10. เกือบจะดี

1140 Words
“เฮ้ยเสียงไรวะ น่ารำคาญ” “อยากนอนเงียบๆ ก็กลับบ้านมั้ยครับบอส มึงนี้มาเป็นภาระกูจริงๆ” พชรหันไปต่อว่าเพื่อนรักที่อยากมาเที่ยวผับในไทย วราริชดื่มหนักราวกับว่าหิวกระหายเหล้าจนเมาและหลับสลบเหมือดคาโซฟา “ทำไมพวกมึงไม่แดกกันวะ” คนเมากันมองขวดเหล้าที่ไม่พร่องลงเลย ก่อนหลับจำได้ว่ามันลดไปค่อนขวดและมันก็ยังเท่าเดิม “คืนนี้กูพอแหละ หมดอารมณ์” เป็นเพราะสาวสวยคนนั้นที่สายตาคนเจ้าชู้แอบมองเธอเป็นครั้งคราวออกฤทธิ์เดชจนหมดความประทับใจ นอกจากพชรจะไม่ได้สั่งเครื่องดื่มให้ตามที่เธอคนนั้นเข้าใจ แถมยังเดินมาเหวี่ยงใส่พร้อมกับหอมแก้มแฟนสาวโชว์ให้ดูอีกหนึ่งที ผู้หญิงสมัยนี้ก็หันไปคบเพศเดียวกันคงเพราะเบื่อผู้ชายชั่วๆ ที่จ้องแต่จะฟัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขาไม่ใช่ใคร และในขณะที่กำลังจะออกมาหาที่นั่งพักสูบบุหรี่สักตัวปรับสภาพความจิตใจ ก็เจอกับคู่รักเลสเปี้ยนนั่งกอดกันอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม “กลัวคนไม่รู้เหรอว่าเป็นแฟนกัน” “พูดกับฉัน” น้ำเสียงค่อนขอดลอยมาจากด้านหลังและด้วยสัญชาตญาณอ้ายอันจึงหันมอง สายตาสั้นๆ มองหน้าตาใครไม่ออก แต่น้ำเสียงแบบนี้คงไม่พ้นผู้ชายจากโต๊ะนั้นเป็นแน่ และอีตัวก่อเรื่องก็เมาหลับไปแล้วเธอจึงไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่จะมาคว้าแขนเอลี่ไว้ “ถ้าหวงกันขนาดนั้นก็อย่าปล่อยให้ออกมาเที่ยวคนเดียว” “ถ้ามันก่อเรื่องอะไรไว้ก็ขอโทษด้วย” อ้ายอันรู้ดีว่าเอลี่เมาอาการเป็นยังไง มันมักทำอะไรเหนือความคาดหมาย แต่ละครั้งตั้งตัวรับแทบไม่ทัน “มัน? คุณเรียกแฟนแบบนั้นกันเหรอ” “มีปัญหาอะไรรึเปล่าห้ะ ผู้หญิงคบกันแล้วมันยังไง” “ถ้าอะไรที่ผมทำให้รู้สึกว่าผมเหยียดผมขอโทษแหละกัน ผมไม่มีเจตนาแบบนั้น ผมแค่เห็นว่าพวกคุณเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง” “แค่คำขอโทษก็ยังดูไม่จริงใจและฟังยังไงก็ดูเหยียดอยู่ดี” อ้ายอันหันต่อว่าทางสายตาและหันกลับมาสนใจคนเมาข้างกาย เพื่อนรักคล้อยหลับลงอย่างสบายใจ ลืมอะไรไปรัเปล่าว่าตอนนี้พวกเธอทั้งสองยังนั่งตากยุงอยู่หน้าผับ และคนที่มารับก็เหมือนคนตาบอดที่มองอะไรแทบไม่เห็น “ริ! มึงตื่นสักทีซิ” “ไอ้ริ! ถ้าไม่ตื่นกูทิ้งไว้นี้นะเว้ย” “ริ! // แล้วนี้จะกลับกันยังไงครับ” สุภาพบุรุษนายหนึ่งยืนสูบบุหรี่เพื่อผ่อนคลายอารมณ์อยู่ไม่ไกลอดไม่ไหวต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ยังไงผู้ชายก็ยังแข็งแรงกว่าผู้หญิง แต่ผู้หญิงสองคนนี้แปลกชะมัด “ถามทำไม” “โอเค๊! ขอโทษทีเสือกแหละกันครับ” อีกครั้งที่ความหวังดีถูกมองเป็นอย่างอื่น พชรจึงช่างเธอทั้งสองคน ปล่อยให้คู่รักสองสาวเขาดูแลตัวเองไป และไม่ทันที่จะก้าวขาเดินได้สองก้าวเสียงร้องว้ายของสาวก็ดังลั่น “เฮ้ยคุณ!” คนเมาร่วงลงไปนอนกองส่วนอีกคนก็พยายามประคองเธอขึ้นมา แต่ขนาดตัวที่ไม่ได้ต่างกันนักมันจึงดูทุลักทุเล “นี้นายจะทำอะไร” อ้ายอันตะโกนใส่เพราะคนตัวใหญ่เข้ามาถึงเนื้อถึงตัวคนเมา แต่แรงมดอย่างเธอจะไปสู้อะไรเขา ชายหนุ่มอุ้มตัวเอลี่วางบนโซฟาอย่างง่ายดาย “จะให้แฟนคุณนอนกับพื้นรึไง” อ่า.... เจ้าตัวไม่มีอะไรจะเถียงได้เธอควรรีบไปจากตรงนี้ดีกว่าก่อนที่นางตัวภาระจะทำตัวเป็นปัญหามากกว่านี้ Peep peep ณ ลานจอดรถที่มืดๆ มีแสงสว่างวาบแวบๆ และเสียงปี๊บดังอยู่สองที คนสายตาสั้นพยายามกดรีโมทรถเอลี่และมองหาว่ามันจอดอยู่ตำแหน่งใด “อยู่ไหนวะ” มันค่อนข้างยากสำหรับคนสายตาสั้น การจะมองหารถสีดำที่จอดอยู่ในระยะไกลๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย และความพยายามที่คนสายตาปกติไม่เข้าใจก็น่าหงุดหงิดจนต้องเข้าไปวุ่นวายอีกหน “เอามานี้” “เฮ้ย!” “ดูแลแฟนคุณเถอะเดี๋ยวก็ลงไปกลิ้งกับพื้น” พชรคว้ากุญแจในมือไปถือเอง เขาไม่เข้าใจว่าจะกดรีโมทอะไรขนาดนั้น รถมันก็ตอดอยู่ไม่ได้ไกล ในขณะที่ชายแปลกหน้าแย่งกุญแจรถและเดินจากไป อ้ายอันต้องสิ่งกลับมาประคองคนเมา ถ้าชายคนนั้นขโมยรถขับหนีไปเธอก็คงตามไม่ทัน เอี๊ยด! รถสีดำเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจอดเลียบข้างทาง พชรขับมาจอดให้พร้อมกับเปิดประตูรอ เขาทนมองภาพทุลักทุเลของคู่รักไม่ไหว สุดท้ายต้องขอเสือกอีกที ตุ๊บ! คนเมาถูกวางอย่างแผ่วเบาที่เบาะหลังรถมินิคันน้อยสีดำ จบสิ้นกันสักทีเนาะคืนนี้ การเป็นพลเมืองดีบางทีก็ไม่ได้คำขอบคุณ พชรผลักประตูปิดก่อนจะผายมือให้อีกคนขึ้นประจำตำแหน่งคนขับออกสีหน้าไล่คู่รักเลสเปี้ยนกลายๆ “อ่า...ขะ ขอบคุณ” “ห้วนฉิบหาย เชิญ!” ปัง!! อ้ายอันค้อมหัวให้กลายๆ เช่นกันเพราะเธออยู่ในอาการงงไปหมดว่าเหตุใดคนปากเสียจึงกลายเป็นพลเมืองดีที่มีน้ำใจขนาดนี้ แวบแรกที่เจอคิดว่าเป็นเสือผู้หญิงที่จ้องจะฉวยโอกาสลากไปกินในโรงแรมด้วยซ้ำ เธอเผลอตัดสินใจอื่นจากความคิดของตัวเองเมื่อรู้สึกผิดจึงกล่าวคำขอบคุณแล้วรีบจากไป แต่ทว่า! คนสายตาสั้นอย่างอ้ายอันมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าขอบฟุตอยู่ตรงไหนจึงเร่งเครื่องใส่จนชนดังปัง! “ตายแล้ว!” “ใช่มันได้อย่างนี้!” พลเมืองดีคนเดิมกำลังจะเดินกลับเข้าร้านแต่พชรก็ต้องรีบวิ่งออกมาดู รถมินิคนเดิมกับตัวปัญหาขับอีท่าไหนวะ ปีนฟุตบาทหน้าผับดัง “ตายแน่ กูตายแน่ๆ” อ้ายอันรู้ดีว่าเอลี่รักเจ้าสีดำคันนี้มากแค่ไหน รอยข่วนเท่าเล็บแมวมันยังยอมไม่ได้ นี้เธอดังชนกับฟุตบาทจนบุบเลย “ขับรถไม่เป็นรึไง” “มองไม่เห็นเว้ย” “สูงขนาดนี้มองไม่เห็น” “ก็ถ้าเห็นใครจะขับให้ชน” ตอนนี้คนเมายังคงหลับสนิทที่เบาะหลังโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ พชรจึงเสนอตัวขับรถไปส่งคู่รักดนตรีไทยให้ถึงจุดหมาย เพื่อให้จบเรื่องคืนนี้สักที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD