คนหนึ่งก้มหน้าส่วนอีกคนก็ไม่ได้มองเมื่อเงยหน้าขึ้นก็ถึงจำกันได้
"คะคุณ/คุณ" ต่างคนก็ต่างชี้กันไปมา พริ้มเพรารู้ว่าเขาเป็นเจ้าของร้านแต่ไม่ได้เจอกันบ่อยที่นี่หรอก เจอกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตน่ะบ่อย คนอะไรหยิบของชิ้นเดียวกันกับเธอได้ตลอด
"คุณชื่อพริ้มหรือเปล่า" เจ้าของร้านพูดขึ้นก่อน คิดว่าใช่ชื่อนี้แหละ ไม่รู้ว่าดวงซวยหรืออะไรไปเจอเธอบ่อยเกินที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วเธอก็ชอบหยิบของชิ้นเดียวกับเขาด้วยนะแรกๆ คิดว่าเธออ่อย แต่มารู้ว่าเธอมีแฟน ก็คงบังเอิญนั่นแหละ
"ชะใช่ค่ะ คุณก็คือพี่กล้าเจ้าของร้านนี้ใช่ไหม" ที่รู้เพราะพี่ๆ ที่ทำงานก็มาเพราะเขานี่แหละ เจ้าของร้านหล่ออย่างงั้นอย่างนี้ผู้ชายร้านนี้งานดี แต่เขาก็หล่อจริงๆ หุ่นสูงล่ำสันแบบคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำใบหน้าหล่อคมสะอาดสะอ้านดวงตาคมคิ้วเข้มจมูกโด่ง ริมฝีปากแดงอ่อนดูสุขภาพดี รวมๆ แล้วก็หล่อมากนั่นแหละ แต่ถึงจะหล่อยังไงก็ไม่ทำให้เธอตื่นเต้นเท่ากับคนที่ทำให้ใจของเธอเจ็บปวด
"ใช่พี่เป็นเจ้าของร้าน..ไม่เจอกันที่ซุปเปอร์ก็มาหาพี่ที่ร้านเลยหรือไง" อิทธิพัทธ์พูดแซวเล่นตามประสาคนอัธยาศัยดีบริการคุยกับลูกค้าดุจญาติมิตร
"จำได้ด้วยว่าเจอกันบ่อยที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต? "พริ้มเพรายิ้มอ่อนเงยหน้าขึ้นไปคุยต่อ "วันนี้พริ้มอยากเมาแบบคลานกลับห้องก็เลยมาหาถึงที่" พอเมากรึ่มๆก็กล้าพูดกล้าคุย ปกติเธอไม่ค่อยคุยเล่นกับใคร
"เป็นอะไรอย่าบอกนะว่าอกหัก"เขามองจากดวงตากลมใสของเธอ ลูกค้าที่ร้านอกหักบ่อยจนเขาดูออกว่าต้องมาสภาพนี้ พอเริ่มเมาก็เพ้อร้องเพลงอกหักเสียงดังลั่นร้าน..เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
"ก็ประมาณนั้น อกหักในรอบหลายปีเลยแหละ แต่ช่างเถอะวันนี้พริ้มขอเสียใจแค่วันเดียว แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่ามันเจ็บสุดๆ ไปเลย"ยิ้มแห้ง เงยหน้าขึ้นไปสบตาก็พบว่าเขาก้มมองลงมาแล้วเค้นหัวเราะ แปลกๆ หมายความว่าไง
"หัวใจไม่ได้มีไว้เจ็บหรือมีไว้รักใครหรอกนะ มันมีไว้สูบฉีดเลือดเข้าไปเลี้ยงสมองให้ฉลาดต่างหากละ อย่าไปคิดมาก พรุ่งนี้ก็วันใหม่ เดี๋ยวก็ลืม"
ดวงตาคมเข้มมีเสน่ห์ที่จ้องมองลงมาทำให้พริ้มเพราคิดได้และเห็นถึงหนทางสว่าง
"ก็จริงนะ หัวใจไม่ได้มีไว้เจ็บสักหน่อย ตอนนี้สมองพริ้มเริ่มฉลาดขึ้นบ้างแล้วแหละ ยังไงก็ขอบคุณพี่มากนะ ขอกินข้าวก่อนหิวมาก" เธอกำลังอยากมีเพื่อนคุยพอดี เอาแบบที่ไม่ซ้ำเติมซึ่งเพื่อนที่คบอยู่แต่ละคนคือรอซ้ำทั้งนั้น เรื่องนี้เธอก็เลยยังไม่ได้บอกใคร แต่ตอนนี้ขอกินข้าวก่อนหิวมาก ทั้งอยากเมาทั้งหิวข้าว ไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่ในสภาพนี้ได้ พยาบาลสาวแฟนคุณหมอสุดฮอตตอนนี้กำลังอกหัก เจ็บจนต้องมานั่งเมาร้านเหล้า คนเมาเริ่มบ่นพึมพำคนเดียว..
นั่งกินได้สักพักก็เริ่มมืดลูกค้าก็เริ่มหลั่งไหลกันเข้ามา ตรงที่เธอนั่งอยู่เป็นโซนด้านนอกส่วนด้านในมีเวทีดนตรีสดและที่นั่งอีกหลายสิบโต๊ะ ร้านนี้ตกแต่งสไตล์วินเทจก็ดูสวยดี
พริ้มเพราหันมองผู้คนด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว มีผู้คนอยู่รอบตัวมากมายแต่ทำไมมันถึงเศร้าจัง เมื่อเริ่มเมานิดๆ ก็คิดถึงเขา คิดถึงคนที่คอยห้ามไม่ให้กินเหล้า หวงเวลาที่ใกล้ผู้ชายคนอื่น ไม่มีอีกแล้วสินะคนที่เคยบอกว่ารัก คนที่บอกว่าจะไม่ทิ้งกันแล้วไหนว่าเราจะแต่งงานกัน เขาหลอกให้เธอวาดฝันบนเส้นทางที่สวยงาม ตอนนี้เหลืองไว้เพียงความทรงจำและความเจ็บปวดที่เขามอบให้ เมื่อดนตรีสดเปลี่ยนเล่นเพลงเศร้านั่นแหละคนอกหักก็ยกแก้วแล้วแก้วเล่า ร้องไปตามเสียงเพลง พริ้มเพรามาคนเดียวก็ถูกมองแบบแปลกประหลาดบ้าง แต่เธอไม่สนใจเพราะเมา แล้วก็อกหัก...
ครืดๆ ครืดๆ เสียงโทรศัพท์ของพริ้มเพราสั่นอยู่ในกระเป๋าเป็นร้อยๆ ครั้งแต่เธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะกดรับ..เหม่อลอยไปตามเสียงเพลง
มีหนุ่มๆ หลายคนอยากจะเข้ามาจีบเธอแต่ก็ได้แต่มองมาเพราะมีแฟนอยู่ข้างกาย สมัยนี้จะปล่อยให้แฟนไปกินเหล้าคนเดียวไม่ได้หรอก มีคนที่คอยจะแย่งแฟนคนอื่นอยู่ถมเถและที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบก็เพราะมีเด็กหนุ่มพนักงานคอยกันท่าให้ตลอด เกมส์กลัวว่าเจ้พริ้มคนสวยจะถูกผู้ชายหลอกไปแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง ถ้าเมาหนักกลับไม่ได้ก็คงต้องรอร้านปิด อาจจะต้องนอนที่ร้านนี่แหละไม่ได้แปลกอะไรเพราะลูกค้าหลายคนก็เป็นแบบนี้ เมาไม่ขับหลับร้านเหล้า
เมื่อมีดนตรีสดความสนุกก็มากขึ้นคนที่บอกว่าจะกลับคอนโดก่อนจะมืดตอนนี้เมาหนักแทบลุกไม่ขึ้น แม้ร่างกายจะฟุบลงที่โต๊ะแต่รีบริมฝีปากยังพึมพำร้องเพลงรักไปตามนักร้องในร้าน
ในช่วงห้าทุ่ม...
เจ้าของร้านก็แต่งตัวหล่อออกมาเป็นเวลาของเขาอยู่แล้ว นอกจากมีดนตรีสดก็มีโชว์บาร์เทนเดอร์จากเจ้าของร้าน สาวๆ ต่างก็รอเวลานี้ รอไปเกาะขอบบาร์มองหนุ่มหล่อเจ้าของร้านชงเหล้าแล้วเขาก็คือหล่อมากแบบหล่อลากไส้ลากดิน ยิ่งแต่งตัวหล่อเซตผมเปิดหน้าทรงอันเดอร์คัทด้านข้างสั้นคือดูหล่อเท่ลูกรักพระเจ้าจริงๆ ทุกครั้งที่เขายิ้มบอกได้คำเดียวว่าละลายอาจเป็นเพราะแววตาเจ้าเล่ห์ของเขาดูน่าค้นหา แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่กรี๊ดกร๊าดตามจีบเขาแค่ไหนแต่ชายหนุ่มก็ไม่มีท่าทีว่าจะเทใจให้ใคร เขาคุยเล่นกับทุกคนได้หมดเรียกว่าโปรยเสน่ห์แบบไม่เหลือ
พริ้มเพราไม่ได้ดูโชว์ของเขาเพราะทุกครั้งก็มักจะมีแฟนมาด้วยส่วนเพื่อนรุ่นพี่ก็จะเข้าไปเกาะขอบบาร์ดูเขาโชว์ลีลาบาร์เทนเดอร์หล่อฮอตปรอทแตกเป็นเรื่องปกติ ..ส่วนเธอนะเหรอไม่เคยดู
โชว์พิเศษประมาณยี่สิบนาทีก็เปิดเพลงแดนซ์ให้ลูกค้าผ่อนคลาย ร้านนี้จะปิดเวลาตีหนึ่งครึ่งเป็นเวลาปกติของที่นี่
ร่างสูงหล่อสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อกั๊กสูทสีดำผูกเนกไทสีน้ำเงินเข้มเดินออกมาจากบาร์ สาวๆ ต่างก็มาขอรุมถ่ายรูปคู่กับเขาเป็นปกติ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับกล้องที่สาวๆ ถ่ายแล้วจากนั้นก็ขอตัวเข้าไปด้านในร้าน เขาไม่ได้ใส่ชุดนี้ตลอดใส่แค่ตอนโชว์เพราะมันอึดอัดและร้อนมาก
หลังร้านด้านใน
"พี่กล้าๆ" เกมส์รีบเดินเข้ามาหา
"มีอะไรวะ" ดูมันทำหน้ายังกับใครเป็นอะไร
"ก็เจ้พริ้มลูกค้าที่มากินตั้งแต่ห้าโมงนะสิพี่ ตอนนี้เมาหลับคาโต๊ะอยู่ด้านนอก พวกผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง" ลำพังแค่กันลูกค้าคนอื่นไม่ให้ล่อลวงก็ไม่ต้องทำอย่างอื่นกันแล้ว
ใบหน้าหล่อดูจะไม่ได้สนใจอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ ลูกค้ามากินเหล้าก็ต้องเมา มันก็ปกติไหม
"มึงก็ปลุกแล้วโทรหาให้แฟนน้องเขามารับก็แค่นั้น" เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ ต้องให้เจ้าของร้านอย่างเขาจัดการหรือไง
"อ้อใช่ เจ้พริ้มมีแฟนนี่น่า แล้วทำไมวันนี้แฟนถึงไม่มาด้วยนะ" เกมส์ทำงง หรือว่าจะอกหักอย่างที่พูดจริงๆ
"ไม่มีอะไรแล้วใช่ กูจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ" ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากแค่จะไปถอดเนกไทกับเสื้อสูทออก..
"ไม่มีครับพี่ อ้อแล้วถ้าเจ้พริ้มอกหักอยู่ละครับ ให้พวกผมโทรหาใคร" มีเจ้าของร้านก็ต้องถามเจ้าของร้าน
"มึงดูแลลูกค้าคนอื่นยังไงก็ดูแลเธออย่างนั้นแหละ" เขาคิดว่าเธอแค่ทะเลาะกับแฟนไม่ได้อกหักจริงๆ หรอก เดี๋ยวแฟนเธอก็มารับ
"อ้อครับๆ พี่" เดินเกาหัวออกไป ตอนนี้เวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้ว ยุงก็เยอะข้างนอกไม่ค่อยมีใครอยากจะไปนั่งเพราะมองไม่เห็นโชว์ดนตรีสดได้ยินแค่เสียง
โต๊ะไม้ด้านนอก..
เกมส์เดินออกมาหาลูกค้าคนแรกของวัน อยากเมาตั้งแต่ห้าโมงเย็นตอนนี้ได้เมาสมใจ เที่ยงคืนแล้วก็ยังไม่กลับ
"เจ้ๆ เจ้พริ้ม" แตะที่แขนนุ่มเบาๆ เจ้แกผิวเนียนเกินสวยขนาดนี้ไม่รู้แฟนปล่อยมาได้ไง
"เจ้ ได้ยินผมไหม ตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนเจ้ๆ" เขย่าก็แล้วปลุกก็แล้วไร้วี่แวว เอาแล้วไง อาการนี้น็อกเหล้าแน่ๆ
"ขอโทษนะครับเจ้ ผมขอดูโทรศัพท์หน่อยนะ"หนุ่มน้อยแอบหยิบโทรศัพท์ลูกค้าสาวขึ้นมาตั้งใจจะกดโทรออกหาใครสักคนแต่โทรศัพท์ล็อกหน้าจอทำยังไงดี เห็นสายที่ไม่ได้รับเกือบสองร้อยสาย มีชื่อว่าอัครแฟนพริ้ม ก็รู้ได้ทันทีว่าคนนี้คือแฟน ก็เขียนชัดขนาดนี้ ถือโทรศัพท์รอให้แฟนเจ้พริ้มโทรมาอีกก็ไร้วี่แวว คงทะเลาะกันมั้งถึงไม่รับโทรศัพท์แฟน เกือบสองร้อยสายเลยนะ
"ทำไงดีวะ"นี่ก็จะตีหนึ่งแล้วคงต้องพาเข้าไปนอนในร้านก่อน