรา” ตอนท้ายเธอผายมือมาทางเขา เด็กๆ ก็ทำตามอย่างว่าง่าย              “ขอบคุณค่า/ขอบคุณครับ”              “พี่นุชขา พรุ่งนี้มาอีกมั้ยคะ” เด็กหญิงคนหนึ่งยังไม่ยอมกลับ เงยหน้ามาถามเธอ              “พรุ่งนี้พี่นุชต้องไปที่อื่นน่ะสิ แต่สัญญานะว่าจะมาเที่ยวที่นี่อีก อาจจะปีหน้าหรือปีโน้นๆ” เธอก้มลงตอบเด็กหญิง ซึ่งก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่แล้วก็ทำท่านึกอะไรออก              “หนูรู้แล้วๆ” พูดจบก็วิ่งจากไป ทั้งเขาและเธอมองตามเด็กหญิงงงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD