อิทธิพัทธ์ถอนหายใจเหมือนคุยกับเด็ก เขาเข้าใจที่เธอพูดแต่ก็ไม่ได้คิดแบบเดียวกับเธอ..
"ถ้าคนมันจะรักต่อให้ไม่ซิงผ่านผู้ชายมาเป็นสิบมันก็รัก แล้วถ้าคนมันจะไม่ซื่อสัตย์ต่อให้ยอมนอนกับมัน มันก็ไปนอนกับคนอื่นได้ เรื่องอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับที่ตัวบุคคล คนมันจะเลวมันก็เลว" ไม่เคยคุยกับใครแบบนี้เลยนะเนี่ย แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมานั่งอธิบาย พอมองนาฬิกาก็สามทุ่มครึ่งละ
"อ้อ..โอเค พริ้มเข้าใจล่ะ คือแล้วแต่คนใช่ไหม แล้วคนเราสามารถมีอะไรกันโดยไม่ได้รักได้ด้วยเหรอหรือว่าต้องรักผู้หญิงทุกคนที่นอนด้วย" ที่เธอโกรธแฟนเก่ามากเพราะคิดว่าเขาต้องรักเขาถึงมีเซ็กส์ด้วย
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกรอบแต่ละคำถามของเธอชวนเขาปวดหัว
"ฟังนะเด็กน้อย เซ็กส์กับความรักมันคนละส่วนกัน เมื่อถึงเวลาความต้องการมันมาจะเป็นใครมาจากไหนก็เอาได้หมดนั่นแหละ ไม่งั้นผู้ชายจะไปเที่ยวอ่างมีอะไรกับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันได้หรือไง ผู้ชายส่วนมากก็แค่ต้องการปลดปล่อยแต่ผู้หญิงพี่ไม่รู้ก็คงมีมั้งแต่เก็บอารมณ์เก่งกว่า" ถ้ามีอ่างอบนวดผู้ชายไม่แน่ผู้หญิงก็อาจจะเต็มร้านก็ได้ทุกอย่างตอนนี้มันยังไม่เท่าเทียมไง
เมื่อฟังเขาพูดจบหัวใจของเธอก็เต้นตุบๆ เต้นแรงอย่างแปลกๆ
"คือเราสามารถมีเซ็กส์กับคนที่ไม่ได้รักได้อย่างนั้นเหรอ"ใจเต้นตึกๆ เมื่อได้ฟัง จะบอกว่าเธอหัวโบราณก็ได้ เธอคิดแบบนั้นจริงๆ ตอนเด็กก็เอาแต่ตั้งใจเรียนจบมาก็ตั้งใจทำงาน เป้าหมายที่สำคัญอีกอย่างคือการแต่งงานมีครอบครัว
"อืม มันก็ต้องได้อยู่แล้ว เซ็กส์มันไม่ได้เกี่ยวกับความรัก แล้วคบกับแฟนมากี่ปี" พอนึกถึงไอ้หน้าจืดนั่นก็รู้สึกหมั่นไส้ หน้ามันกวนตีน
"ก็ประมาณสามปี"
"ฮะ!สามปี สามปีนี่ไม่เคยมีอะไรกันเลยเหรอ" พอเธอพูดแบบนี้เขาก็รู้สึกสงสารไอ้หน้าจืดนั่นขึ้นมานิดๆ คิดว่าคบกันได้ไม่นาน
พริ้มเพราพยักหน้างึกๆ "แต่คนนี้พริ้มจริงจังมากเลยนะ สุดท้ายก็ต้องยอมให้เขาอยู่แล้ว"แต่เขาไม่รอเธอไง
"แล้วทำกันมากสุดแค่ไหน" ใครทนได้เขาก็นับถือ อย่างสามปีที่มันไม่ทำอะไรเธอเขาก็ว่ามันสุดๆ แล้วนะ ไม่แปลกใจที่มันไม่ยอมเลิกกับเธอง่ายๆ คงเสียดายที่ยังไม่ได้นะสิ
"จับมือจุ๊บปากมั้ง ไม่เอาไม่เล่าละเรื่องส่วนตัว"ถามลึกไปรู้แค่นี้ก็พอ
"ตลก"นั่งขมวดคิ้ว "แล้วจูบแบบดูดดื่มล่ะเคยไหม"ได้ฟังยิ่งตลก คบมาสามปีได้แค่จับมือจุ๊บปากเขาอยากจะขำ..
"ดูดดื่มคือแบบไหน จูบแบบฝรั่งเหรอ"
"ก็แบบแลกลิ้นน้ำลายเปียก"
"ยึย..ไม่เคยหรอก"แค่จุ๊บเธอก็ว่าฟินสุดๆ แล้วนะ เขินตัวบิด
'ไอ้หน้าจืดนั่นมันทนมาได้ยังไงวะ'เริ่มงงและสงสัย อยู่กับแฟนนอนจับมืออย่างนั้นเหรอวะ เขาว่าเธอกับมันแปลกพอๆ กัน
"ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าใครแปลก แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของแต่ละคน" เคยคิดว่าเธอแปลกแต่ก็ไม่คิดว่าจะแปลกขนาดนี้
"แล้วสรุปใครแปลกอะ"
"ก็เราไง" ชี้ไปที่ตัวต้นเรื่องหน้านิ่งๆ พออีกฝ่ายจะพูดแย้ง เขากลับเดินไปหยิบไวน์มาอีกสองขวดสงสัยจะติดลมอยากคุยต่อ บอกจะเข้าร้านสี่ทุ่มตอนนี้สามทุ่มห้าสิบเก้ายังไม่ไปไหน
พริ้มเพรารอเขาเดินกลับมา คันปากยุบยิบอยากจะพูดต่อ เมื่อเขามาถึงก็รีบพูดแย้ง
"คนที่แปลกไม่ใช่พริ้มแต่คือคนที่นอกกายนอกใจแฟนต่างหากละ พี่เป็นผู้ชายพี่ก็เข้าข้างกัน"ใช่เขาเข้าข้างผู้ชายด้วยกัน
คนหล่อได้ยินเธอพูดก็กลั้นขำ เดินมานั่งลงรินไวน์ใส่แก้ว ยกขึ้นดื่มก่อนจะพูดตอบโต้
"พี่ไม่ได้เข้าข้างใครแค่พูดไปตามความจริง ไม่มีใครทนนอนจับมือแฟนมาสามปีได้หรอก แต่เรื่องนอกกายนอกใจก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้ดีต้องเอาคืนมัน ในเมื่อมันทำได้ เราก็ทำได้ จะไปยอมให้มันทำอยู่ฝ่ายเดียวทำไม" มันทำก็ทำมันกลับสิ
"มะหมายความว่ายังไง อะไรคือเอาคืน"เขาชอบพูดแปลกๆ อยู่เรื่อยยิ่งเคลิ้มๆ เริ่มเมา
"ก็ในเมื่อมันนอกกายนอกใจเธอก่อน เธอก็นอกกายมันคืนบ้างสิ จะไปยอมให้มันทำอยู่ฝ่ายเดียวทำไม" ถ้าเป็นเขา เขาจะเอาคืน
"ฟังดูแปลกๆ แต่ก็จริงนะ "คนฟังก็เคลิ้มตามยกไว้ขึ้นดื่มแก้วที่ห้าเริ่มเมา ตาลอยๆ กี่ครั้งแล้วที่ยอมให้คนเลวๆ นอกใจโดยไม่คิดจะตอบโต้ ทนเป็นแฟนแสนดีให้เขาทำร้ายจิตใจอยู่ได้
"แล้วพริ้มต้องทำยังไง"
"ขั้นแรกก็ต้องเริ่มจากการสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ปรับเปลี่ยนการแต่งตัว เลิกหัวโบราณทำได้ไหมล่ะ"
โหยย ยากจังเธอมันคนหัวโบราณด้วยสิ
"ยากจัง เอาแค่เปลี่ยนการแต่งตัวได้ไหม"
"ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ ก็อยู่แบบเดิมไปเถอะ" จะสอนก็โอ้เอ้
"โหว ปากร้าย พี่ก็ช่วยสอนดีๆ สิ" ตอนนี้เจ้าเต้าหู้ไปนอนที่ไหนแล้วก็ไม่รู้
"ถ้าจะให้สอนก็ต้องคิดค่าครู"
"คือยังไง คิดเงินด้วยเหรอ"
อิทธิพัทธ์มองอย่างคนเจ้าเล่ห์ พอดื่มไวน์แล้วก็เจ้าเล่ห์..ตามสไตล์คนเทาๆ
"ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่อยากให้พี่ช่วยเอาคืนมันจริงๆ ไหมล่ะ"
"อืมก็อยากเอาคืนนะ แต่กลัวจะโดนเอาคืนมากกว่า แต่ใจจริงๆ พริ้มก็แค้นมากนะ ยิ่งคิดถึงภาพที่เขานอนอยู่กับผู้หญิงก็ยิ่งแค้น" พอเมาก็กล้าเล่ากล้าบอกความรู้สึก แค่ไม่กี่อาทิตย์ไม่คิดว่าเขาจะทำให้เธอสนิทและไว้ใจเขาได้ขนาดนี้
"แล้วอยากรู้ไหมว่าเซ็กส์กับความรักมันต่างกันยังไง" ถามไปเรื่องอื่น แววตาเริ่มเปลี่ยนไป
"ก็..ไม่ค่อยอยากรู้ แค่อยากเอาคืน"
"ก็นี่แหละคือการเอาคืน แต่ต้องแยกให้ได้ว่ามันแค่เซ็กส์ไม่ใช่ความรักทำได้ไหมล่ะ"
คนฟังก็งงเพราะเริ่มเมา...
"คือยังไง" งงๆ คือตามไม่ทัน เธอแค่ดื่มไปไม่กี่แก้วแต่เขาสองสามขวดแล้วมั้ง
"เข้าไปคุยกันในห้องสิ"
"แล้วคุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้ สรุปยังอยากเอาคืนไหม" ขยับใบหน้าหล่อๆ เข้ามาใกล้ คิดว่าเริ่มเมานิดๆ
"ก็อยากนะ แต่.." อยู่ๆ เธอก็รู้สึกกลัวๆ ขึ้นมา แค่กล้าอยู่กับเขาในห้องสองคนเธอก็ว่าเธอเก่งสุดๆ แล้วนะ เคยอยู่แค่กับแฟนแล้วก็กับเพื่อน..
"อะให้ดื่มอีกแก้ว" ยื่นไวน์ให้เธอก็หยิบมาดื่ม แล้วจากนั้นก็มึนเลยแหละคนคออ่อนเริ่มตาลอย
ร่างสูงใหญ่เปิดประตูห้องนอนเข้าไปก่อน มองให้อีกคนตามมาเธอก็กล้าๆ กลัวๆ เดินเซจนแทบจะล้ม อีกคนต้องเข้ามาช่วยพยุง
"เฮ้ยๆ เดินระวังๆ หน่อย" ช่วยพยุงแล้วก็บ่นไปด้วย
ภายในห้องนอนสีเทาที่มืดสนิท
"ต้องเปิดไฟไหม พริ้มว่ามันมืดไป" เธอไว้ใจเขานะแต่ก็กลัว ไม่รู้ว่าพาเข้ามาทำอะไร
"ก็สอนแบบมืดๆ นี่แหละ วันนี้จะสอนขั้นแรกไปก่อน วันต่อไปก็ค่อยๆ เพิ่มระดับ"
"คือยังไง ไม่เข้าใจ"
"อยากจะเก่งขึ้นไหม ถ้าอยากเก่งก็ต้องฟัง เดี๋ยวก็เข้าใจเองนั่นแหละ" ชายหนุ่มให้เธอเดินมานั่งลงบนเตียง เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
"ตอนนี้รู้สึกยังไง"นั่งลงข้างๆ กระซิบถามในความมืด
"ก็รู้สึกเย็นๆ" เขาเปิดแอร์เย็นเกินไป
"ไม่ใช่แบบนั้น ที่ถามคือตื่นเต้นไหม" คนสอนเริ่มเหนื่อย
"ตะตื่นเต้นนิดๆ ค่ะ"นิดๆ แต่หัวใจเต้นเร็วมาก มากจนควบคุมไม่ได้ "อุ๊ย!! นั่นพี่จะทำอะไร"เมื่อเขาเอื้อมมาจับมือพริ้มเพราก็ตกใจแต่ก็ไม่ได้ขยับมือออกไปไหน นั่งตัวตรงแข็งทื่อไปหมด
"ก็จะช่วยให้เก่งขึ้นไง โดนจับมือแบบนี้รู้สึกยังไง"
"รู้สึกขนลุกแปลกๆ" นี่เขากำลังจะทำอะไรกันแน่
"ใจเต้นเร็วไหม"
"เต้นเร็วค่ะ"
"แล้วถ้าแบบนี้ละ"เขาเลื่อนมือใหญ่ขึ้นไปจับที่สองไหล่บาง เธอก็สะดุ้งเฮือก ก็สะดุ้งแรงเอาเรื่อง
"บะแบบนี้ก็ตื่นเต้นค่ะ" ตึกๆๆ ตอนนี้ใจเธอเต้นแรงมาก แรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน
"หึ..อ่อนหัดเกินไป แต่ของแบบนี้มันฝึกกันได้ ฝึกไปจนกว่าจะไม่ตื่นเต้นนั่นแหละ ถามจริงเคยจูบกับแฟนแบบแลกลิ้นไหม"
ส่ายหน้าไม่เคยจะตอบเสียงก็หาย ถามอะไรของเขาตรงไปไหม
"แล้วอยากลองจูบกับพี่หรือเปล่า" ถามอย่างตรงไปตรงมา ถ้าไม่เขาก็ไม่ทำหรอก ก็แค่อยากให้เธอเก่งขึ้นแค่นั้น มันแค่ร่างกายไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอื่นต้องแยกให้ออก แค่จับไหล่เธอก็สั่นเป็นลูกนก จะกล้าลองงั้นหรือ คิดว่าคงไม่
"อะเอ่อ คือแบบไหนคะ"ได้ฟังใจก็ยิ่งเต้นแรง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเต้นแรงขนาดนี้กับแฟนเธอยังไม่เคยตื่นเต้นเท่านี้เลยหรือเพราะบรรยากาศบวกกับเมานิดๆ และเป็นช่วงเวลาที่เธออกหัก
"ก็จูบแบบที่เธอไม่เคยจูบ อยากลองไหม ถ้าอยากก็จะสอน ไม่คิดค่าครู" ค่อยๆ ขยับหันหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายหายใจแรง ก็คงจะตื่นเต้นมากนั่นแหละ เหมือนว่าตอนนี้เขากำลังแกล้งเด็ก แต่เขาไม่ได้แกล้งแค่จะสอน จะได้อยู่ในโลกใบนี้ได้..โลกไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์
พริ้มเพราพยักหน้าตอบไม่พูดอะไร เธอเองก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอพยักหน้าตกลงทั้งที่สิ่งนี้ควรทำแค่กับแฟน ก็คงเพราะใจอยากลอง มันคือกรอบที่เธอไม่เคยเดินออกไป ยอมให้แค่อีกฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียวมาโดยตลอด เขาบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวแต่เขากลับนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แล้วเธอก็ยอมเพื่อจะได้เป็นเจ้าสาวของเขาอย่างสมบูรณ์ที่สุด...
เมื่อเธอพยักหน้าตกลงฝ่ามือใหญ่ก็เลื่อนขึ้นมาจับที่ข้างแก้มเนียนทั้งสองข้างปลายนิ้วทั้งห้าจับล็อกที่ใบหน้าของเธอ ขยับหันมาฝั่งขวาจับให้เงยหน้าขึ้น
เสียงลมหายใจของทั้งคู่ค่อยใกล้ชิดกันมากขึ้นและในวินาทีนั้นก็ถูกริมฝีปากเย็นชื้นประกบจูบลงมา หญิงสาวหลับตาพริ้มทั้งที่ใจเต้นสั่นระรัว..
สองมือเล็กขยำกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นรู้สึกวาบหวิวอย่างบอกไม่ถูกไม่คิดว่าตัวเองจะใจกล้าให้คนที่ไม่ใช่แฟนจูบได้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำได้ เธอเข้าใจว่าต้องเป็นคนรักเป็นแฟนกันเท่านั้นถึงจะจูบกันได้และความตื่นเต้นนี้มันก็มากกว่าจูบกับแฟนเสียด้วยซ้ำ เธอกำลังถูกริมฝีปากอุ่นของใครบางคนประกบจูบเหมือนเขากำลังจะพยายามทำอะไรบางอย่างกับริมฝีปากของเธอ พริ้มเพราเกร็งจนต้องเม้มริมฝีปากไว้แน่น จากนั้นเขาก็ผละใบหน้าออกแต่ออกแค่นิดเดียวจริงๆ
"เปิดปากออกได้ไหม เม้มปากแบบนั้นใครจะจูบได้" สอนเด็กต้องใจเย็นแค่ไหน
"แล้วแบบนี้ไม่ใช่จูบเหรอคะ" แค่นี้เธอก็เกร็งจนเหมื่อยตัวไปหมดแล้ว ใจเต้นเร็วจนแทบต้องเข้าโรงพยาบาล บางจังหวะก็เหมือนจะวูบ..
"ไม่ใช่.." ปลายนิ้วโป้งใหญ่ค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปสัมผัสที่ริมฝีปากบางปัดผ่านไปมาแผ่วเบา