บทที่2.

1619 Words
 บทที่2.ต่อมอยากรู้ตื่นตัว “ไม่ต้องมาอาย มีแค่แกกับฉันสองคน มีคนอื่นที่ไหนล่ะ” แก้วกัลยาบ่นอุบ เรื่องของผู้ชายใครๆ ก็อยากรู้ทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ไปขอดูดื้อๆ ไม่ได้ ไม่มีผู้ชายคนไหนเปิดให้ดูฟรีๆ มันต้องแลกด้วยบางอย่างที่ชวนสยิว “ใครกระตุ้มต่อมอยากรู้ขึ้นมาล่ะ ฉันไม่เคยเห็นแกกระวนกระวายแบบนี้นี่” แก้วกัลยาซักต่อ “พี่บอยสิ!!” อัญยิกาตอบเสียงกระแทก “ลูกชายเจ้าของตลาดน่ะเหรอ เกี่ยวตรงไหนวะ?” มันก็น่าที่จะอยากรู้หรอก เท่าที่แก้วกัลยาจำได้ ผู้ชายที่อัญยิกาเอ่ยถึง รูปหล่อ พ่อรวย และน่าจะ...อืม เธอหยุดคิด เพราะความคิดกำลังเตลิด “วันนี้เขามาหาพี่อ่ำที่บ้าน” “หมอนั่นกลับมาบ้านสิ” “คงงั้นแหละ” “แล้วทำไมล่ะ เขามาหาพี่แก ไม่ได้มาหาแกสักหน่อย” แก้วกัลยาท้วง สองหนุ่มนั่นเป็นเพื่อนซี้กัน คนทั้งหมู่บ้านรู้ นานๆ บวรจะกลับมาบ้านสักที ไม่แปลกหรอกที่เขาจะไปหาเพื่อนที่ตนเองสนิทด้วย “แหม...พูดยาก” “ลองพูดมาก่อนสิ ให้ฉันเดานะ ไอ้หมอนั่นคงมีอะไรให้แกสะดุดตาสินะ ต่อมความอยากรู้ของแกเลยกระพือ” แก้วกัลยาเสี่ยงเดา สีหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออกของเพื่อน มันบอกอะไรบางอย่างกับเธอ “ก็มีบ้าง” อัญยิกายอมรับเสียงอู้อี้ เพราะบวรมา ‘โชว์’ ของบางอย่าง ทำให้เธอกระหายอยากรู้ ถึงจะมีพี่ชายเป็นผู้ชาย แต่เวลาที่เห็นอำนาจเปลือย เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย “พี่แกไม่เคยแก้ผ้าให้ดูหรือไง ตื่นเต้นทำไมแค่เห็น...” “บ้า!! ฉันยังไม่ได้เห็น...สักหน่อย แค่...” หญิงสาวหยุดพูด พอจิตนาการถึงสิ่งที่ตนเองเพิ่งเห็นมาหมาดๆ พวงแก้มก็ร้อนซู่ซ่า “พูดตามตรงนะ หมอนั่นกับพี่ชายแก ฉันว่าพี่แกล่ำกว่าเยอะ” แก้วกัลยาวิจารณ์ อำนาจคมเข้ม รูปร่างทั้งสูง ทั้งยาว เรื่องในร่มผ้าไม่ต้องเดา หลายครั้งที่เธอเห็นพี่ชายเพื่อนกระโดดน้ำหน้าบ้านมีกางเกงผ้าร่มตัวเดียว เขาเป็นขวัญใจสาวบ้านนา แต่ยังไม่มีสาวคนไหนพิชิตใจอำนาจได้สักคน “มันก็จริง แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรกับพี่ฉันนี่หว่า” อัญยิกาแย้ง “แหงล่ะ แกจะไปรู้สึกอะไรกับพี่แกได้ล่ะ เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก” แก้วกัลยาตอบเสียงกลั้วหัวเราะ “กับหมอนั่น ฉันก็รู้จักเขามาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกันนี่” อัญยิกาแย้งหน้ามุ่ย “เห็นตอนเด็ก ไม่ได้รวมถึงตอนนี้นี่ ผู้ชายเปลี่ยนแปลงเร็วจะตาย” แก้วกัลยาแสร้งทำเป็นผู้รู้ ทั้งที่สองสาวก็แค่เดาเอาเอง ทั้งสองคนไม่เคยมีแฟน ไม่เคยรู้จักเพศตรงข้ามนอกจากพี่ชายของเธอ “ฉันอยากรู้นะ” อัญยิกาเอนตัวลงนอน เธอรำพันออกมาเสียงแผ่ว แก้วกัลยาเอนตัวนอนด้านข้าง “ฉันก็อยาก...เหมือนแกนั่นแหละ” สองสาวมีความคิดตรงกัน เพียงแต่ทั้งสองคนไม่มีความกล้า เธอเป็นแค่สาวบ้านนา ไม่ใช่สาวเมืองกรุงก๋ากั่น “วันนี้พ่อกับแม่แกไม่อยู่นี่หว่า” แก้วกัลยาชะโงกหน้าถาม “อืม...คงกลับพรุ่งนี้” อัญยิกาตอบ เธอยังหลับตา “หมอนั่นคงมาชวนพี่ชายแกกินเหล้าอีกแหละ” ทางสะดวกไม่มีผู้ใหญ่ขวางตา แถมนานๆ บวรจะกลับมาที มีหรืออำนาจจะไม่ชวนเพื่อนเขาดื่ม สองคนนั่นเป็นนักดื่มคอทองแดงเสียด้วย แม้จะมีอายุแค่21ปี แต่ทั้งสองคนกลับคอแข็ง คงเป็นเพราะอยู่ในวงการเหล้าต้มมาตั้งแต่ยังเด็ก สมัยเด็กแค่ช่วยผู้ใหญ่ พอโตขึ้นมาหน่อยก็ริอ่านทดลองเอง และก็ติดเป็นนิสัยจนโต หากมีเวลาว่างเป็นต้องทดลองต้มเหล้าท้องถิ่น มันเลยเป็นที่มาให้เขาทั้งสองคนคอแข็ง “แกไปนอนบ้านฉันไหม?” อัญยิกากระซิบถามเพื่อน แก้วกัลยาส่ายหน้าหวือ “พ่อฉันตีตาย” แม้จะอยากไปเพราะคืนนี้คงมีอะไรเด็ดๆ แต่เมื่อคิดถึงสีหน้าถมึงทึงของบิดา ความอยากที่มีก็หดลง “น่าเสียดาย” อัญยิกาเปรยลอยๆ “เออว่ะ น่าเสียดาย” สองหนุ่มนั่นคงเมาหลับคาวง อาจจะมีโชว์พิเศษตอนที่เขาเผลอตัว เพราะเคยมีเสียงเล่าลือสมัยเด็ก ทั้งบวรและอำนาจ แข่งกันแก้ผ้าว่ายน้ำในคลอง แต่นั่นตอนที่เขายังเป็นเด็กรุ่นๆ ไม่มีอะไรน่ามอง หากเป็นตอนนี้ล่ะ สิ่งที่เธอกระหายอยากรู้ คงสมหวัง “แกมาเล่าให้ฉันฟังบ้างนะ หากมีอะไรเด็ดๆ คืนนี้” แก้วกัลยารีบบอก เธอตื่นเต้นเหมือนตัวเองกำลังจะไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย “ถ้าฉันไม่เผลอหลับไปก่อนนะ” กว่าพี่ชายกับเพื่อนของเขาจะเมา ก็คงหลังเที่ยงคืนนั่นแหละ อัญยิกานอนไว เธออาจจะไม่ได้เห็นอะไรเลยก็ได้ หากเผลอหลับไปเสียก่อน “ทนหน่อยสิว้า ไม่ได้มีแบบนี้ง่ายๆ นะ” สองสาวหัวเราะร่วน สีหน้าแดงก่ำ เพราะคิดพิเรนทร์อยู่ในใจนั่นเอง หากมีใครรู้ เธอคงถูกมองเป็นหญิงกร้านโลก ริอ่านจะแอบดูผู้ชายแก้ผ้า แถมผู้ชายนั่น ยังเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วด้วยสิ เมื่อเธอกลับมาบ้าน ก็เป็นเหมือนที่พูดไว้กับแก้วกัลยา หนุ่มๆ 4-5คนตั้งวงที่ท่าน้ำหน้าบ้าน กำลังส่งเสียงลั่นเพราะแย่งกันพูด บิดาของเธอสร้างศาลาริมน้ำไว้นั่งพักผ่อน เวลาหน้าร้อนพี่ชายเธอชอบลากที่นอนลงไปนอนตรงนั้น ไอเย็นจากน้ำดีกว่าลมจากพัดลม อุณหภูมิตรงท่าน้ำหน้าบ้านเย็นเหมือนมีแอร์คอนนิชั่น แต่นั่นคือแอร์ธรรมชาติที่ไม่ต้องจ่ายสตางค์ซื้อหามา “ไอ้อ่ำ น้องสาวมึงนี่ยิ่งโตยิ่งสวยนะ” อัญยิกาได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนแซว คงเป็นหนุ่มสักคนหนึ่งในกลุ่มนั่นล่ะ อัญยิกาไม่เคยสนใจ เพราะเท่าที่รู้จัก มีแต่คนเกเร ไม่รักเรียน จบมัธยมปลายก็คร้านที่จะเรียนต่อ เอาดีทางการทำไร่ทำนา ซึ่งอัญยิกาไม่ชอบ มีบางคนไปเรียนในเมือง กลับมาก็ขี้แก๊ก “อย่าไปยุ่งกับมันเลย เวลามันด่ามึงจะลืมว่ามันสวย” อัญยิกาย่นจมูก เธอไม่ได้ปากจัดขนาดนั้นเสียหน่อย เธอไม่เคยด่ากราด หากไม่พอใจก็จะเดินหนี เธอไม่อยากสุงสิงกับพวกที่ไม่มีความคิด บวรอมยิ้ม เขามองตามน้องสาวเพื่อนไป แสงไฟในห้องนอนของหล่อนถูกเปิดขึ้นมา มีเงาวูบวาบตรงนั้นและไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีก เขาเลยชักสายตากลับ ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ที่หิ้วติดมือมาด้วย “เสียดาย ถ้ารู้ว่ามึงจะมา กูจะต้มเหล้ารอ” “กูอยู่อีกหลายวัน” บวรตอบ พร้อมกับยกแก้วขึ้นกระดก “ว่าไงมึงไอ้อ่ำ จะทำไหม?” “พรุ่งนี้พ่อกูกลับแล้ว มึงคิดว่าทำได้ไหมล่ะ” บิดามีฐานะเป็นผู้ใหญ่บ้าน หากจะต้มเหล้าเถื่อนไม่แคล้วคงถูกท่านฟาดกะบาลแยก “เสียดาย” “เห้ย!! คืนนี้มึงก็อยู่บ้านกับน้องมึงแค่สองคนสิวะ?” มีใครบางคนถาม ลูกชายเจ้าของตลาดหูผึ่ง “เออ...ทำไม หยุดเลย อย่าได้คิด น้องกูยิงปืนเป็น อย่าได้ทะลึ่งเชียว” อำนาจปราม เขารู้ทันความคิดของเพื่อน อัญยิกาฝึกยิงปืนมาตั้งแต่14ปี ฝึกมือมาเกือบ4ปี แค่ระยะเผาขน รับรองได้ไม่พลาด น้องสาวสุดแสบคงเป่าไอ้คนหมื่นทะลึ่งได้อย่างไม่ต้องเล็ง “หดเลยกู” เสียงบ่นพึม จนคนที่แอบฟังอยู่บนบ้านต้องรีบยกมือปิดปาก เพราะไม่อย่างนั้นคงหัวเราะออกมาดังพรืด แต่เมื่อคิดอีกที ระวังไว้ก็ดี บ้านที่ไม่มีผู้ใหญ่ มีผู้ชาย4-5คนกำลังดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ใครจะรู้ล่ะว่าพวกเขาจะคุมสติได้ อัญยิกาลุกขึ้นยืน เธอปิดหน้าต่างเป็นอันดับแรก ตามด้วยการเช็คกลอนประตู...เมื่อจัดการปิดทางเข้าจนเรียบร้อย เธอเลยสบายใจขึ้น และข้อดีของการเป็นบุตรสาวคนสุดท้อง ห้องน้ำเธอเลยอยู่ในห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว ดังนั้นเธอปลอดภัยหายห่วง ไม่ต้องเสี่ยงเดินออกไปนอกห้องตอนดึกๆ เพราะเกิดปวดปัสสาวะ หญิงสาวเดินมาทิ้งตัวนอนที่เดิม ตั้งใจว่าอีกพักจะลุกไปอาบน้ำ เพราะหากรีบอาบตอนนี้ บรรยากาศยามค่ำอาจจะทำให้เธอเผลอหลับ จนพลาดช็อตเด็ดที่ตั้งตารอ... “ไอ้บอย...ได้ข่าวว่า...” เสียงที่เคยดังลดความดังลงกว่าครึ่ง อัญยิกาพยายามเงี่ยหูฟัง เธอได้ยินแต่ไม่ครบทั้งหมด “มึงไปรู้มาจากไหนวะ?” เสียงบวรถามกลับ สีหน้าเคร่งขึ้น “แหมๆ มีของดีไม่บอกเพื่อนเลยนะ กูอยากทำบ้างแต่กลัววะ” เรื่องที่บรรดาเพื่อนของพี่ชายคุยกัน อัญยิกาไม่เห็นจะเข้าใจ เธอพยายามปะติดปะต่อ แต่ก็ยังคงงงอยู่ดี หญิงสาวเลยผุดลุกขึ้นนั่ง แนบหูกับพนังบ้าน ตั้งใจฟังแบบไม่ให้คลาดเคลื่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD