คำสารภาพ

1000 Words
พอวางแก้ว ปากเธอก็เบะ น้ำตาเริ่มไหล “อยากระบายก็ระบายมา ไม่ต้องมีฟอร์มหรอกน่า เราคนกันเอง” ธาริตเอื้อมมือไปตบบ่าเธอเบาๆ อย่างต้องการให้กำลังใจ “เขาทิ้งไปล่ะสิ” “ไม่ได้ทิ้ง แต่เขาไล่เลยละ” “ก็เขาหมดรักเราแล้ว เขาจะไยดีทำไมเล่า สู้เอาเวลาไปเอาคนใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ” น้ำเสียงของเขาก็ขมขื่นไม่แพ้กัน “เดี๋ยวๆ หมายถึงเอาอกเอาใจใช่มั้ย” “หึ หมายถึงเอากันนี่แหละ” หญิงสาวหัวเราะขำ ก่อนจะเขม้นมองหน้าหวานๆ เหมือนผู้หญิงนั้นครู่หนึ่งก็ชี้หน้า “ฮะฮะฮะ อกหักมาเหมือนกันเหรอ” “อกหักมันน่าขำตรงไหนไม่ทราบครับ คุณวีรนุช” เขาแกล้งทำเสียงเคร่งใส่เธอ แล้วก็หัวเราะออกมาด้วย “แต่เลิกไปก็ดีอย่าง มีเวลาเที่ยวมีเวลากินเหล้า โคตรอิสระ” “ใช่ อยากไปไหนก็ได้ไป อยากกินอะไรก็ได้กิน นี่นะ หลังจากเลิกกับมันนะ เราซัดน้ำอัดลมเป็นลิตร กินไอติมสามถ้วย โดนัทสามชิ้น หึ โคตรอร่อย” ธาริตหัวเราะดังกว่าเดิม “เดี๋ยวๆ แฟนเป็นนักโภชนาการหรือไง” “ใช่ดิ ไม่ให้นุชแตะของพวกนั้นแม้แต่นิ้ดเดียว น้ำตาลนุชก็ตกสิ นุชกลายเป็นคนขี้โมโห ขี้หงุดหงิด แล้วเขาก็เบื่อ เลยไปหาหนูทดลองสูตรลดน้ำหนักคนใหม่” “ส่วนโป้ง ห้ามปาร์ตี้ อ้อ ไม่ใช่สิ ไปปาร์ตี้ได้ แต่ห้ามเกินอาทิตย์ละวัน และห้ามดื่มเด็ดขาด ระหว่างปาร์ตี้ต้องวิดีโอคอลให้เห็นว่าไม่ได้ดื่มจริงๆ” “โวะ!” เธออุทานด้วยความอึดอัดแทน ก่อนหยิบเบียร์รินให้เขาบ้าง “งั้นมีโอกาสดื่มแล้วก็ดื่มซะ เพราะหลังจากนี้ อาจจะหาโอกาสดื่มยากอีกครั้ง” “หือ? ยังไง?” “ก็อาจจะต้องทำงานหนักมากขึ้นไง” เขาส่ายหน้า “ไม่หรอก กลับไปนี่โป้งก็คงกลับบ้านต่างจังหวัด ไปสานต่อรีสอร์ทของครอบครัว” “เรื่องร้องเพลงล่ะ” “ก็คงไม่หยุดหรอก อย่างน้อยก็ร้องให้แขกที่มาพักฟังไง ไม่ต้องห่วง โป้งรักการร้องเพลงมาก หยุดไม่ได้หรอก” ตอนที่พูด เขาเหม่อมองออกไปนอกบ้านที่ตอนนี้ฝนก็ยังคงตกต่อเนื่อง วีรนุชมองเขาด้วยแววตาสงสารและเห็นใจ คนร้องเพลงเพราะอย่างเขา ควรจะได้ร้องเพลงให้คนฟังทั้งประเทศไปนานๆ สิ เมื่อเบียร์ขวดนั้นหมด หญิงสาวก็ขยับตัว “นุชว่านุชควรไปนอน” “ไปนอนก่อน เดี๋ยวโป้งตามไป” เธอพยักหน้า เอื้อมมือไปตบบ่าเขาเพื่อส่งกำลังใจให้รอบที่เท่าไหร่ไม่อาจนับ ธาริตรีบจับมือเธอเอาไว้แล้วบีบเบาๆ “ขอบคุณมากนะนุช ขอบคุณ” วีรนุชยิ้มกว้างให้เขา แล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปก่อน แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าเขาเดินตามขึ้นมาติดๆ “อ้าว ไม่ดื่มต่อเหรอ” “พอดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ทัน อีกอย่าง กลัวไฟจะดับด้วย ฝนยังไม่หยุดเลยอ่ะ...” เมื่อเดินมาถึงห้องนอนซึ่งมีเพียงห้องเดียวเข้าไป ก็พบว่าฟูกนุ่นเนื้อหยาบถูกปูไว้เรียบร้อยแล้ว “เอางี้ โป้งนอนในห้อง เดี๋ยวนุชไปนอนข้างนอกเอง ขอแค่ผ้าห่มผืนหนึ่งก็พอ” วีรนุชตัดสินใจแบบนั้น พูดจบเธอก็ก้มลงหยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมา แต่ธาริตคว้าข้อมือเธอเอาไว้ “โป้งจะปล่อยให้ผู้หญิงไปนอนข้างนอกแบบนั้นได้ไง นอนที่นี่แหละ...” แล้วเขาก็มองไปรอบๆ ห้อง “ยังกะในละครเลยนะเนี่ย อยู่ๆ ก็ได้มาติดฝนอยู่กับนางเอก” “ขอเป็นตัวประกอบก็พอค่ะ” เธอตอบกลับไปเสียงขรึม นึกถึงเหตุการณ์ตอนเธอสระผมให้เขา แล้วเขาทำเฉยชา ซึ่งมันอาจหมายถึงเขาไม่อยากสนิทกับเธอ เธอก็ไม่อยากพูดเล่นกับเขาอีกแล้ว ความจริง เธอก็ไม่อยากคิดมากหรอก แต่เพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา การแสดงออกแบบนั้นมันทำให้เธอหน้าชา รู้สึกเหมือนตัวเองพยายามตีสนิทคนมีชื่อเสียง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำอยู่แล้ว ที่ชวนเขาไปทานข้าว ชวนเขาไปเที่ยวด้วย ก็เพราะเห็นท่าทางเหงาๆ ก็แค่นั้น “นุชเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามพลางพยายามเพ่งมองใบหน้าของเธอผ่านความสลัว “นุชจะนอนแล้ว” “ท่าทางเหมือนงอนโป้งนะ” เขาเอ่ยยิ้มๆ “ไม่ได้งอน แค่แปลกใจอะไรนิดหน่อยน่ะ ช่างเถอะ ไม่สำคัญหรอก” “สำคัญสิ สำคัญมากด้วย...” หญิงสาวเงียบและทรุดกายลงนั่งบนฟูก เตรียมตัวนอน ไม่เอ่ยอะไร “โป้งอยากให้มีอะไรเราก็คุยกัน เคลียร์กัน ไม่เก็บไว้เพื่อให้บั่นทอนจิตใจกันตอนหลังน่ะ” เสียงเขาดังขึ้นอีก พร้อมร่างของเขาที่กระเถิบเข้ามาใกล้เธออีกนิด “มันไร้สาระน่ะ ช่างเถอะ นอนดีกว่า” “ยิ่งนุชพูดแบบนี้ โป้งยิ่งรู้ว่ามันไม่ไร้สาระเลย แต่ตรงข้าม มันสำคัญกับนุชแน่ๆ บอกโป้งได้ไหมครับ” วีรนุชเงียบไปครู่หนึ่ง ก็ยอมเอ่ยสิ่งที่ค้างคาในใจ “นุชแค่รู้สึกว่านุชทำตัวไม่ถูก บางทีโป้งก็เป็นกันเอง แต่บางทีโป้งก็ไว้ตัวกับนุชมาก” “ไว้ตัว? ตอนไหนที่โป้งทำให้นุชรู้สึกแบบนั้น” เขาถามด้วยสีหน้างงๆ “ก็ตอนสระผมไง แรกๆ โป้งก็พูดจาเล่นกับนุชดี แต่จู่ๆ โป้งก็ไม่พูดไม่จากับนุช ...นุชจำเป็นต้องคิดมากนะ เพราะโป้งไม่ใช่คนธรรมดา” ชายหนุ่มทำท่าคิดครู่หนึ่งก็พยักหน้าอย่างนึกได้ เขายิ้มน้อยๆ ก่อนตอบ “อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร...นั่นไม่ใช่การไว้ตัว มันคือความตกใจ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD