ความรักของฮาโตริ เคนชิน

1249 Words
บทที่ ๑ ความรักของฮาโตริ เคนชิน ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2548 บุรุษชาวญี่ปุ่นวัย 55 ปี กำลังอยู่ในพิธีฌาปนกิจศพของสตรีที่เขาหลงรัก แต่ไม่อาจเอามาเป็นของตนได้อย่างอาลัยอาวรณ์ เพราะเธอผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว เจ้าของของเธอก็คือคู่ค้าทางธุรกิจคนสำคัญของเขานั่นเอง เธอแต่งงานกับเจ้าของบริษัทเลิศอินเตอร์คอร์ปอเรชั่น ชีวิตของเธอดูน่าจะมีความสุขเพราะได้แต่งงานกับพ่อม่ายที่เพียบพร้อมอย่างประมาณ แต่ความจริงที่เขารู้และเห็นมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เธออยู่กับเขาด้วยความอดทน ทำงานเยี่ยงคนงานโดยไม่ปริปากบ่น เพราะเธอเป็นแม่ม่ายมีลูกติด เธออยากให้ลูกได้เรียน ได้กินอิ่มนอนหลับ ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อเหมือนในอดีต จึงต้องทนและอยู่อย่างเจียมตัว ไม่ได้มีความสุขกับความรักที่สามีมอบให้เลย เพราะเขารักแต่เธอ แต่ไม่ได้รักลูกของเธอเหมือนอย่างที่เคยรับปากเอาไว้ วันนี้เป็นวันสุดท้าย เป็นวันที่จะเผาร่างที่ไร้วิญญาณของเธอแล้ว แต่สามีของเธอก็ยังใจดำกับลูกเลี้ยง ไม่ยอมให้ลูกของเธอมายืนรวมกลุ่มกับเจ้าภาพ ภาพของหญิงสาวที่ยืนซบสามีและกอดลูกสาวตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นห่างออกไปจากกลุ่มเจ้าภาพ ช่างเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจเหลือเกิน หลังจากเผาศพเสร็จเรียบร้อย ฮาโตริ เคนชิน แห่งมามิยะกรุ๊ปก็เดินไปที่รถ เกือบจะถึงรถอยู่แล้วเขาก็หันไปเห็นลูกสาวของคนตายกำลังนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จึงเดินไปหาเธอ เขาโค้งศีรษะรับไหว้จากสามีของเธอ และลูบศีรษะเด็กหญิงที่ทำตามบิดาอย่างเอ็นดู “คุณหนู คุณฮาโตริมาหาครับ” สุภัคกระซิบบอกภรรยาที่เอาฝ่ามือปิดหน้าร้องไห้อยู่ ระพีเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมา “คุณลุง” “ฉันเสียใจด้วยนะ” “ขอบคุณนะคะคุณลุง ที่มาส่งแม่หนู” พร้อมยกมือไหว้อีกฝ่าย “แม่เขาไปดีแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว อย่าร้องไห้เลยนะ” “ค่ะ” คำปลอบโยนของบุรุษชาวญี่ปุ่นทำให้ระพีสะอื้นหนักยิ่งกว่าเดิม เธอรู้ว่าแม่เหนื่อยมากแค่ไหน เธอจึงอดทนมาตลอดเพราะไม่อยากให้ท่านเหนื่อยมากขึ้นอีก พ่อเลี้ยงไม่รักเธอ ไม่เคยให้ความอบอุ่นแม้แต่ทางคำพูดกับเธอ ส่วนน้องๆ ต่างพ่ออีกสองคนนั้นไม่ต้องพูดถึง น้องชายไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเธอ ส่วนน้องสาวนั้น ยามลับหลังมารดาก็มักจะด่าทอเธออย่างไร้เหตุผล “หนูจะพยายามค่ะคุณลุง” ฮาโตริหยิบนามบัตรส่งให้หญิงสาวด้วยความเศร้าใจ “ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ ถือซะว่าฉันเป็นพ่อของเธอนะ บอกฉันได้ทุกเรื่อง รับปากฉันสิระพี” เพราะสังหรณ์ใจไม่ดี เขาจึงสั่งกำชับเธออย่างหนักแน่น ระพีรับนามบัตรของเขาไว้ ซาบซึ้งในน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้ น้ำใจที่เธอไม่เคยได้รับจากพ่อเลี้ยง ถึงแม้เขาจะไม่เคยตีไม่เคยด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ก็มักจะเหน็บแนมด้วยคำพูดลับหลังมารดาอยู่เสมอ “รับปากฉันสิหนูระพี” ฮาโตริย้ำอีกครั้ง “ค่ะคุณลุง” ผ่านไปเจ็ดปีหลังจากครั้งนั้น ฮาโตริไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากลูกสาวของสตรีที่แอบรักเลย วันนี้เขาเดินทางมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง จุดประสงค์หลักคือเพื่อพบเธอโดยเฉพาะ เพราะอยากรู้ว่าเธออยู่สุขสบายเพียงใด เมื่อได้รับโทรศัพท์เรียนเชิญจากประธานแห่งเลิศอินเตอร์คอร์ปอเรชั่น ที่ปัจจุบันยังมีหุ้นส่วนอยู่ในมามิยะประเทศไทยโดยตรง จึงรับปากทันทีอย่างไม่ลังเล “คุณลุงไม่จำเป็นต้องมาก็ได้นี่ครับ แค่งานเลี้ยงครบรอบบริษัทของคุณประมาณ ให้ผมไปแทนก็ได้” ฮาโตริ เคนชิน มองหน้าหลานชายแท้ๆ เพียงคนเดียวของตนพร้อมกับคลี่ยิ้มอ่อนโยน “ลุงไม่ได้อยากมาร่วมงานหรอกนะ แต่ลุงมีจุดประสงค์อื่นที่สำคัญกว่านั้นต่างหาก ลุงถึงได้ถ่อสังขารมานี่ไง” “จุดประสงค์อะไรครับ บอกผมได้หรือเปล่า” “ได้สิ ลุงไม่คิดจะปิดบังแกอยู่แล้ว ลุงแค่อยากมาเห็นหน้าลูกสาวของผู้หญิงที่ลุงเคยรักว่าเธออยู่สุขสบายดีไหม แค่นี้แหละ” “แค่นี้เองเหรอครับเหตุผล” ไคมองผู้เป็นลุงอย่างไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่ ส่วนเรื่องราวของสตรีไทยที่ท่านเคยหลงรักก็พอได้ยินมาจากท่านบ้างแล้ว จึงไม่แปลกใจอะไร “ก็เธอไม่ติดต่อมาหาลุงเลยนี่นา ลุงก็ต้องมาดูให้เห็นกับตาหน่อยสิ บอกตรงๆ ว่าลุงไม่มั่นใจเลยว่าคุณประมาณจะอุปการะเธอต่อไปอีก” “คุณประมาณเขาคงไม่ใจดำกับลูกเลี้ยงขนาดนั้นหรอกครับคุณลุง” “ถ้าเราไม่มีประโยชน์ร่วมกัน เขาคงไม่ดีกับเราแบบนี้หรอก” ถ้าหลานชายเคยเห็นแบบที่เขาเห็นคงจะไม่พูดแบบนี้ “เอาไว้ดูกันวันงานก็แล้วกันนะครับ ว่าลุงจะคิดถูกหรือผิด” “อือ ว่าแต่วันนี้แกว่างนักเหรอ ทำไมถึงมารับลุงได้ล่ะ” “ทำไมคุณลุงถามผมแบบนี้ล่ะครับ จะว่างหรือไม่ว่างยังไงผมก็ต้องมารับลุงของผมด้วยตัวเองสิครับ จะให้คนอื่นมาแทนได้ยังไง” “แกช่างเป็นหลานที่กตัญญูรู้คุณเสียจริง” คนถูกชมขมวดคิ้วนิดๆ มองหน้าลุงที่กำลังอมยิ้มด้วยสายตาสงสัย ไม่แน่ใจว่านั่นคือคำชมหรือคำพูดประชด “ไค” “ครับ” “ถ้าสิ่งที่ลุงกังวลเป็นเรื่องจริง แกต้องช่วยลุงนะ” “ช่วยอะไรครับ อย่าบอกนะว่าจะให้ผมตามหาพวกเขา... เฮ้อ! ผมไม่อยากจะทำหรอกนะครับ แต่เพื่อคุณลุงผมจะยอมก็แล้วกัน” ลุงก็เปรียบเสมือนพ่อของเขา เพราะเขาเสียพ่อไปตั้งแต่ยังอยู่ในท้องของแม่ ดังนั้นอะไรที่ทำให้ท่านสบายใจได้เขาก็อยากจะทำ ก๊อก ๆ ๆ “ขออนุญาตสักครู่นะคะครูเกตุ” คุณครูประจำห้องแนะแนวใช้ไม้เรียวที่ถือติดมือเคาะประตูห้องเรียนเพื่อให้สัญญาณครูที่กำลังสอน “เชิญค่ะ” “สุภัครพี เลิกเรียนแล้วไปหาครูที่ห้องแนะแนวด้วยนะ” “ค่ะคุณครู” “ขอบคุณค่ะครูเกตุ” ครูแนะแนวหันไปขอบคุณครูผู้สอนแล้วเดินจากไป “คุณครูเรียกหนูทำไมเหรอคะ” หลังจากจบคาบเรียน เด็กสาววัยสิบเจ็ดก็มาพบครูที่ห้องแนะแนว “นั่งสิ เธอยังอยากทำงานอยู่ไหมสุภัครพี” “อยากค่ะคุณครู” เด็กสาวตอบรับทันที “เธอจะไม่ถามหน่อยเหรอว่างานอะไร” “ไม่ค่ะ ถ้าคุณครูหาให้ก็แสดงว่าเป็นงานที่เชื่อถือได้อยู่แล้ว” นงนุชคลี่ยิ้ม พยักหน้าคล้อยตามคำพูดของลูกศิษย์คนโปรด เธอรู้จักเด็กคนนี้มานานก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ และสนิทชิดเชื้อกับพ่อแม่ของอีกฝ่าย รู้เรื่องราวทุกอย่างพอประมาณ และยังกำความลับสำคัญเอาไว้อีกเรื่องหนึ่งด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD