Episode-07แค่ของเล่น

869 Words
“วันนี้มีแขกเหรอคะรถเยอะแยะไปหมดเลย” ฉันถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่ามีรถเข้าออกหลายคันมาก “เพื่อน ๆ เขามาสังสรรค์กันน่ะค่ะ” พี่แม่บ้านเอ่ย “อ๋อ…” ตั้งแต่เช้ายันเย็นฉันเอาแต่เก็บตัวอยู่ที่ศาลาริมน้ำไม่ออกไปให้พี่เลย์เห็นอีกเลย ไม่รู้ว่าควรทำหน้ายังไง เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรแต่สำหรับฉันมันไม่ลืมค่ะ มันกลายเป็นภาพจำที่ทำให้ฉันกลัว ช่วงเย็นฉันเข้าครัวกับแม่บ้านและทานมื้อเย็นพร้อมป้าสายใจเลย จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลงฉันก็จะกลับขึ้นห้องแล้ว แต่ระหว่างทางมันต้องผ่านตรงกลุ่มที่พี่เลย์นั่งอยู่ไง ยืนชั่งใจอยู่นานมากไม่กล้าเจอหน้าเขา ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น “จะหลบหน้าอีกนานไหม?” “พี่เลย์!” ตกใจหมดเลยค่ะ คิดว่าไม่มีใครเห็นซะอีก “กินข้าวก่อนสิแล้วค่อยขึ้นห้อง” “หนูกินกับป้าสายใจแล้ว” เขาเงียบไม่พูดอะไรออกมาอีก เห็นแบบนั้นฉันจึงเป็นฝ่ายพูดเอง “ขอตัวก่อนนะคะ” หมับ! “เจ็บ!” ฉันเผลอร้องออกมาเมื่อถูกพี่เลย์กระชากแขนอีกครั้ง เขาดูแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะช้อนสายตามองฉัน “ไปโดนอะไรมา” “ถามมาได้! ก็พี่กระชากเมื่อวานไง” เขาคงไม่คิดสินะว่าตัวเองแรงเยอะขนาดไหน หรืออีกนัยหนึ่งก็คงคิดว่าฉันสำออยจับนิดจับหน่อยก็เป็นรอยล่ะมั้ง “จะสามทุ่มแล้วขึ้นห้องไปนอนเถอะ” “ค่ะ” ขานรับอย่างเข้าใจก่อนจะเดินเข้ามาในตัวบ้าน “ใครวะไอ้โรม มึงไม่คิดจะแนะนำหน่อยเหรอ” “เสือก!” หันไปด่าเพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับฉันอีกครั้ง “นี่ก็อีกคนจะยืนอีกนานไหม” น้ำเสียงไม่พอใจเอ่ยเมื่อเห็นว่าฉันยังไม่ก้าวไปทางไหนสักที ได้ยินแบบนั้นฉันจึงก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นชั้นสองไป แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงตามหลังมาอยู่ดี ว่าแต่ทำไมเขาถึงเรียกพี่เลย์ว่าพี่โรมล่ะ หรือฉันหูเพี้ยน? “ไม่บอกพวกกูจริง ๆ อะ” “ไม่มีอะไร... ก็แค่ของเล่น” “...” นั่นสินะ ลูกหนี้อย่างฉันจะเป็นอะไรได้นอกจากของเล่นของเขา ไม่ว่าเขาจะสั่งให้ทำอะไรฉันก็ต้องยอมจำใจทำ ไม่มีสิทธิ์ออกปากออกเสียง ทางเดียวที่จะทำให้ฉันหลุดพ้นคือต้องมีเงินหนึ่งร้อยล้านบาทเท่านั้น ครืด.. ครืด.. “ว่าไงแซน” (ให้ตายเหอะ ทำไมแกเพิ่งรับสายฉันเนี่ยเขียนฟ้า) “โทษที ฉันเอามือถือไว้บนห้องน่ะ” (แล้วแกเป็นยังไงบ้าง อาร์ทบอกว่าเขาลากแกออกไปด้วยนี่) “ฉันโอเค” (โอเคอะไรเสียงหงอยขนาดนี้) “ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ” (ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นหรือไม่สบายใจยังไงแกโทรหาฉันได้ตลอดเลยนะ ทุกเวลาเลยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ) “อื้ม ขอบใจนะ” ถือว่าโชคดีที่ยังมีแซนอยู่ข้าง ๆ แค่คอยถามคอยปลอบมันก็ดีมากแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแซนด้วย ฉันจึงไม่อยากให้มันต้องมาช่วยแบกความรู้สึกแย่ ๆ พวกนั้นยังไงล่ะ หลังจากวางสายฉันก็อาบน้ำเข้านอนตามปกติ จนกระทั่งกลางดึกรู้สึกเหมือนร่างกายถูกรบกวนหรือว่าฉันจะโดนผีอำ? แต่ไม่หรอกเพราะกลิ่นน้ำหอมมันค่อนข้างคุ้นเคย คิดได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นนั่งทันทีถึงแม้ว่าภายในห้องจะมืดสนิทแต่ฉันก็พอมองออกว่าเป็นใคร “พี่เลย์ “ทำไม?” “เข้ามาทำไมคะ” “เธอมีสิทธิ์ตั้งคำถามแบบนี้กับฉันตั้งแต่เมื่อไหร่” “หนูไม่มีสิทธิ์หรอกค่ะแต่พี่เมามากแล้ว อย่าหาเรื่องกันดีกว่า” “ถอดเสื้อผ้าออก” ฉันเงียบไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าต่อต้านฉันแบบนี้” ประโยคนี้ทำเอาฉันนึกถึงคำพูดที่ว่า ก็แค่ของเล่น ... และตอนนี้เขากำลังไม่พอใจมากด้วย ในเมื่อไม่มีทางเลือกฉันจึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย ค่อย ๆ ถอดชุดนอนออกผ่านความมืดก่อนจะล้มตัวลงนอนด้วยความรู้สึกมากมาย พี่เลย์ถอดเสื้อของตัวเองโยนทิ้งไปแล้วนอนลงข้างฉัน จากนั้นสอดมือเข้ามาในผ้าห่มของฉันแล้วหยุดอยู่ที่บริเวณหน้าอก มือหนาออกแรงบีบเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทำอะไรไปมากกว่านี้ ฉันได้แต่นอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับไปไหน ฉันไม่ชอบที่เขาทำแบบนั้น “นอนเถอะ ดึกมากแล้ว” “คะ?” “หรืออยากให้ทำมากกว่านี้” “ไม่อยากค่ะ” พูดจบฉันก็รีบหันหลังให้พี่เลย์ทันที เขายังคงวางมือไว้แบบนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง หลงเหลือแค่เพียงเสียงลมหายใจของเราสองคน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD