Episode-06จำให้ขึ้นใจ

1394 Words
กลับมาถึงบ้านพี่เลย์ก็เหวี่ยงฉันเข้าไปในห้องเต็มแรงก่อนจะล็อคประตูแล้วหันมาเผชิญหน้ากับฉันอีกครั้ง “อย่าหวังว่าเธอจะได้ออกไปไหนอีก” “หนูไม่ได้โกหกนะคะ พวกเราไปที่วัดกันแล้วจริง ๆ” ฉันยังคงพยายามอธิบายแต่เหมือนเขาจะไม่รับฟังอะไรเลย “แต่สิ่งที่ฉันเห็นมันไม่ใช่” “ไม่เชื่อพี่โทรคุยกับแซนก็ได้ หนูไม่ได้โกหก” ฉันยังคงพยายามโต้เถียงอยู่แบบนั้น และแน่นอนว่าเขาเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นมากกว่า ผลัก! พี่เลย์ผลักฉันลงบนที่นอนก่อนจะขึ้นค่อมร่างกายฉันไว้ ไอ้ท่าทางหมิ่นเหม่แบบนี้มันไม่ค่อยดีเอาซะเลย “พี่จะทำอะไร” “ทำไม? ทีอยู่กับคนอื่นยังระริกระรี้ได้เลย” “พูดบ้าอะไรของพี่” “พูดตามที่เห็น” “มันไม่ใช่อย่างที่เห็น และถึงมันใช่พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับหนูแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์กับชีวิตของเธอทุกอย่างนั่นแหละ” จบประโยคริมฝีปากหนาก็บดขยี้ลงมาที่ริมปากฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว พี่เลย์ใช้มือข้างหนึ่งรวบแขนฉันไว้เหนือศีรษะ จากนั้นใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่กระชากชุดสวยของฉันจนขาดติดมือเขาไป การกระทำของเขาในตอนนี้มันโคตรป่าเถื่อนที่สุด “อย่าทำแบบนี้ ฮึก!” ฉันยังคงแหกปากร้องห้ามเมื่อเรียวลิ้นร้อนโลมเลียไปมาตามซอกคอตลอดไปจนถึงเนินอก บราเซียร์สีสวยถูกถอดออกอย่างไม่ใยดี ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะเลื่อนมาบีบเค้นหน้าอกฉันจนรู้สึกปวดหนึบ “ฮือ... อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ” เหมือนน้ำตาของฉันจะทำให้เขามีสติขึ้นมานิดหน่อย “ใครใช้ให้เธอดื้อกับฉันก่อนล่ะ” “หนูเปล่า … หนูไม่ได้โกหก” เขาผละออกหยัดตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสบตากับฉันอย่างตั้งใจ “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอโกหกนี่ แต่เธอก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี” “ฮึก!” ฉันคิดว่าเขาจะหยุด แต่เปล่าเลยเขายังคงไม่หยุดการกระทำบ้า ๆ นั่นแต่เลือกที่จะลดความดิบเถื่อนลงแทน ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยน้ำตาให้ฉัน พี่เลย์ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมด เผยให้เห็นสรีระร่างกายของเขาทุกสัดส่วน “ปล่อยมือ” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยเมื่อเห็นฉันเอาแต่กอดผ้าห่มไว้อยู่แบบนั้น “อยากเจ็บมากกว่านี้สินะ” เม้มปากเข้าหากันจนแน่น ก่อนจะค่อย ๆ คลายผ้าออกทีละช้า ๆ จนพี่เลย์สามารถแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกันได้สำเร็จ ร่างกายเปลือยเปล่าของเขาที่กำลังแนบชิดอยู่ตอนนี้ทำเอาฉันสั่นไปหมด ทั้งกลัวและประหม่าในเวลาเดียวกัน “ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะใจดีกับเธอให้มากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ค่อยอยากจะเชื่อฟังฉันสักเท่าไหร่” “หนูไม่ฟังอะไร พี่นั่นแหละคิดไปเอง” “งั้นเหรอ” ตาคู่คมจ้องมองฉันนิ่ง ๆ แววตาว่างเปล่าของเขามันทำให้ฉันจับทางไม่ได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” “มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน เธอก็โตแล้วนะเขียนฟ้า อย่าทำเป็นไร้เดียงสาให้มันมากนักเลย” พี่เลย์มองหน้าฉันอีกครั้ง แต่คราวนี้แววตาของเขามันไม่เหลืออารมณ์โกรธหรือความดิบเถื่อนให้เห็นอีกแล้ว ไม่ว่างเปล่า … “อย่าเกร็งแล้วเธอจะไม่เจ็บ” หัวใจดวงน้อยสั่นไหวไปมาเมื่อได้ยินประโยคนี้ รู้สึกได้เลยว่ามีอะไรบางอย่างสัมผัสอยู่บริเวณนั้นของฉัน พี่เลย์ถอดกางเกงในตัวจิ๋วของฉันอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาก็หยัดตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะทำอะไรบางอย่างกับร่างกายฉัน “ฮึก!” ฉันร้องไห้ออกมาเสียงดังเมื่อรู้ว่าตัวเองจะเจอกับอะไร มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ หนี้ที่ฉันไม่ได้ก่อแต่ฉันต้องใช้ร่างกายตัวเองชดใช้แทนคนอื่นแบบนี้อย่างนั้นเหรอ ช่างไม่ยุติธรรมกับฉันเลย “เงียบ! ถ้ายังร้องอีกฉันจะทำจริง ๆ” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยก่อนจะผละตัวออกไป จากนั้นใส่เสื้อผ้าแล้วออกจากห้องฉันไปทันที นานหลายชั่วโมงที่ฉันเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องและร้องไห้อยู่แบบนั้น ใครมาเคาะประตูเรียกก็ไม่หือไม่อือจนกระทั่งถึงเช้าวันใหม่ อาบน้ำชำระร่างกายพลางก้มมองร่องรอยที่พี่เลย์ทำไว้ จากที่คิดว่าเขาคงใจดีกับฉันบ้าง ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด เชื่อฉันสิไม่มีใครทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรอก เป็นอีกหนึ่งวันที่รู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ สัมผัสที่พี่เลย์มอบให้มันยังคงติดตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึกของฉัน ในขณะเดียวกันมันก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป บางครั้งก็รู้สึกว่าเขาอ่อนโยน แต่บางทีเขาก็เหมือนคนไร้หัวใจ เย็นชา กร้านโลกอย่างกับเป็นคนละคนกันเลย “ป้าจะทายาให้นะคะ” น้ำเสียงคุ้นเคยดังขึ้นขณะที่ฉันนั่งเหม่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย “ยา… ยาอะไรเหรอคะ” “ที่แขนหนูนี่ไง ช้ำขนาดนี้ไม่ปวดเหรอลูก” เหลือบมองแขนตัวเองมันก็ช้ำจริง ๆ นั่นแหละค่ะ เป็นรอยที่พี่เลย์กระชากเมื่อวานสินะ “ขอบคุณนะคะหนูไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ เดี๋ยวมันคงหายเอง” “เมื่อวานหนูได้ไปหาแม่จริงไหมเขียนฟ้า” “จริงค่ะ ป้าก็คิดว่าหนูโกหกเหมือนกันเหรอ” พูดออกไปอย่างน้อยใจ ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อฉันบ้างเลย “ไม่ใช่แบบนั้น ป้าเชื่อค่ะแต่มันมีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม” “ไม่มีค่ะ หนูแค่ไปกินปิ้งย่างกับเพื่อนแค่นั้นเอง แต่พอดีบังเอิญเจอเพื่อนผู้ชายในห้องเดียวกันพวกเราก็เลยนั่งกินด้วยกันแค่นั้น” “แล้วคุณเลย์ไปเจอได้ยังไง มีการปะทะอารมณ์กันหรือเปล่า” “ไม่รู้ว่าพี่เลย์มาได้ยังไง อยู่ดี ๆ เขาก็อาระวาดใส่กล่าวหาว่าหนูคิดลองดีกับเขา” ฉันร่ายประโยคยาว ๆ ให้คนตรงหน้าฟัง และถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่เข้าใจว่าตัวฉันลองดีเขาตอนไหน เรื่องอะไร “เฮ้อ... เอาเป็นว่าหนูต้องรักษาระยะห่างไม่ให้ใกล้คนอื่นอีกก็พอ” “...” “ป้าพูดไม่ได้ สักวันหนูคงเข้าใจเอง” มือบางลูบศีรษะฉันอย่างนึกเอ็นดู ฉันก็หวังว่าสักวันตัวเองจะเข้าใจทุกเรื่องราวมากกว่านี้ ระหว่างวันฉันยังไม่เจอพี่เลย์เลยค่ะจนท้องฟ้ามืดลงอีกครั้งเขาถึงกลับมา “ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่อาบน้ำอีก” “กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” จบประโยคฉันก็รีบตรงขึ้นห้องทันที ไม่สนใจว่าพี่เลย์จะพูดอะไรต่ออีกหรือเปล่า หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนเลย ไม่ได้ง่วงหรอกแต่ไม่อยากลงไปเจอหน้าเขาเท่านั้นเอง แต่แค่ไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนที่ฉันไม่อยากเจอนั่นแหละ เขานั่งลงข้างฉันในมือมียาทามาด้วย “คราวหลังอย่าดื้ออีก” “...” “เข้าใจไหมเขียนฟ้า” “เข้าใจแล้วค่ะ” ขานรับอย่างไม่มีทางเลือกเพราะไม่รู้ว่าตัวเองดื้อตอนไหน แต่ช่างเถอะเอ่ยถามกับคนไม่มีเหตุผลมันจะไปได้คำตอบอะไรล่ะคะ พี่เลย์มองหน้าฉันนิ่ง ๆ ก่อนจะทายาให้ฉันซึ่งเกิดจากฝีมือของเขาเอง “กินยาแก้ปวดแล้วนอนพักซะ” “ป้าสายใจเอาให้กินแล้วค่ะ” “งั้นก็นอน” จบประโยคเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำและทำทุกอย่างเหมือนเป็นห้องตัวเอง จากนั้นทิ้งตัวลงนอนข้างฉัน “พี่จะนอนที่นี่เหรอคะ” “แล้วคิดว่าไง” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD