บทนำ

1170 Words
[“อยากได้เมียโว้ย”] กฤตเลิกคิ้วทันทีที่เพื่อนทักมาเป็นประโยคแรก [“ของขาดหรือมึงอ่ะ ช่วงนี้”] เจ้าพ่อสถานบันเทิงหัวเราะหึ ๆ ใส่คนโทรมา [“ไหนว่ามีเด็กมาอยู่ด้วยไง”] [“เด็กมันสก๊อย แค่เพื่อนนอน ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากกินกับนอน มันตามฝรั่งในแอปฯไปแล้ว”] เพื่อนเล่าแบบไม่มีน้ำเสียงเสียดายเลยสักนิด [“กูยุ่ง ๆ กับงานใหญ่อยู่ ทำงานเสร็จหลับเป็นตาย ไม่ได้หาใหม่เลย วันนี้ว่างเลยโทรหามึงนี่แหละ หาให้คนดิ มาเป็นเมีย ชั่วคราวก็ได้ เผื่อใครไม่อยากรับแขกขาจร อยากอยู่กับกูยาว”] กฤตเดาะลิ้น คนโทรมาเป็นเพื่อนเก่า หัวหกก้นขวิดมาตั้งแต่สมัยมัธยม รูปไม่หล่อเท่าเขา หน้าตาไปทางบึกบึน บุคลิกมาดแมนสมชาย สาว ๆ ที่ชอบหนุ่มเถื่อน ๆ เข้าหามิได้ขาด แต่เจ้าตัวนิสัยเป็นฤษี ชอบเฝ้าอู่ เฝ้ารถ พอจะมีผู้หญิงเข้ามาหาหน่อยก็เลิกกันเสียแล้ว ร้อนถึงเขาต้องหาให้ใหม่ [“เดี๋ยวก็ให้ลูกน้องส่งรูปไปให้เลือก”] [“ไม่เอาว่ะ รูปมันหลอกกันได้ กูอยากเห็นตัวจริงมากกว่า หาเรื่องออกไปกินเหล้าด้วย”] [“ตามใจ เอาลูกน้องมึงมาด้วยสิ เพิ่มแขกเข้าร้านกูหน่อย ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี”] [“พวกมันไม่มีปัญญาเคลมตัวท็อปร้านมึงหรอกนะ”] แม้เทวัญจะได้สิทธิ์พิเศษเข้าสถานบันเทิงได้ฟรีเพราะเป็นเพื่อนเจ้าของ แต่พวกลูกน้องคงได้แต่ดื่มกับมองเด็กในร้านตาปริบ ๆ เป็นแน่ [“เออ มาเถอะ ดูของสวย ๆ งาม ๆ นอกจากรถบุโรทั่งกับจาระบีบ้าง กูเลี้ยงเหล้าขวดหนึ่ง”] [“โอเค...ดีล คืนวันเสาร์นะ อาทิตย์กูจะปิดอู่”] [“แล้วแต่มึง กูพร้อมเสมอ”] สองหนุ่มคุยเล่นเรื่องอื่นตามประสาเพื่อนเก่าอยู่สองสามนาที ก่อนต่างฝ่ายจะวางสายลงไปทำกิจการงานของตนต่อ “ค่าเช่าน่ะ ให้เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายนะห้าพัน เดือนต่อไปขอเจ็ดพัน” หญิงกลางคนผิวขาวน้ำนม สวมเสื้อโครงลายตารางกางเกงเล็กกิ้งพอดีตัว บอกกับขวัญรักที่เพิ่งยื่นค่าเช่าบ้านเดือนนี้ให้ “อ้าว ทำไมขึ้นเยอะจังเลยละคะเจ้ม่วย ตั้งสองพันเชียว” เธอส่งสายตาขอความเห็นใจ สองพันนี่ซื้ออาหารเข้าบ้านได้ตั้งสองอาทิตย์ “โอ๊ย! สมัยนี้อะไร ๆ ก็ขึ้นราคาหมด ทั้งหมูเห็ด เป็ดไก่ ค่าน้ำมันค่าแก๊ส เธอจะไม่ให้ฉันได้กำรี้กำไรเลยเหรอ” นางค้อน “ตั้งสองพัน เจ้ม่วยขึ้นเยอะไปไหมคะ บ้านหนูมีแม่ทำงานคนเดียว ยายก็ป่วย” “เธอก็เรียนจบปวช.แล้วไม่ใช่เหรอ ต้องหางานทำช่วยแม่ได้แล้ว อย่ามามัวรอแต่กินกับนอน” เจ้าของบ้านเช่าปรามาส ขวัญรักผิวพรรณดี หน้าตาเข้าที ดูสุขภาพดีเปล่งปลั่งผิดกับการเป็นลูกแม่บ้าน ดูสิ! ลูกชายกับผัวนางพอรู้ว่าจะมาเก็บค่าเช่าบ้านนี้ ก็ออกท่าทีกระตือรือร้นอยากมาทันที นางละหมั่นไส้ผู้ชายพวกนี้นัก เห็นสาว ๆ หน้าใส ๆ ยิ่งชอบมาก้อร่อก้อติก นางไม่อยากให้วงศ์วานว่านเครือไปเกี่ยวดองกับผู้หญิงยากจนที่มีภาระหนักติดหลังมา “เจ้ม่วย หนูเพิ่งเรียนจบไม่กี่วันเองค่ะ ยังหางานไม่ได้เลย” ขวัญรักถึงกับยกมือไหว้ “ขอผัดเรื่องขึ้นค่าเช่าไปสักเดือนสองเดือนเถอะค่ะ ถ้าหนูได้งานแล้วจะรีบเอามาจ่ายเลย” “ได้ยังไง!” หญิงกลางคนหวีดเสียงแหลม “ฉันก็ต้องกินต้องใช้นะ มีค่าใช้จ่ายอื่นอีก ฉันจะขึ้นค่าเช่าเป็นเจ็ดพัน ถ้าไม่พอใจก็ย้ายออกไป มีคนตั้งเยอะที่ยอมจ่ายค่าเช่าราคานี้” เจ้ม่วยไม่มีความปรานีเลย ตั้งใจจะขูดเลือดเนื้อเอากับปู “โถ่ เจ้คะ บ้านหนูไม่มีจริง ๆ” “ไม่มีก็ไปหาทำงานสิ อย่างอมืองอตีน หางานดี ๆ ไม่ได้ก็ใช้หน้าตาหากินไป” นางริษยาในความสาวอ่อนเยาว์ จึงแสดงความใจดำ ปากก็เอ่ยถ้อยคำจงใจดูถูก “อย่าทำตัวโง่ เอื่อยเฉื่อยสนิมสร้อยนักเลย” อีกทั้งวาจายังถากถางร้ายกาจ ก่อนสะบัดร่างอวบขาวไป ขวัญรักปิดประตูเหล็กขึ้นสนิมเก่าคร่ำคร่า คอตก อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี “ยัยเจ้ยักษ์ขมูขีนั่นจะขึ้นค่าเช่าบ้านเหรอพี่กวาง” เก้งในชุดนักเรียนมัธยมต้นสอดมือมาขยับกลอนประตูให้เปิดออก แล้วน้องชายก็แทรกกายเข้ามาในบริเวณบ้าน “เสียงดังลั่นซอยเลย” “อือ...” เธอพยักหน้า “เก้งหิวไหม กินอะไรมาหรือยัง” “ไม่ล่ะ เพื่อนผมเลี้ยงชานมไข่มุกมาแล้ว” หนุ่มน้อยที่สูงเกือบเท่าพี่สาวแล้ว ระบายยิ้มที่มุมปาก “อย่าไปให้เพื่อนเลี้ยงบ่อย ๆ นะ เกรงใจเขา” “ผมช่วยมันทำการบ้านนะพี่ เป็นข้อแลกเปลี่ยนกันไง” เก้งเอาตัวรอดได้ต่อหน้าพี่สาวเสมอ “งั้นก็เข้าบ้าน มาช่วยดูยายหน่อย พี่จะทำกับข้าวเย็นรอแม่มา” สองพี่น้องก้าวเคียงกันไปยังห้องนั่งเล่นที่มียายผู้นอนติดเตียงดูโทรทัศน์อยู่ เก้งวางกระเป๋านั่งคุยกับยายจ้อย ๆ ส่วนเธอเปิดตู้เย็น สำรวจผักและเนื้อสัตว์ที่พอจะเหลืออยู่เพื่อทำมื้อเย็น ประมาณหนึ่งทุ่มแม่ก็กลับมาพร้อมใบหน้าเศร้า ๆ “บริษัทแม่ปิดกิจการ” ขวัญรักเข่าอ่อน แทบล้มทั้งยืน “ฝ่ายบุคคลบอกว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว จ่ายเงินเดือนให้สามเดือน ส่วนที่เหลือให้ไปฟ้องเอา” พอเห็นมารดาห่อเหี่ยวเช่นนั้น เธอรีบฝืนยิ้ม ทำตัวให้เข้มแข็ง “แม่ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะจ๊ะ พรุ่งนี้กวางจะไปหางานอีก งานรายชั่วโมงก็เอาจ้ะ” ขวัญรักให้ความหวังตนเองและมารดา แม้จะรู้สึกหนทางริบหรี่ เพราะเธอหางานมาเป็นเดือนแล้ว ยังไม่มีบริษัทไหนเรียกสักที ในสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ ไม่ใช่มีเพียงคนที่รัดเข็มขัด บริษัทต่าง ๆ ก็เขี้ยวในการรับคนเช่นเดียวกัน “เก้งก็จะไปช่วยหางานทำเสาร์อาทิตย์ อย่างรับจ้างเฝ้าร้านเกมไงแม่” น้องขันอาสาอีกแรง “แม่กลัวเก้งจะเหนื่อยไปนะสิลูก แค่อยู่บ้านช่วยดูแลยายในวันหยุดก็พอ” สีหน้าแม่แช่มชื่นขึ้นมาบ้าง ที่เห็นลูกสองคนขยัน หาทางช่วยเหลือครอบครัว “แม่มากินข้าวก่อนเถอะค่ะ วันนี้กวางทำน้ำพริกผัดหมูของโปรดแม่ด้วย” ขวัญรักแก้สถานการณ์ทุกอย่างด้วยการกิน “มีไข่เจียวมะเขือเทศของเก้งด้วยนะ” “กิน ๆ หิวแล้ว” น้องเอามือลูบท้อง เข้าครัวช่วยกันเอาโต๊ะพับขึ้นมา ลำเลียงอาหารวาง ล้อมหน้ากันกินมื้อเย็นพร้อมหน้าพร้อมตัวครอบครัว โดยที่ขวัญรักกินข้าวในจานตัวเองคำ ป้อนยายบนเตียงคำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD