ความเงียบที่น่าอึดอัดในโกดังร้างคืออนุสรณ์สถานแห่งความพ่ายแพ้ของพวกเขา เก้าอี้ทำงานของแทนที่ว่างเปล่าและหน้าจอที่มืดสนิทเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความสูญเสียที่สดใหม่และเจ็บปวด
สำหรับภีมและมาลินีแล้ว การหายตัวไปของแทนได้ฉีกกระชากความหวังอันเปราะบางของพวกเขาจนสิ้นซาก ความกลัวที่เคยเป็นเพียงเงามืด บัดนี้ได้กลายเป็นกำแพงที่มองไม่เห็นซึ่งบีบให้พวกเขาต้องตัดสินใจ: จะยอมจำนนต่อความมืดมิดและหลบซ่อนตัวไปตลอดกาล หรือจะเปลี่ยนความกลัวให้เป็นอาวุธและลุกขึ้นสู้
มันคือมาลินีที่ทำลายความเงียบนั้นลงก่อน เสียงของเธอที่เคยสั่นเครือด้วยความเศร้า บัดนี้แข็งกร้าวขึ้นด้วยความโกรธแค้น "เราจะปล่อยให้พวกเขาเก็บลูกเราไปทีละคนไม่ได้นะภีม... เราต้องทำอะไรสักอย่าง... เพื่อแทน"
คำว่า "ลูก" ที่เธอใช้เรียกแทนนั้นกรีดลึกเข้าไปในใจของภีม พวกเขาไม่ใช่แค่กลุ่มคนแปลกหน้าอีกต่อไป แต่คือครอบครัวที่แตกสลายซึ่งถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันด้วยโศกนาฏกรรมร่วมกัน
เขาพยักหน้าอย่างช้าๆ เพราะรู้ดีว่าการนิ่งเฉยก็ไม่ต่างอะไรกับการรอความตายอย่างช้าๆ ภีมและมาลินีรู้ว่าพวกเขาต้องการมากกว่าแค่ทักษะในโลกดิจิทัล พวกเขาต้องการกำลังเสริมภาคสนาม
ภีมจึงใช้ 'คอนเน็กชันสุดท้าย' ของแทนในโลกใต้ดินเพื่อหาคนมาช่วยงาน
นั่นทำให้เขาได้พบกับ เอก อดีตทหารรับจ้างร่างใหญ่ผู้เงียบขรึม มีรอยแผลเป็นพาดผ่านคิ้วซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงอดีตที่โชกโชน และ ฟ้า หญิงสาวร่างเล็กผู้ปราดเปรียว มีรอยสักรูปเข็มทิศที่ข้อมือ ดวงตาของเธอฉายแววฉลาดและระแวดระวังอยู่เสมอ
ทั้งสองคนไม่ใช่เหยื่อของ Nyx Neuro แต่เป็นนักฉวยโอกาสที่เกลียดชังองค์กรขนาดใหญ่ที่เอาเปรียบคนตัวเล็กๆ พวกเขาเข้าร่วมไม่ใช่เพราะความแค้นส่วนตัว แต่เพราะเงินค่าจ้างและอุดมการณ์ที่ไม่เชื่อใจในอำนาจรัฐหรือเอกชน
ด้วยแรงผลักดันจากความสิ้นหวังและความเดือดดาล พวกเขาตัดสินใจที่จะใช้อาวุธชิ้นสุดท้ายที่แทนทิ้งไว้ให้: แพ็กเกจข้อมูลขนาดเล็กที่เข้ารหัสอย่างแน่นหนา ซึ่งแทนคัดลอกไว้ได้ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ทุกอย่างจะดับไป
มันคือรายชื่อหมายเลขซีเรียลของ "ภาชนะ" จำนวนหนึ่ง และส่วนเสี้ยวของโค้ดโปรแกรมมิ่งของพวกมัน แผนการของพวกเขาดูบ้าบิ่นและสิ้นคิด—พวกเขาจะปล่อยข้อมูลนี้ออกไปสู่สาธารณะ เพื่อสร้างรอยร้าวเล็กๆ บนเกราะที่สมบูรณ์แบบของ Nyx Neuro
ภีมใช้เวลาทั้งคืนเพื่อค้นหาเป้าหมายที่เหมาะสม และเขาก็พบ "เอกรัตน์" นักข่าวอิสระผู้มีชื่อเสียงจากการเขียนบทความตีแผ่ความฉ้อฉลของบริษัทยักษ์ใหญ่ โปรไฟล์ดิจิทัลของเขาสะอาดสะอ้าน บทความของเขาเต็มไปด้วยข้อมูลที่หนักแน่น และช่องทางการสื่อสารของเขาก็ขึ้นชื่อว่าปลอดภัยที่สุด เขาคือความหวังเดียวที่พวกเขามี
แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยเงาและความหลอกลวง ความหวังอาจเป็นกับดักที่อันตรายที่สุด "เอกรัตน์" ไม่มีตัวตนจริง เขาคือหุ่นเชิดดิจิทัล เป็นตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยทีมของไซลัส มีประวัติการทำงาน, บทความวิพากษ์วิจารณ์, และเครือข่ายสังคมปลอมๆ ที่สมจริงจนแยกไม่ออก
ตัวตนทั้งหมดนี้คือ "กับดักน้ำผึ้ง" (Honeypot) ที่ถูกวางไว้เพื่อรอเหยื่อที่สิ้นหวังอย่างภีมและมาลินีโดยเฉพาะ ช่องทาง "ปลอดภัย" ที่เขาเสนอให้ใช้ในการส่งข้อมูล คือกรงดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อดักจับและวิเคราะห์ทุกคนที่พยายามจะเปิดโปงความลับของบริษัท
วินาทีที่ภีมกดปุ่ม 'ส่ง' ไฟล์เข้ารหัสที่ซับซ้อน มันคือความเงียบเพียงชั่วครู่ที่เต็มไปด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ แต่แล้วความเงียบนั้นก็ถูกทำลายลงด้วยเสียง คลิก ที่แห้งแล้งและดังผิดปกติจากบานประตู ตามมาด้วยการพังประตูเข้ามาอย่างรุนแรงจนบานพับหลุดกระเด็น
ร่างของกลุ่มชายในชุดปฏิบัติการสีเทาเข้มที่กลืนไปกับเงามืดทะลักเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบและรวดเร็วราวกับฝูงอสรพิษ พวกเขาไม่ได้สวมชุดเกราะหนาเตอะ แต่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและอันตราย แสงเลเซอร์สีแดงจากปลายกระบอกปืนเก็บเสียงกวาดไปทั่วห้องอย่างแม่นยำและไร้ความปรานี
ภีมตอบสนองด้วยสัญชาตญาณ เขาไม่ได้แค่แฮ็กเข้าระบบ แต่เขาใช้โปรแกรม "โอเวอร์โหลด" ที่เตรียมไว้สำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด เขาทุบคีย์บอร์ดรัวๆ เพื่อสั่งให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในอาคารลัดวงจร
ไฟสว่างวาบขึ้นก่อนจะดับมืดลงพร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ที่ดังแสบแก้วหู และระบบสปริงเกลอร์ก็เริ่มทำงานทันที หยาดน้ำเย็นเฉียบโปรยปรายลงมาท่ามกลางความมืดและความโกลาหล
ภีมคว้าแขนมาลินีที่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจสุดขีด "มาลินี! ทางหนีไฟ! ไปเดี๋ยวนี้!" เขากระชากและผลักเธอไปยังประตูหนีไฟที่อยู่สุดทางเดิน ขณะที่ตัวเองใช้โต๊ะเหล็กหนักอึ้งไถลไปขวางทางของหน่วยจู่โจมเพื่อซื้อเวลาเพียงไม่กี่วินาที
เขาหันกลับมาและเห็นมาลินีหนีออกไปได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะพุ่งไปยังหน้าต่างที่ใกล้ที่สุด ทุบกระจกให้แตกแล้วโหนตัวออกไปด้านนอก คว้าท่อระบายน้ำเก่าที่เย็นและลื่นด้วยน้ำฝน
ขณะที่ปีนลงมาอย่างทุลักทุเล เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและเสียงการต่อสู้จากชั้นล่าง เขาเห็นเงาของเอกที่พยายามต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดกำลัง ก่อนจะถูกรุมจับและทำให้หมดสติด้วยพานท้ายปืน และฟ้าที่ถูกลากตัวไปทั้งที่ยังดิ้นรนอย่างไม่คิดชีวิต
การพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดทางกลยุทธ์ แต่มันคือบทเรียนที่เจ็บปวดจนแทบกระอักเลือด ที่ตอกย้ำว่าลำพังแค่ความจริงและความกล้าหาญนั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอำนาจมืดที่ไร้ขีดจำกัด