Episode-10ใครอีกคน?

1535 Words
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีรถก็จอดสนิทที่จุดพักรถแล้ว “หนูไปเข้าห้องน้ำนะ” หันไปบอกพี่เลย์ก่อนจะลงจากรถ กวาดสายตามองรอบบริเวณคนเยอะพอสมควรค่ะ แต่ฉันไม่รู้จักใครสักคน “แล้วไอ้เลย์ล่ะ” พี่บอลเอ่ยถามขึ้น ตอนนี้คงมีแค่เขาที่รู้จักฉัน “คุยโทรศัพท์อยู่ในรถค่ะ” “แล้วเราจะไปไหนครับ” “ไปเข้าห้องน้ำค่ะ” “พอดีเลย พี่หาเพื่อนไปเหมือนกัน” พี่ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยอย่างเป็นกันเองพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้ฉันอย่างเป็นมิตร “ไปด้วยกันก็ได้ค่ะ” ฉันว่าพลางคลี่ยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากบริเวณนั้น “พี่ชื่อเฟิร์นนะเป็นเพื่อนไอ้แฝดน่ะ เราชื่อเขียนฟ้าหรือเปล่า” “ใช่ค่ะ” “ได้เจอกันสักทีเนอะ” “อะไรนะคะ?” “ไม่มีอะไรหรอกพี่ก็พูดไปตามประสานั่นแหละ” ฉันไม่ได้หูฝาดหรือได้ยินอะไรผิดเพี้ยนไปแน่นอน แค่ไม่รู้ว่าพี่เฟิร์นพูดแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงแล้วแฝดไหน? เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อนแล้วกัน หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาก็เห็นพี่เลย์ยืนอยู่หน้าห้องน้ำแล้ว แต่เขาไม่ได้มารอฉันหรอกเขามาเข้าห้องน้ำเหมือนกัน “พี่เขียนฟ้าไปร้านสะดวกซื้อกับไอรีนหน่อยสิคะ” “ไปสิ” ไอรีนเป็นผู้หญิงที่ยิ้มสวยมากค่ะ แต่มันนึกไม่ออกว่าไอ้รอยยิ้มแบบนี้มันเหมือนใคร “อืม... กินอะไรดีนะ” ทำท่าทางครุ่นคิดก่อนจะเดินตรงไปหยิบขนมขบเคี้ยวตามด้วยขนมปังและน้ำอัดลม “พี่เขียนฟ้ารบกวนไปกดกาแฟให้สักแก้วสิคะ” “ไอรีนกินกาแฟด้วยเหรอ” “ของพี่เลย์ต่างหาก รายนั้นน่ะเขากินเป็นชีวิตจิตใจประหนึ่งว่าเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบของร่างกายไปแล้วฮ่า ๆ” “ขนาดนั้นเชียว” “ยิ่งกว่านั้นอีก วันไหนกินผิดเวลานะวีนฉ่ำตั้งแต่เช้ายันเข้านอน” “พี่เชื่อ” อารมณ์ฉุนเฉียวเก่งมาก บทจะดีก็ดีจนงง จ่ายเงินเสร็จฉันกลับมาที่รถตามเดิมแต่ทว่าอิงดาวกลับนั่งเบาะหน้าอยู่ก่อนแล้ว เห็นแบบนั้นฉันจึงจะไปนั่งเบาะหลังแทน หมับ! “เจ็บนะ” พี่เลย์จับแขนฉันเต็มแรงแต่เขาคงลืมไปว่าฉันมีแผลอยู่ “ขอโทษที” สีหน้าเขาดูตกใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะจับมือฉันไปดูว่าเลือดออกหรือเปล่า “มานี่สิ” เดินตามเขาไปเงียบ ๆ จนถึงคนกลุ่มหนึ่ง ก็เพื่อนเขานั่นแหละ “พี่ขอโทษนะ” “พี่ก็ขอโทษครับ” “...” ฉันหันมองหน้าพี่เลย์อย่างไม่เข้าใจ แล้วมาขอโทษฉันเรื่องอะไร “ขอโทษหนูเรื่องอะไรเหรอคะ” “มันสองคนเมาและมีปากเสียงกันเธอถึงต้องมาเจ็บตัวเพราะเศษแก้วพวกนั้นไง” พี่เลย์เอ่ย “อ๋อ … ช่างมันเถอะ พวกพี่ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ หนูไม่ระวังเองก็เลยล้มลงไป” ฉันบอกปฏิเสธและไม่โทษใคร ถ้าฉันไม่ซุ่มซ่ามคงไม่ขมำลงไปแบบนั้น “น่ะ! เห็นไหมไอ้เลย์ น้องมันยังไม่อะไรเลย มีแค่มึงกับไอ้โรมนั่นแหละที่โวยวายกันไปเอง” “หุบปาก!” พี่เลย์ตวาดออกมาเสียงดังลั่นเมื่อหนึ่งในสองคนนั้นพูดขึ้น สายตาของเขาพร้อมจะหักคอทุกคนได้ตลอดเวลาด้วยซ้ำ แล้วมันเรื่องอะไรทำไมเขาต้องหัวเสียขนาดนี้ แล้วใครคือพี่โรม? “พี่ชื่อเติ้ลนะ ไอ้ปากเสียนี่ชื่อโอม” “มึงน่ะสิปากเสีย” “หยุด!” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ฉันได้แต่ยืนงงและมองพี่เติ้ลกับพี่โอมสลับกันไปมา เขาทะเลาะกันจริงจังหรือเปล่า หรือเป็นเพื่อนสนิทกัน “กัดกันอยู่นั่นแหละ มึงสองคนไม่เบื่อบ้างหรือไง” พี่เลย์เอ่ยอย่างเอือมระอาแต่พวกพี่ ๆ กลับยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงเป็นเรื่องปกติของพวกเขาล่ะมั้ง “ไปกันต่อเหอะ กว่าจะถึงคงใกล้เช้าพอดี” พี่บอลพูดเพื่อทำลายความเงียบ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันขึ้นรถราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่เลย์คะ พี่คนที่ชื่อโรมหนูเคยเจอเขาไหม” เขาต้องเป็นคนเดียวกับที่ฉันรับสายมือถือของพี่เลย์แน่เลย พี่เลย์หันมองฉันครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมา “เคย” “คนไหนเหรอคะ” “อยากรู้ไปทำไม” “ก็หนูสงสัยที่พี่โอมพูดเมื่อกี้” “ไม่ต้องอยากรู้นักหรอก ขึ้นรถได้แล้ว” ได้ยินแบบนั้นฉันจึงเงียบปากก่อนจะขึ้นรถไป ส่วนพี่เลย์เขาสูบบุหรี่อยู่ค่ะ แค่เพียงไม่นานก็เดินกลับมาที่รถเหมือนเดิม “ไปนั่งที่เดิม” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยก่อนจะตวัดสายตามาทางฉันอย่างไม่พอใจ แต่ประโยคเมื่อครู่พี่เลย์ไม่ได้พูดกับฉันนะคะ เขาพูดกับอิงดาวต่างหาก “ห่างเหินจังเลยนะคะ” “เท่าที่จำได้เธอไม่มีสิทธิ์อะไรนะ” “เหรอคะ? นอนกับมันแล้วงั้นสิ” “ถ้ายังอยากอยู่ในชีวิตพี่ก็กรุณารักษาขอบเขตด้วย” “พี่เลย์!” “อย่าให้พูดซ้ำนะ” ท่าทีจริงจังของพี่เลย์ทำเอาอิงดาวต้องยอมทำตาม ฉันไม่กล้าปริปากค้านอะไรและรู้ดีว่าเธอไม่พอใจมากแน่แต่ทำอะไรไม่ได้เท่านั้นเอง “ไปนั่งข้างหน้าสิคะ” ไอรีนกระซิบบอกฉันจึงเปิดประตูรถแล้วกลับไปนั่งที่เดิม “เราจะไปไหนกันเหรอคะ” ตัดสินใจถามออกไปเพื่อทำลายความเงียบ “ขึ้นเหนือ” พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ลึก ๆ ในใจไม่คาดหวังว่าเขาจะตอบด้วยซ้ำ ก็อย่างที่รู้เขาน่ะปากร้ายจะตาย เอนตัวนอนเหมือนเดิม รถแล่นไปตามท้องถนนเรื่อย ๆ เหลือบมองดูไอรีนเธอผล็อยหลับไปแล้วค่ะรวมไปถึงอิงดาวก็ด้วย “ทำไมไม่นอน” พี่เลย์ถามเมื่อเห็นฉันเอาแต่มองวิวข้างทางอยู่ตลอด “หนาวค่ะ ปวดแผลด้วย” “แล้วทำไมไม่ห่มผ้า” เหลือบมองผ้าที่อยู่ในมือก่อนจะตัดสินใจยื่นไปตรงหน้าพี่เลย์ ก่อนหน้านี้อิงดาวเธอห่มอยู่ค่ะ อย่าหาว่าเสียมารยาทเลยนะแต่กลิ่นน้ำหอมมันแรงเกินไปจริง ๆ “ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้นะ” พี่เลย์พึมพำออกมาพลางเหลือบมองกระจกหลังไปยันอิงดาวเล็กน้อย “ให้เขาห่มไปเถอะค่ะ” จบประโยคฉันเอี้ยวตัวไปห่มผ้าให้เธอ “พ่อหนูได้มาหาพี่บ้างไหมคะ” นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วที่ฉันไม่เจอพ่ออีกเลย และเขาก็ไม่เคยติดต่อมาเช่นกัน “ไม่” ฉันไม่ได้คาดหวังว่าพ่อจะมารับฉันกลับไปอยู่ด้วยหรอกนะแค่หวังว่าเขาจะมาหาฉันบ้างแต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วแหละว่าตัวเองถูกทิ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เอาเวลาคิดถึงพ่อเลี้ยงเฮงซวยไปตามหาพ่อแท้ ๆ น่าจะมีประโยชน์กว่านะ” ได้ยินแบบนั้นฉันหันมองหน้าพี่เลย์ทันที “พี่รู้ได้ยังไงว่าหนูไม่เคยเจอพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง” นอกจากแซนก็ไม่มีใครรู้อีกเลยค่ะเพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่เคยเล่าให้คนอื่นฟังอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะรู้เรื่องราวของฉันเป็นอย่างดีเสียอีก “ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ” “แล้วพี่รู้ไหมว่าพ่อหนูเป็นใคร” “...” คำถามของฉันทำเอาพี่เลย์เงียบไป ท่าทางของเขาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง “ใจคอจะชวนฉันคุยจนเช้าเลยหรือไง” นอกจากจะไม่ตอบแล้วเขายังเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยอีกด้วย “เงียบก็ได้” บ่นอุบอิบคนเดียวพลางสาดส่องสายตาไปนอกกระจก “นอนได้แล้วอย่าพูดมากอยู่” พี่เลย์ดุฉันอีกครั้งก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่สวมใส่มาให้ฉัน “ห่มผ้าแล้วนอนซะ” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ มีพียงเสียงเพลงแผ่วเบาที่ยังคงได้ยินอยู่ก่อนที่ฉันจะผล็อยหลับไปในที่สุด ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายลอยได้และสัมผัสกับที่นอนนุ่ม ๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นพี่เลย์อยู่ข้าง ๆ แล้ว “ไม่ปลุกล่ะคะ” งัวเงียลุกขึ้นนั่งพร้อมกับมองไปรอบบริเวณห้อง “นอนไปเถอะดึกมากแล้ว” มือหนาดันศีรษะฉันให้นอนลงตามเดิมพร้อมกับห่มผ้าให้แล้วลูบศีรษะไปมาคล้ายกับกล่อมให้ฉันนอนจนเคลิ้มไปในที่สุด “ตื่นเหรอวะ” “ชู่...เงียบ ๆ ดิ” “กูลงไปข้างล่างแป๊บนะ” “เออ” เสียงคุ้นหูจัง เขาคุยกับใครนะ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD