"ทำไงดีวะ"นี่ก็จะตีหนึ่งแล้วคงต้องพาเข้าไปนอนในร้านก่อน
"ไอ้รักษ์มาช่วยกูหน่อย" เกมส์หันไปเรียกเพื่อนพนักงานมาช่วย
เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลรีบเดินเข้ามา รักษ์กับเกมส์มีหุ่นผอมๆ คล้ายๆ กัน
"มีไรวะ" ใบหน้ากวนหันมอง
"ช่วยกูหิ้วลูกค้าเข้าไปนอนข้างในร้านหน่อย" เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
สองหนุ่มช่วยกันพยุงลูกสาวค้าสาวเข้าไปข้างในร้านกว่าจะผ่านผู้คนเบียดเสียดเข้ามาได้ก็แทบแย่
เกมส์ให้ลูกค้าสาวนั่งหลับอยู่ที่โต๊ะทำงานของอิทธิพัทธ์เจ้าของร้าน
"หลับตรงนี้ไปก่อนนะเจ้" วางกระเป๋าลงข้างๆ จากนั้นก็เดินออกไป
เวลาตีหนึ่งครึ่งร้านปิด..
พนักงานช่วยกันเก็บร้านเกือบตีสองถึงได้กลับกัน ไม่ใช่แค่พนักงานที่ช่วยเจ้าของร้านสุดหล่อก็ช่วย นอกจากหล่อแล้วยังขยันช่วยงานลูกน้องจนกว่าจะเสร็จ
ร่างสูงโปร่งสวมทับผ้ากันเปื้อนเดินเข้ามา เขาจะเข้ามาเช็กยอดก่อนกลับ พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาเคลียร์บัญชีก็เจอกับคนที่นอนหลับอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวโปรดของเขา
"พวกมึงก็เลือกที่ให้ลูกค้านอนได้กวนตีนกูจริงๆ" แล้วเขาจะนั่งทำงานยังไงอิทธิพัทธ์หงุดหงิดเล็กน้อยเพราะมีที่ว่างตั้งมากมายแต่ลูกน้องไม่พาไปนอน
"คุณ! คุณ" แตะที่แขนของเธอเบาๆ ก้มลงมองว่าไหวไหม คำตอบที่ได้คือริมฝีปากบางชมพูพูดพึมพำเบาๆ ว่าคนใจร้ายแล้วก็เหมือนจะสะอื้นร้องไห้ ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปากเค้นหัวเราะ
"หึ อกหักมาจริงๆ สินะ" ร่างสูงก้มลงจับเมาส์ พิมพ์คอมพิวเตอร์คร่อมตัวเธออยู่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะให้เธอไปนั่งตรงไหน พื้นที่มีมากก็จริงแต่มันไม่มีที่ให้นอนไง
ดวงตาคมจ้องมองตัวเลขของวันนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อยที่ยอดไม่ได้มากอย่างที่คิดลูกค้าไม่ค่อยสั่งกับแกล้มแต่เน้นสั่งเหล้ามิกเซอร์กับน้ำแข็งมาแช่ไว้ สงสัยต้องหากลยุทธ์ใหม่มาหลอกล่อ แม้จะทำงานไม่ค่อยถนัดเพราะต้องยืนก้มตัวแต่ก็ยืนได้ ปลายนิ้วเรียวใหญ่เคาะแป้นพิมพ์เสียงดัง ก็อกแก็ก คนเมาก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นมีแค่สะอื้นร้องไห้
"ฮือๆ ไหนพี่บอกว่ารักพริ้มไง ทะทำไมถึงทำแบบนั้น พริ้มเจ็บมากรู้ไหม แค่พริ้มไม่นอนกับพี่อย่างนั้นเหรอ ฮือๆ พี่มีคนอื่นทำไม" พอเมาหนักก็เป็นคนอ่อนแอคนหนึ่ง..
เสียงบ่นคนเมาทำให้คนที่กำลังทำงานเสียสมาธิ ใบหน้าหล่อก้มลงมองแต่ก็เป็นระยะที่ใกล้กันมาก ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นแป้งเด็ก
"เด็กเอ๋ยเด็กน้อย อกหักมันเรื่องเล็กอกเล็กสิเรื่องใหญ่ จะไปเพ้อหามันทำไม มันไม่รักก็แค่กลับมารักตัวเอง เรื่องง่ายๆ" คนไม่เคยอกหักก็พูดได้ คนที่เจอกับตัวเท่านั้นถึงจะรู้ว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเวลาจะเยียวยาทุกอย่าง
หลังจากที่ก้มทำงานจนปวดหลังก็ขยับตัวขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วทำไมกูต้องมาก้มให้มันปวดหลังวะเนี่ย ที่ก็ที่ของเขา ก้มมองคนเมาแล้วเค้นหัวเราะอีกครั้ง..
ได้เวลากลับบ้าน
เกมส์เดินเข้ามาดูลูกค้าสาวว่าจะให้เข้าไปนอนอีกที่ก็พบว่า..
"พี่กล้ากำลังจะทำอะไรเหรอครับ" เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังย่อตัวลงให้ลูกค้าขึ้นหลังก็งงๆ ปนตกใจมาก
"มึงไม่เห็นหรือไง " ใบหน้าหล่อแสดงอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย
"เห็นๆ ครับแต่งงว่าพี่กล้าจะพาเจ้พริ้มไปไหน"
"แล้วมึงจะให้เธอนอนตรงนี้หรือไง คิดสิคิด แม่งกูปวดหัวกับมึงจริงๆ"
"อ้อใช่ นอนบนโต๊ะคงได้ตกพอดี พวกผมปูเสื่อให้เจ้นอนในห้องครัวแล้วแหละครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาเปิดร้านแต่เช้า" เกมส์จัดที่นอนให้แล้ว อาจจะลำบากหน่อยแต่ก็น่าจะนอนได้แหละ
"ไม่ต้องเดี๋ยวกูพากลับเอง มึงช่วยหยิบกระเป๋าขึ้นมาให้กูหน่อย" ร่างสูงใหญ่ย่อตัวจับให้คนตัวเล็กขึ้นหลังอย่างทุลักทุเล เกมส์รีบวิ่งเข้าไปช่วยอย่างงงๆ พี่กล้าไม่เคยพาลูกค้ากลับบ้าน แล้วจะพาไปไหนคอนโดงั้นเหรอ
"ครับ" ช่วยจับให้คนเมาขึ้นหลังเอามือมาไขว้ไว้ด้านหน้า จับกระเป๋าห้อยที่แขนใหญ่ของพี่กล้า คนอะไรแขนล่ำสันใหญ่จริงๆ
"พวกมึงก็ปิดร้านกันเลยนะ" เดินตัวโก่งออกไปอย่างทุลักทุเลสองมือใหญ่สอดเข้าใต้เรียวขาเล็ก สภาพนี้ไม่เคยทำกับใคร
"ครับ โชคดีครับพี่" แม้จะงงแต่ก็ยิ้มให้กับภาพที่ไม่เคยเห็น เจ้พริ้มวาสนาดีแล้วสิที่ได้ขึ้นหลังพี่กล้า ใครจะได้ขึ้นไม่น่าจะมี นอกจากคนเมาอย่างเจ้พริ้ม
เกมส์รู้ว่าพี่ชายจะพาลูกค้าคนสวยไปไหนคงให้ไปพักที่คอนโดนั่นแหละสวยขนาดนั้นจะให้นอนหน้าร้านสะดวกซื้อก็กระไร
คอนโดของอิทธิพัทธ์อยู่ไม่ไกลจากร้านเหล้าของเขาก็คือแทบจะติดกัน แต่ร้านของเขามาก่อนคอนโดมาเปิดทีหลัง แล้วเขาก็ซื้อเอาไว้จะได้สะดวกไม่ต้องเดินทางไกลซึ่งก็อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้รถไฟฟ้าที่เพิ่งสร้างเสร็จ นึกว่าจะสร้างไม่เสร็จแต่ก็เสร็จจนได้ ตรงที่เขาอยู่รถติดมากมีรถไฟฟ้าก็สะดวกดี
grand living pool
ห่างจากร้านของอิทธิพัทธ์ประมาณร้อยห้าสิบเมตร เดินคนเดียวก็สบายๆ แต่นี่ต้องแบกใครอีกคนขึ้นหลังก็ทำเอาเขาเหนื่อยหอบ
ก่อนทางจะเข้าลิฟต์ พนักงานงานรักษาความปลอดภัยก็รีบเข้ามาช่วยเปิดประตูให้ ทุกคนรู้จักชายหนุ่มดีอยู่แล้ว มีใครไม่รู้จักเจ้าของร้านเซมาบาร์เบียร์ดังสุดในย่านหนี้
เข้ามาในลิฟต์กดไปชั้นเก้าอย่างทุลักทุเล
"เห้อ ชีวิตกูทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ" เมื่อเข้ามาในลิฟต์เขาถึงได้รู้ว่าตัวเองคิดผิด คนที่อยู่บนหลังภาระเห็นๆ ปกติเขาจะไม่ช่วยใครเพราะเป็นภาระ คำว่าสุภาพบุรุษใช่ว่าเขาไม่มีแต่ก็ไม่ใช่คนดีที่ชอบช่วยเหลือ เป็นคนเทาๆ วัดก็เข้าเหล้าก็กินสรุปก็ดีบ้างเลวบ้างตามโอกาส
เดินแบกคนตัวเล็กมาจนถึงหน้าห้องพักต้องปล่อยมือหนึ่งข้างเพื่อสแกนนิ้วเข้าไปด้านใน
ติ่ง! เมื่อเสียงประตูเปิดออกเจ้าอ้วนขนปุกปุยก็รีบวิ่งเข้ามา อุณหภูมิห้องยังเย็นเฉียบเพราะต้องเปิดให้เจ้าอ้วนได้นอนสบาย
เหมี้ยวว เหมี้ยวๆๆ เมื่อเจ้าอ้วนเห็นเจ้าของเดินเข้ามาด้วยท่าทางแปลกๆมันก็ร้องไม่หยุด
"ยังไม่นอนอีกหรือไงกระจู๋" กระจู๋คือชื่อเจ้าอ้วนแมวขาวตัวออกสีเทาๆ หน้าบู้บี้เหมือนงงๆอยู่ตลอดเวลา คำทักทายจากเจ้าของทำให้มันวิ่งไปคลอเคลียที่ขาเจ้าของไปมา
"อะโอ้ยๆ เดี๋ยวกูล้มหัวทิ่ม ขอเปิดห้องก่อน" หลังก็แบกคนเท้าก็ถูกแมววิ่งตามคลอเคลีย ถ้าสะดุดล้มหัวทิ่มไม่อยากคิดสภาพ
เหมือนเจ้าก้อนปุกปุยจะรู้มันถอยห่างรอให้เจ้านายเปิดประตูห้องนอน ทำหน้าเหมือนสงสัยว่า นุดแบกอะไรมาหนักไหมนุด ไม่ช่วยหรอกนะ อ่านได้จากสายตา..
ภายในห้องนอนคลุมโทนสีเทาสลับดำก็คนเทาๆ นั่นแหละ
ตุบ!! นั่งหันหลังวางคนเมาลงที่เตียงนอนก็ไม่ได้เบามือหรอกนะ แบกมาได้ขนาดนี้ก็บุญแล้ว
ใบหน้าสวยยิ้มหวานเมื่อรู้สึกถึงความนุ่มของอะไรบางอย่าง นุ่มด้วยหอมด้วยคงเป็นที่นอนในห้องเธอแน่ๆ เมาแล้วก็ง่วง
อิทธิพัทธ์ยืนมองคนเมาอย่างไม่เข้าใจว่าเขาจะแบกเธอมาด้วยทำไม ให้นอนที่ร้านก็จบ พอคิดอีกที ใช่ตอนนั้นเขากลัวว่าเธอจะฆ่าตัวตายในร้านเพราะอกหัก ฟังจากที่เธอพูดพึมพำก็คงจะหนักเอาเรื่อง แค่อกหักทำยังกับว่าชีวิตนี้ไม่เหลือใคร ไม่มีญาติพี่น้องหรือยังไงเขาก็งง