จะกินข้าวกับเธอ

1164 Words
เมื่อกลับมาที่โต๊ะทำงาน วีรนุชก็เปิดดูภาพถ่ายเก่าๆ ระหว่างธาริตกับภาวินี แววตาของเขาค่อนข้างบ่งบอกความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวคนนั้นชัดเจน แต่ตอนนั้นเขาตัวผอมเก้งก้าง ยังไม่เป็นหนุ่มหล่อเต็มวัยเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ขนาดนี้ “จะเวิร์กจริงๆ เหรอเนี่ย” เพื่อนพีอาร์เดินมาชะโงกหน้ามองมือถือของเธอแล้วเอ่ย “เขาเป็นเกย์ไม่ใช่เหรอ แบบนี้ก็ยัดเยียดอยู่ดี” “ไม่เป็นนี่คะ” “นั่นแน่ะ ไปทำงานกับเขาวันเดียว ตกเป็นแฟนของเขาแล้วเหรอ ถึงแก้ตัวแทนแบบนี้” “แหม พี่แอมป์ ดูใช้คำเข้า ตกเป็นแฟนเลยเหรอคะ” เธอส่งวงค้อนไปให้รุ่นพี่ ทั้งที่ในใจนั้นเต้นแรง เพราะเมื่อคืนเธอก็เกือบตกเป็นของเขาอีกครั้งจริงๆ “อ้าว หรือไม่จริง ตอนนี้สาวๆ อยากตกเป็นของเขาครึ่งค่อนประเทศจริงๆ นี่” “แล้วแบบนี้จะหาว่าเขาเป็นเกย์ได้ไงคะ รังสีที่แผ่ออกมาทำให้สาวๆอยากได้เขาเนี่ย ไม่ใช่รังสีเกย์แน่นอน” ก้อย พีอาร์สาวสวยอีกคนเอ่ยแทรกขึ้น “มันคือรังสีของความเป็นผัวค่ะ พี่แอมป์ พี่คิดว่าผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศจะกรี๊ดเกย์ขนาดนี้เหรอคะ” “เออ จริงด้วย...แล้วฉันก็ไม่เห็นเพื่อนที่เป็นเกย์จะบอกว่าเป็นเลยนี่หว่า” วีรนุชกับก้อยหันสบตากันแล้วก็ยิ้ม พอดีกับที่มีข้อความเข้าจากภาสกรว่าตอนนี้เขามาถึงหน้าบริษัทแล้ว เธอจึงขยับตัว “แฟนมารับทานข้าวเหรอจ๊ะ” “ไม่ใช่แฟนค่ะ เพื่อน” “งั้นพี่ก้อยจีบเพื่อนคนนี้ของนุชได้มะ” วีรนุชหัวเราะและพยักหน้า “ตามสบายเลยค่ะ” “หวงความโสดไว้ให้ใครเนี่ย หรือจริงๆ แอบมีแฟนแล้วไม่บอกพวกเราหรือเปล่า” วีรนุชยิ้ม “ถ้ามีแฟนนะ ไม่แอบหรอก จะซื้อบิลบอร์ดประกาศเลยเชียวแหละ...ไปแล้วค่ะ” กดลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่าง วีรนุชก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคนจำนวนมากยืนออกันเต็มลาน ในมือมีป้ายไฟชื่อโป้ง ธาริตเธอจำได้แล้ว วันนี้เขามีกำหนดการเข้าบริษัท “โห แฟนโป้งเพียบเลย เขามาทำอะไรกันน่ะ” ภาสกรเดินหลีกฝูงชนมาหาเธอ “วันนี้โป้งมีถ่ายรายการของบริษัทในเครือเนี่ยแหละ น้องๆ ก็คงมาให้กำลังใจน่ะ” “แล้วนุชต้องไปดูหรือเปล่า” “ไม่จ้ะ รายการพูดคุยธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าห่วง...รีบไปดีกว่า นุชหิวแล้ว” พูดจบเธอก็เดินนำเขาไปทางด้านหลังของตึกซึ่งมีตลาดและมีร้านอาหารอยู่ ระหว่างรอข้ามถนนเพื่อไปยังร้านอาหารที่หมายตา รถตู้คันหนึ่งก็จอดลงเยื้องๆสองหนุ่มสาว ประตูด้านหน้าเปิดออก พอลลงมาแล้ววิ่งไปเปิดประตูใหญ่ เห็นอย่างนั้นวีรนุชก็รีบสะกิดภาสกรให้ออกเดิน เธอไม่อยากเห็นธาริตและไม่อยากให้เขาเห็นเธอตอนนี้ แต่ดูจะช้าไป ธาริตก้าวลงมาได้เสียก่อน และเห็นเธอเข้าพอดี คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหากันด้วยความไม่สบอารมณ์ “จะไปไหนกัน” เขาทักด้วยน้ำเสียงราบเรียบดูปกติ แต่วีรนุชรับรู้ถึงรังสีความไม่พอใจที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างนั้นได้ดี “ทานข้าวกันครับ” ภาสกรเป็นคนตอบ “พอดีเลย เราก็หิว หาอะไรกินก่อนนะ พี่โย” พูดจบ เขาก้าวมายืนเคียงวีรนุชแล้วพยักหน้าให้ออกเดิน เธอหันไปมองพี่โยเพื่อขอความเห็น ก็เห็นว่าฝ่ายนั้นทำหน้างง “บนรถแกก็กินของที่แฟนคลับให้มาตลอดทางนะ นี่ยังไม่อิ่มเหรอ” “นั่นมันขนม ไม่ใช่ข้าว คนละส่วนกัน...ไปสิ นุช ไปกินกัน” ตอนที่พูดประโยคท้ายนั่น เขาทำตาพราวระยับใส่ตาเธอ วีรนุชพยายามทำหน้าให้เป็นปกติ ทั้งที่ใจเต้นแรง “ซื้อไปกินข้างบนดีกว่ามั้ย จะได้ไม่ร้อน เดี๋ยวให้พอลซื้อให้ก็ได้” พี่โยเสนอความคิด แต่ซุปตาร์หนุ่มสั่นหน้า “อยากกินที่ร้าน...” พูดจบเขาก็แตะมือวีรนุชให้ออกเดิน ก่อนจะคิดอะไรออก “อ้อ ถ้าพี่โยกับพอลไม่อยากกินที่ร้าน จะสั่งไปกินข้างบนมั้ยล่ะ เดี๋ยวสั่งให้” “ผมไปกับคุณดีกว่า” พอลเอ่ยเสียงขรึม พี่โยจึงตัดสินใจไปทานด้วย การปรากฏตัวของซุปตาร์หน้าหวานในร้านอาหารนั้นเรียกความตื่นเต้นจากคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาบริเวณนั้นได้ไม่น้อย ทั้งที่เขาก็มาแถวนี้บ่อยๆ แต่เพราะตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้เขาไม่ใช่ธาริตไร้เสน่ห์คนเดิมแล้ว กลายเป็นชายหนุ่มที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันหา มีหลายคนเข้ามาขอถ่ายรูป แต่พอลก็ขอให้เขาได้ทานข้าวเสร็จก่อน ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ เพราะเป็นเวลาส่วนตัว ร้านอาหารดังกล่าว เป็นร้านที่สร้างๆ ง่ายๆ ตั้งอยู่ข้างทาง เปิดโล่งทั้งสี่ด้าน และขณะนี้ก็มีลูกค้าเกือบเต็มทุกโต๊ะ ภาสกรขอความเห็นของทุกคนว่าจะทานอะไรแบบไหน ซึ่งก็ตกลงกันว่าจะสั่งแบบอาหารจานเดียว เพื่อความรวดเร็วและง่าย “นุชอยากกินอะไรจ๊ะ” ภาสกรถามขึ้น เตรียมปากกาไว้จดรายการเพื่อนำไปยื่นให้แม่ครัว พอวีรนุชตอบเสร็จ เขาก็ถามทุกคน จนมาถึงธาริต “ขอยำรวมมิตร แต่ไม่กุ้ง ไม่หมึก” ธาริตตอบ วีรนุชชะงัก แล้วภาพเมื่อสองปีก่อนก็ผ่านเข้ามาในความคิด ตอนนั้นเธอ เขา และพลอยจันทน์นั่งอยู่ในร้านอาหาร ระหว่างสั่ง เธอก็คอยถามเขาตลอดว่ากินอะไรไม่ได้บ้าง ‘แพ้กุ้งครับ แต่ไม่ต้องเผื่อโป้งหรอก อยากกินก็สั่งมาเลย เดี๋ยวโป้งก็สั่งอย่างอื่น’ ‘ไม่ได้สิ ต้องกินด้วยกัน...’ ‘นุชไม่กินปลาหมึกไม่ใช่เหรอ งั้นเราเอาเป็นยำหมูสับอะไรงี้ดีมั้ย’ พลอยจันทน์เอ่ยขึ้น ‘อ้าว ไม่กินปลาหมึกเหรอ’ เขาถามด้วยความแปลกใจ ‘แพ้หรือว่าอะไร ของโป้งนี่แพ้เลย กินแล้วผื่นขึ้น ปากบวม’ ‘ไม่อร่อยสำหรับนุชน่ะ’ ‘แล้วพลอยล่ะ แพ้อะไรหรือเปล่า’ เขาหันไปทางพลอยจันทน์อย่างใส่ใจ ‘ดูหุ่นพลอยแล้ว คิดว่าจะแพ้อะไรบ้างมั้ย...พลอยกินได้หมดค่ะ สั่งมาโลด’ ‘ถ้างั้นก็ขอยำรวมมิตร แต่ไม่กุ้งไม่หมึกที่หนึ่งนะครับ’ เขาหันไปสั่งเด็กเสิร์ฟ ซึ่งเธอก็ขอบคุณเขาที่ใส่ใจเรื่องของเธอด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD