เจอกันอีกครั้งก็อยากอีกครั้ง

1366 Words
ปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง ทุกคนดูผ่อนคลาย เพื่อนๆ ของวีรนุชทั้งสองคนก็เป็นคนเข้ากับคนง่าย คุยหัวเราะได้ในเวลาไม่กี่นาที ครั้งหนึ่ง วีรนุชขอตัวไปหยิบของจากในครัวมาเพิ่ม ธาริตค่อยๆ ลุกขึ้น บอกทุกคนว่าขอเข้าห้องน้ำ จากนั้นจึงเดินตามเธอไป เขากวาดตามองเธอจากด้านหลัง ไล่จากเรือนผมที่กระจายเต็มหลัง เอวคอดกิ่ว สะโพกกลมกลึงในกางเกงขาสั้นพอดีตัว เรียวขายาวจนถึงข้อเท้าเรียวเล็ก ทั้งหมดนั้นเขาได้ครอบครองเป็นเจ้าของแล้วและตอนนี้เขาก็คิดถึงมันมากด้วย เขาอยากกอดอยากสัมผัสมันอีกครั้ง กระแสจิตเขาคงแรงพอดู เพราะอยู่ๆ คนที่ยืนหันหลังก็หันขวับมามอง พอเห็นว่าเป็นใคร เธอก็ชะงักไปเล็กน้อย “คุณโป้งต้องการอะไรเหรอคะ เดี๋ยวนุชหยิบให้” “หยิบเองได้” พูดจบเขาก็ก้าวประชิดตัวเธอ และสวมกอดเอาไว้ “นี่ไงสิ่งที่โป้งต้องการ” พูดจบเขาก็ก้มลงจู่โจมริมฝีปากที่เขาถวิลหาตลอดสองปีที่ผ่านมา “อื้อ อย่าค่ะ” หญิงสาวบ่ายหน้าหนีและพยายามผลักไสเขา “คนใจร้ายต้องโดนลงโทษ” เขากระซิบชิดปากนุ่มและประกบปากกับปากเธออีกครั้ง มือข้างหนึ่งรั้งต้นคอเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอขยับตัวได้ ครู่ต่อมา เธอก็สงบลง และยอมให้เขาดูดเอาความหวานหอมจากโพรงปากได้ตามอำเภอใจ เขาจูบเธอด้วยความคิดถึงโหยหาสุดหัวใจ เธอเองก็เผลอส่งบอกความรู้สึกของตนให้เขาทราบเช่นกัน ระหว่างนั้นเองก็มีเสียงร้องถาม “ได้หรือยังนุช” ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่กำลังตรงมา เป็นภาสกร เพื่อนของวีรนุชนั่นเอง วีรนุชรีบบ่ายหน้าหนี ธาริตยังไม่ยอมปล่อย ดี เขาจะให้หมอนั่นเห็นและรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา! แต่หญิงสาวก็รีบใช้สองมือผลักอกเขาออกแรงๆ รีบจัดผมให้เข้าที่ก่อนภาสกรจะเข้ามาเพียงไม่กี่วินาที “อ้อ โป้งอยู่นี่ด้วย” ภาสกรทักด้วยความแปลกใจ วีรนุชรีบหันหลังแล้วเดินไปหยิบของ ขณะที่ธาริตยืนอยู่ที่เดิม ผู้มาใหม่กวาดตามองทั้งคู่แวบหนึ่งก็บอก “ของได้หรือยังนุช พี่พอลรออยู่” “ได้แล้วจ้ะ” พูดจบวีรนุชก็เดินออกจากตรงนั้นพร้อมด้วยกระปุกซอสที่พี่ชายเรียกหา ภาสกรก้าวตามทันที ธาริตยกมือเสยผมด้วยความหงุดหงิด ความคิดถึงยังไม่ลดลง ความหวงแหนยิ่งพลุ่งพล่านหนักเข้าไปอีก เมื่อออกมานอกห้องครัวแล้ว ธาริตก็มองจ้องวีรนุชแทบตลอดเวลา ยิ่งเห็นเธอคุยกับภาสกร เขาก็ยิ่งจ้องสลับกับหยิบเครื่องดื่มเข้าปาก จนพี่โยต้องร้องห้าม “เฮ้ย ดื่มหรืออาบว่ะนะ เบาๆ หน่อย พรุ่งนี้มีงานนะ” “ใช่ เดี๋ยวเส้นเสียงก็พังพอดี” ภาวินีว่า พลางก็เอียงคอมองเขาอย่างพิจารณา “เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาวางสายตาไปทางวีรนุชขณะเอ่ย “เป็น มากด้วย” วีรนุชหลบสายตาเขาแล้วก้มลงเล่นโทรศัพท์ “เป็นอะไร ทำท่ายังกะ...คน...อยากมีเมีย” แล้วภาวินีก็หัวเราะขำ เพราะในความคิดของเธอแล้ว ธาริตเป็นเกย์ ตั้งแต่รู้จักกันมา เธอไม่เคยเห็นแฟนผู้หญิงของเขา อ้อ แฟนผู้ชายก็ไม่เคยเห็น แต่เธอคิดว่ารู้รสนิยมของเขาดี ที่แกล้งๆ เข้าใกล้เขา ยั่วเขาบ้างเวลาไปดื่มด้วยกันก็แค่อยากแหย่เขาเล่นเท่านั้น ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาชอบเธอ อาจจะหวังให้เธอเป็นแฟนออกหน้าและเพื่อปิดบังรสนิยมที่แท้จริงนั่นละ ได้ยินประโยคนั้น ทั้งธาริตและวีรนุชก็เงยหน้ามองกันโดยอัตโนมัติ ก่อนที่หญิงสาวจะก้มลงมองจอมือถือตามเดิม “อื้อ อยากมากด้วย” ตอนที่พูด สายตาเขายังไม่ละจาก ‘เมีย’ “อุ๊ย! มาแรง” ภาวินีหัวเราะคิก ก่อนเขยิบเข้าใกล้เขาอย่างจงใจยั่ว “อยากรับหน้าที่นี้ให้อะ สนป่ะ” วีรนุชเงยหน้าจากมือถือขึ้นมาเขม้นมอง ธาริตยิ้มมุมปาก ขณะโอบไหล่ภาวินีเอาไว้ “ก็ดีสิ ถ้าเป็นวินีก็ได้อยู่แล้ว” ดาราสาวหัวเราะร่วน เอนกายพิงไหล่ของเขาแล้วก็พิงอยู่อย่างนั้นอีกครู่ใหญ่ถึงยอมขยับตัว ธาริตจ้อง ‘เมีย’ ไม่วางตา ก็เห็นว่าเธอลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนั้นไปด้วยสีหน้าคล้ายไม่พอใจนัก ชายหนุ่มก็ยิ้มพึงพอใจ ปาร์ตี้สิ้นสุดประมาณห้าทุ่มกว่า เพราะพรุ่งนี้ธาริตมีงานแต่เช้า ชายหนุ่มอ้อยอิ่งไม่อยากกลับ เขาอยากหาโอกาสคุยกับวีรนุชอีก แต่ก็จนใจเพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยสักนิด ที่สุดเขาก็จำต้องกลับ แต่คืนนั้นกว่าจะหลับได้ก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่แล้ว “ได้นอนหรือเปล่าครับเนี่ย” พอลทักเมื่อเจอกันตอนเช้าที่บ้านของธาริต “นอนไม่ค่อยหลับ นอนเร็วไปหน่อย” เขาตอบติดตลกก่อนหัวเราะเบาๆ “เออนี่ น้องสาวนายทำงานอะไรน่ะ มีงานทำหรือเปล่า ถ้าไม่มี เดี๋ยวฉันช่วยหาให้ก็ได้นะ” เป็นคำพูดที่ไม่ได้ทำให้พอลแปลกใจสักนิด เพราะเท่าที่ทำงานด้วยกันมา บอดี้การ์ดหนุ่มรับรู้ตลอดว่า ธาริตเป็นคนมีน้ำใจกับคนรอบข้างมาก “มีครับ เขาเป็นพีอาร์ของค่ายนี่แหละ แต่ดูแลนักร้องคนอื่นอยู่” ธาริตหูผึ่ง แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ “งั้นเหรอ ทำนานแล้วเหรอ ทำไมไม่เคยเห็น” “เพิ่งทำครับ เข้าพร้อมๆ ผม” นักร้องหนุ่มพยักหน้ารับทราบ พลางก็นิ่งคิดอะไรบางอย่างไปด้วย... “อะไรนะคะ นุชต้องไปดูแลโป้งเหรอคะ” วีรนุชอุทานด้วยความตกใจอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของค่าย “นุชทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่าคะ ถึงไม่ให้นุชดูแลออยแล้ว” ออยที่เธอว่าคือดารา-นักร้องสาวที่กำลังโด่งดังอีกคน “เปล่าจ้ะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการทำงานของนุชเลย” หัวหน้าสาวใหญ่เอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจ “จริงๆ เราอยากให้ช่วยกันน่ะ บางงานแค่พี่โยก็อาจจะเอาไม่อยู่ ต้องหาคนไปช่วย” “คนเก่งๆ กว่านุชมีเยอะแยะไปนะคะ ทำไมต้องเป็นนุชด้วย” “ก็ค่ายเลือกนุช เขาก็คงมีเหตุผลของเขา” วีรนุชส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “ถ้าเป็นค่ายต้องเลือกพี่ก้อย พี่แอมป์ ไม่ใช่คนที่เพิ่งทำงานอย่างนุช” “ดูถูกตัวเองไปแล้วนุช ถึงจะเพิ่งทำงานที่นี่ แต่นุชก็เคยทำที่อื่นมาก่อน...ไปจ้ะ เตรียมตัวได้แล้ว วันนี้โป้งมีถ่ายหนังสือ นุชต้องไปด้วย” วีรนุชถอนหายใจยาวๆ ด้วยสีหน้าหนักใจ ทำไมเธอถึงไม่เชื่อว่าค่ายจะเป็นคนสั่งนะ แต่เธอก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าเป็นฝีมือ ‘เขา’ หญิงสาวกดลิฟต์ลงไปยังชั้นที่เป็นลานจอดรถ ที่นั่น พี่ชายของเธอในฐานะบอดี้การ์ดยืนรออยู่แล้ว เห็นสีหน้าของเธอ เขาก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่แน่ใจ “อ้าว นี่อย่าบอกนะว่านุชต้องมาดูแลโป้ง” คนเป็นน้องพยักหน้า “ค่ะ” “แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่ดีใจหรือไง ดูแลซุปตาร์เชียวนะ” “ไม่รู้สิคะ นุชไม่รู้จะรู้สึกยังไง คือ...นุชคิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอที่จะดูแลคนระดับโป้งน่ะค่ะ” พี่ชายยกมือแตะลงบนศีรษะได้รูปสวยของน้อง “อย่าให้เงินที่พี่ส่งเราไปเรียนเมืองนอกเสียเปล่าสิ เราทำได้อยู่แล้ว โป้งน่ะ ไม่ใช่คนเรื่องมากนะ ออกจะง่ายๆสบายๆ ติดดิน แถมมีน้ำใจอีกต่างหาก ทำงานกับเขา เราได้ความสบายใจแน่นอน” หญิงสาวยิ้มแห้งๆ เธอหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD