ออกฤทธิ์

1128 Words
“พี่แขกแกเป็นคนเลือดร้อนแบบนี้แหละ เดี๋ยวแกก็หาย” ทีมงานคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆนั้นเอ่ยกับวีรนุช แต่ไม่ได้ทำให้เธอสบายใจขึ้นสักนิด หญิงสาวก้มลงเก็บสคริปต์ขึ้นมาแล้ววิ่งตามโปรดิวเซอร์ไปทันที “พี่แขกคะ...” เมื่อไปถึงบันไดหนีไฟซึ่งเป็นที่พักและที่สูบบุหรี่ของเหล่าพนักงาน หญิงสาวก็เรียกเขาเสียงอ่อน “นุชไม่ได้จะมาเปลี่ยนแปลงอะไรนะคะ คุณโป้งเองก็เช่นกัน เขาเป็นซุปตาร์มือใหม่ เลยอาจจะมีความกังวลมากไปสักหน่อย ไม่ค่อยมั่นใจไปสักนิดน่ะค่ะ” โปรดิวเซอร์หนุ่มเลือดร้อนอัดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ก่อนพ่นควันออก แล้วเอ่ย “ยังไม่ทันจะดังจริงเลย ก็เรื่องมากซะแล้ว แบบนี้ใครเขาจะอยากสนับสนุน” “เท่าที่รู้จักคุณโป้งมา เขาไม่ใช่คนเรื่องมากเลยค่ะ ออกจะง่ายๆสบายๆเสียด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้คงกังวลมากจริงๆ น่ะค่ะ พี่แขกให้โอกาสคุณโป้งดูนะคะ แล้วจะเห็นว่าเขาเป็นคนเก่งมาก แล้วยิ่งได้ทำงานกับโปรดิวเซอร์มือทองอย่างพี่แขกด้วยแล้ว นุชรับรองว่าเทปนี้ รายการต้องคว้าเรตติ้งสูงที่สุดแน่ๆ ” ชายหนุ่มหันกลับมามองหน้าเธอ แล้วก็เผลอยิ้มออกมา “เรานี่มันขี้ประจบเหมือนกันนะ มีผัวหรือยัง จีบได้ป่าว” เขาถามกลับตรงๆ เสียจนวีรนุชสะดุ้ง ก่อนจะหัวเราะอย่างเห็นขัน “ถามงี้เลยเหรอ พี่” “เออ เอางี้แหละ ขี้เกียจอ้อมค้อม ถ้าไม่มีผัวก็จะจีบ ถ้ามีแล้วก็ไม่ยุ่ง” “ถ้างั้น...เราก็ต่างคนต่างทำงานดีกว่านะคะ” “ว้า สรุปคือมีผัวแล้ว เซ็งว่ะ” เขาว่าเสียงไม่จริงจังนัก ก่อนโยนก้นบุหรี่ลงกระบะทรายที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ “อ้ะ เดี๋ยวจะลองดูซักตั้งกับนายซุปตาร์หน้าใหม่นั่น” วีรนุชยิ้มออก “ขอบคุณมากนะคะ นี่ค่ะ สคริปต์” “แน่ใจนะว่าจะไม่แก้อะไร” เขาถามอีกครั้ง หญิงสาวสั่นหน้า “นุชเคยดูรายการพี่ค่ะ นุชยังยืนยันคำเดิมว่านุชเชื่อใจพี่” ชายหนุ่มพยักหน้า “เรานี่เป็นคนแปลกๆ นะ นุช” “ยังไงเหรอคะ” “สวย เซ็กซี่ น่าจะเป็นคนขี้เหวี่ยงขี้วีน แรง แต่เปล่าเลย กลับดูเรียบร้อย แล้วก็มีสายตา...เขาเรียกอะไรหว่า สายตาแบบปลอบประโลมคนน่ะ อ้อ สายตาอบอุ่นน่ะ มันทำให้คนถูกมองมีพลัง มีกำลังใจขึ้นมาไม่รู้ตัว” “โห ฟังดูสวยมากเลยค่ะ” เธอส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าขึงขัง “พูดจริงนะเว้ย นี่เลิกกับผัวเมื่อไหร่บอกนะ พี่จะจีบจริงๆ ผู้ชายอย่างเราๆต้องการผู้หญิงแบบนี้แหละ อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น เย็นใจ ต่อให้เจอเรื่องร้ายๆ มามากแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะรู้ว่าที่บ้านมีใครรออยู่” “ขอโทษนะคะ พี่มีอาชีพเสริมเป็นนักเขียนหรือเปล่าคะเนี่ย แหม คารมนี่แบบ...” “ชวนหวั่นไหวใช่ป่ะ แล้วหวั่นไหวป่ะ” เขายื่นหน้ามาใกล้ หญิงสาวรีบเบี่ยงหลบ ตอนนั้นเองที่ประตูที่เชื่อมระหว่างบันไดกับห้องทำงานเปิดผางออก ธาริตยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น สีหน้าของเขาถมึงทึงดูน่ากลัวที่สุดสำหรับวีรนุช “ผมหวั่นว่า รายการคุณมันจะไปไม่รอดเพราะโปรดิวเซอร์หน้าหม้อนี่แหละ” เขาส่งเสียงเหมือนคำราม “ตกลงจะใช้เวลางานจีบกันอีกนานไหม ผมจะได้ยกเลิกคิว” โปรดิวเซอร์หนุ่มไม่ตอบโต้อะไร เขามองหน้าวีรนุชครั้งหนึ่ง แล้วจึงเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน วีรนุชทำท่าจะก้าวตาม แต่เจ้าของร่างบางก้าวมาขวางไว้ “ทำไม จะรีบตามไปให้เขาหม้ออีกหรือไง” เขากระชากเสียงห้วน เดินลงมาประชิดตัวเธอ วีรนุชก้าวถอยหลังทันที “บ้าสิ พี่เขาก็แค่หยอกเล่น” “แล้วปล่อยให้เขาหยอกแบบนี้ได้ไง นี่เขาเรียกหมาหยอกไก่ ถ้าไก่มันโง่ หมามันก็พร้อมจะขย้ำ” น้ำเสียงเขาหงุดหงิดยิ่งนัก “ทีกับโป้งล่ะ หวงเนื้อหวงตัว อยากจะลืม ทำไม อยากได้มันเป็นผัวใช่มั้ย” “นุชจะไม่คุยกับโป้งเรื่องนี้ กลับเข้าไปทำงานเถอะค่ะ อย่าให้คนอื่นต้องรอนาน มันไม่ดีกับโป้ง” “ต่อไปนี่เป็นคำสั่ง ห้ามอยู่สองต่อสองกับไอ้คนหน้าหม้อนี่อีก แล้วก็อย่าปล่อยให้เขาหยอกแบบนี้ด้วย” เขายังไม่วายเอาแต่ใจ “ค่ะ” หญิงสาวรับคำง่ายๆ อย่างต้องการตัดบท “ทำไม รำคาญโป้งนักหรือไง” เขาตีรวน ก้าวเข้าหาเธออีกหน “เบื่อผัวเก่าแล้วใช่มั้ย” “ทุเรศ” วีรนุชพ่นคำนั้นออกไป มองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ “ไม่ให้คนอื่นพูดจาน่าเกลียดกับนุช แต่ดูที่ตัวเองพูดสิ” “ก็โป้งเป็นผัวนุชจริงๆ นี่ หรือต้องให้รื้อฟื้นอีก ถึงจะจำได้” พูดจบเขาก็ดึงร่างเธอไปจนชิดร่างเขา ก้มลงจูบอย่างอย่างรวดเร็ว หญิงสาวพยายามบ่ายหน้าหนี เขาก็ผลักร่างเธอไปจนชิดกำแพง “นุชเป็นเมียโป้ง ก็ต้องเป็นเมียโป้งตลอดไป จำไว้” จบคำพูดนั้น เขาก็จูบเธอแรงๆ อีกครั้ง จึงยอมปล่อย จากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างใน ทิ้งวีรนุชให้หอบหายใจรัวๆจากความโกรธ และจากการออกแรงปลดปล่อยตัวเองจากวงแขนของเขา สักพักจึงค่อยๆ ก้าวตามเขาเข้าไป โดยหารู้ไม่ว่า มีใครบางคนซึ่งนั่งพักอยู่บันไดชั้นล่าง ได้ยินคำพูดนั้นหมดทุกคำแล้ว! หลังจากนั้น การทำงานก็เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาใดอีก แต่ปัญหาตามมาหลังจากนั้น เมื่อภาวินีรู้เรื่องนี้เข้า เธอก็ต่อสายตรงหาพี่โยทันที “ตกลงโป้งมีแฟนแล้วเหรอ พี่โย ตกลงไม่มีเรื่องคู่จิ้นแล้วใช่ป่ะ” “ยังมีจ้า ไม่ต้องเป็นห่วง พีอาร์คนนั้นไม่ใช่แฟนโป้ง แต่โป้งมันก็ติดคนง่ายไปทั่ว อ้อนใครเขาไปทั่วนั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก” “แล้วไป นึกว่าโป้งจะดื้อกับค่าย เพราะตอนนี้ใครๆ ก็ต้องฟังเขา ยอมเขาทั้งนั้น” น้ำเสียงสะบัดนิดๆ คล้ายไม่พอใจ “มันก็ควรเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ คนมีความสามารถแบบโป้งก็ควรจะมีใครฟังเสียงของเขาบ้าง” พี่โยย้อนกลับ ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก็เอ่ย “ถ้าพี่ยืนยันแบบนี้ วินีก็สบายใจหน่อย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD