“อยู่กันครบใช่ป่ะ คืนนี้ออกมาเจอกันหน่อยสิ”
“ฮิ้ว...!! ไอ้เฮียริชของพวกเรากลับไทยมาแล้วเว้ย”
“ไอ้ตี๋หิดไม่ติดเมียฝรั่งแล้ววะ ได้กลับบ้านแล้ว”
“ติดเชี่ยไร! อย่างกูไม่มีติดเว้ย เลิกเห่อนานแล้ว”
“เหรอ! หรือว่าข่าวที่ท่านวรรัตน์ตัดชายลูกชายปล่อยวัดคงจะจริง”
กรุ๊ปแชทที่หนุ่มๆ สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเอาไว้คุยสัพเพเหระทั่วไป มันเคยร้างจนเหมือนไม่มีใครใช้งาน แต่วันนี้กลับคึกคักขึ้นมาอีกคราว
“อยากเปลี่ยนอารมณ์เที่ยวผับไทยรึไงมึง”
“แล้วเมียแหม่มล่ะ”
“นั่นสิ ยังไง”
จริงอยู่ว่าเหตุผลหนึ่งที่วราริชไม่ยอมกลับมารับตำแหน่งต่อจากบิดาเสียทีก็คือแฟนสาวผมบรอนด์ เขาคบหากับเจ้าหล่อนตั้งแต่ตัวเองยังเป็นแค่เด็กฝึกงาาในอู่แต่งรถซิ่งของเมืองหนึ่ง จนกระทั่งสถานะทางครอบครัวถูกเฉลย
จากที่เคยใช้ชีวิตแบบคู่รักอเมริกาทั่วไป เช่าอพาร์ทเมนต์เดือนละไม่กี่เหรียญ ทำงานพิเศษหลายที่เพื่อให้พอกับค่าใช้จ่าย แต่คุณเธอกลับอยากใช้ชีวิตที่ดีกว่าเก่า
ฝ่ายชายเข้าใจความรู้สึกของเธอดีว่าเธอต้องอยากสุขสบายกว่านี้ แต่ใครจะนึกว่าแฟนแหม่มจะเรียกร้องเอาเงินทองมากมายเพื่อชดเชยเวบาที่ต้องทนลำบากมานานปี เธออยากทิ้งชีวิตเดิมๆ แล้วกลายร่างเป็นเจ้าหญิง
จากที่ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานกลับเร่งเร้าวราริชทุกคืนวัน ร้องให้ซื้อรถ ซื้อบ้าน และย้ายถิ่นฐานให้อยู่อเมริกาแบบถาวร
“กูโสด”
“ถามจริง”
“ถามไอ้พี”
“เดี๋ยว! ถามกูทำไม”
คนที่รู้เรื่องราวในชีวิตเขามากที่สุดน่าจะเป็นพชร เพราะมันไม่เคยห่างหายเพื่อนคนนี้ไปไหนแม้หน้าที่ที่แบกรับจะหนักหนาก็ตาม
“เอาน่า! ฉลองที่กูกลับมา คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ ดื่มกันยันเช้าเหมือนอย่างเคย”
เมื่อถึงเวลานัดหมายเหล่าชายฉกรรจ์ทั้งสี่นายนั่งล้อมโต๊ะกระจกทรงกลม บนนั้นไม่ทีกับแกล้มหรือสิ่งอื่นใดนอกจากแก้วใสเตี้ยๆ บรรจุของเหลวสีทอง
“มาผับทั้งทีเสือกนั่งมุมในสุด”
“มึงไม่นั่งแดกอยู่บ้านวะ”
“พูดมาก! พวกมึงจะเหลือไว้ให้ยุงวางไข่รึไงวะ” คนเกือบเมาเริ่มโวยเมื่อเพื่อนๆ ไม่ค่อยดื่มสักเท่าไร วราริชเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเหล้าเพื่อน แต่ทว่าหนุ่มๆ กลัดมันเอาแต่สนใจสาวๆ โต๊ะอื่น
“สี่ทุ่มเอง! เฮียจะรีบไปไหนวะ”
“รีบ? กูไม่มีห่าอะไรให้ทำจะรีบเพื่อ”
“ไอ้ริชมึงช่วยเงยหน้าจากขวดและมองไปที่สองนาฬิกาสิ!”
พชรส่งสัญญาณให้คนโสดอีกคนมองตามที่สาวๆ พวกนั้นชม้ายชายตาใส่
ชายสี่ หญิงสี่ เข้าคู่ครบถ้วนอย่างตั้งใจ ถ้าเลือกที่จะไปต่อจะได้ไม่มีใครถูกทิ้ง ส่วนใครจะได้คนไหนต้องดีลกันเองแต่วันนี้พชรตะยกสิทธิ์ได้เลือกก่อนกับริชเพื่อนรัก
“ตีสองห่าอะไรตอนนี้สี่ทุ่ม” คนเกือบเมาก้มมองนาฬิกาเรือนสวยบนข้อมือตัวเอง
“ทางนู้นไอ้ห่า!” พชรจับหน้าวราริชหันไปทางโต๊ะสาวหน้าเวที พวกหล่อนเล่นหูเล่นตาให้อย่างเชื้อเชิญประดุจว่าแค่พยักหน้าให้ก็พร้อมคว้ากระเป๋าเดินตามไปที่รถ
ผับหรูกลางกรุงช่วยคัดคนมาเที่ยวในระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆ หนุ่มและสาวที่มาใช้บริการต้องกระเป๋าหนักพอตัว และพวกเขาก็คงมาเพื่อปลดปล่อยความเครียดและหาความสำราญชั่วข้ามคืนเท่านั้น
“มึงนี้ดีคงเส้นคงวาจริงๆ”
“เดี๋ยวก่อน! นี้ชมหรือด่ากูวะ” พชรแปลกใจ
วราริชไม่ใช่คนที่จะเอ่ยปากชมใครได้ง่ายๆ
“ดีไม่ห่างเหิน”
“เดินไม่ห่าง...อ๋อ! มันแน่นอนอยู่แล้วป่ะเรื่องนั้น” พชรไม่แยแส
หนุ่มเจ้าสำราญยังไม่คิดตกลงปลงใจคบใครจริงจัง เพราะชีวิตแบบเต็มที่กับทุกอย่างมันเหมาะสำหรับเขา
เพราะจากพ่อแม่ที่ครองคู่รักกันยืดยาว พชรก็ไม่เคยเห็นความรักแบบนี้จากที่ไหน ตัวเขาไม่เคยเจอใครที่สามารถเข้ามาทำให้อยากแต่งงานด้วยสักคน
ฉะนั้นกลุ่มก๊วนหนุ่มหล่อรวย กล้วยใหญ่ ทั้งหลายจึงหาความสำราญต่อไปเรื่อยๆ
“กูไปนะ”
“เดี๋ยว!” วราริชรั้งแขนเพื่อนหูดำเอาไว้
เขาตั้งใจว่าดื่มฉลองให้เต็มที่ ที่ได้กลับไทยกับเพื่อนคนสนิทสนม
เพราะจากนี้ถ้าขึ้นรับตำแหน่ง CEO แห่ง GO Motor คงไม่มีเวลามาเที่นวเล่นแบบนี้
“มึงนี้แม่ง”
“มึงดูชุดดำโต๊ะนั้นดีกว่า”
“ไหน”
ถัดออกจากโต๊ะของชายหนุ่มไปไม่ไกล วราริชเห็นสาวชุดเดรสสีดำกำลังยืนโยกกายตามเสียงเพลงอยู่คนเดียว
เธอมาเที่ยว มาหาความสำราญโดยไม่ได้มาหาเหยื่ยแบบที่พชรมันเอาแต่จ้องมอง
“เมาเละขนาดนั้นอะนะ เอาไปทำไร” รสนิยมไม่ชอบผู้หญิงจนหนักจนเมามายเพราะมันไม่ได้น่ารักเอาซะเลย
เขาชอบคนที่ดื่มพอเป็นพิธีเพื่อให้แก้มแดงนิดๆ ให้ดูน่ารักพอประมาณ
“หรือมึงจะเอา”
“กูมาแดกเหล้า”
“ได้! เดี๋ยวกูพามาที่โต๊ะ”