ช่วงนี้งานของคามิเลียดูจะล้นมืออยู่บ้าง
เนื่องจากเธอต้องดูแลร้านตัดชุดของไคโร…คามิเลียก็เลยเปลี่ยนร้านตัดเสื้อของแบรนเดอร์ที่เธอกำลังสร้างให้เป็นร้านขายเครื่องประดับต่างๆ แทน
เวลาผ่านไปสองเดือนอย่างรวดเร็ว…
“เพล้ง!!!”
“ใครเป็นคนทำอาหารพวกนี้มาห๊ะ!!! ไล่มันออกให้หมด!!”
เคเดนเวี้ยงจานอาหารบนโต๊ะทิ้ง…นี่เป็นอาหารจานที่สิบแล้วที่ยกมา
เซอร์ชาล็อตทำได้แค่ถอนหายใจเท่านั้น
อารมณ์ของท่านดยุคช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ มาราวหนึ่งเดือนแล้ว…เมื่ออาทิตย์ก่อนเขามารายงานเกี่ยวกับกาสิโนที่กำลังก่อสร้างก็มาเจอกับท่านดยุคที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่..
ใช่…ร้องไห้อย่างหนัก
ในวินาทีนั้นเขาคิดว่าตัวเองได้เป็นบ้าไปแล้ว!!..ท่านดยุคร้องไห้เพียงเพราะ…หมึกบนโต๊ะหมด…
ชาล็อตคิดว่านั่นคือเหตุการณ์ที่อาจจะบ้าบอที่สุดในชีวิตเขาแล้ว
แต่ผ่านมาอีกสามวันท่านดยุคก็เริ่มไม่สามารถรับประทานอาหารได้เลย…
พ่อครัวกว่าสิบคนขอคฤหาสน์ไคโรถูกเปลี่ยน
หมอหลวงมากมายถูกเชิญมารักษาอาการที่ดูจะน่าเป็นห่วงอย่างมากนี้
ทว่าไม่มีใครจะสามารถรักษาอาการพวกนี้ได้เลย…ทุกคนต่างบอกกล่าวเป็นคำเดียวกันว่าจากชีพจรของท่านดยุคนั้นเขาแข็งแรงดีทุกอย่าง
…ความซวยจึงตกมาที่เขาและคนรับใช้ในคฤหาสน์ที่ต้องรองรับอารมณ์ที่แสนจะแปรปรวนของท่านดยุค
เดี๋ยวร้องไห้..เดี๋ยวโมโห..
“เคเดน…เหตุใดถึงทำลายข้าวของเช่นนี้ห๊ะ!!”
เคเดนทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา..
“อาหารพวกนั้นมัน..เพียงข้าได้กลิ่นก็อยากจะอาเจียนแล้ว…”
แกรนด์ดัชเชสไคโรถอนหายใจ
“ชาล็อตสั่งคนครัวให้ทำอาหารอ่อนๆ พวกโจ๊กกับน้ำซุบมาให้ท่านดยุค…”
“ครับ”
ชาล็อตรีบออกไปที่ห้องครัวทันที
“นอนพักเสียหน่อยเถิดเคเดน…”
“…ข้าไม่อาจจะหลับตาได้เลยครับท่านแม่…พอข้านอนลงมันราวกับว่าห้องนี้กำลังหมุนอยู่!!”
“..เจ้าป่วยเป็นอะไรกัน..หมอหลวงมากมายก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้!”
เคเดนยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ…น้ำตาของเขาไหลลงมาที่หางตา..
ให้ตายเถอะ!!..ทั้งชีวิตของเขานั้นไม่เคยจะร้องไห้ เหตุใดถึงมาเสียน้ำตาให้กับอาการปวดหัวนี่กันนะ!!!
ชาล็อตถือถาดอาหารรอบที่สิบเอ็ดของวันนี้ไปวางไว้ที่โต๊ะ…พอดีกับหมอหลวงคนใหม่มาถึงพอดี
“ท่านหมอหลวงมาแล้วครับ!!”
เซอร์ชาล็อตรีบพาหมอหลวงมาหาเคเดน…
“หากว่าหาสาเหตุไม่ได้ก็ลาออกจากการเป็นหมอหลวงไปซะ!!
เคเดนกล่าวพร้อมกับส่งมือให้หมอหลวงจับชีพจร
หมอหลวงชราได้ยกผ้าขึ้นมาซับเหงื่อที่ผุดมาจากหน้าผากของเขา…งานนี้ดูจะสร้างความกดดันต่อเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชีพจรของท่านดยุคนั้นแข็งแรงดีไม่มีส่วนไหนที่น่าเป็นห่วงเลย…ท่านดยุคมีอาการอย่างไรบ้างนะครับ…”
เซอร์ชาล็อตยกกระดาษที่เขาจดเกี่ยวกับอาการของท่านดยุคขึ้นมาอ่านให้หมอหลวงฟัง
“เวียนหัว อารมณ์แปรปรวน เบื่ออาหาร กินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมาจนหมด หงุดหงิดง่าย….”
หมอหลวงใช้ความคิดอย่างหนักเพื่อจะหาสาเหตุของอาการที่เคเดนเป็นอยู่ตอนนี้ เขาเขียนบางอย่างลงในสมุดก่อนที่จะเอ่ยปากออกมา
“อาการที่ท่านเซอร์กล่าวมานี้หากเกิดขึ้นกับสตรีถือว่าเป็นอาการตั้งครรภ์ระยะแรกครับ…หรือเรียกได้ว่าอาการแพ้ท้อง หากเกิดขึ้นกับบุรุษอาจจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยา…ท่านดยุคมี….อะ..เอ่อ…”
หมอหลวงชราคิดว่าเขาคงจะตายแน่แท้วันนี้….
“แพ้ท้อง? ….”
เคเดนชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มออกมา…
“ชาล็อตไปเอาเงินให้หมอหลวงหนึ่งแสนเหรียญ…ให้หมอหลวงเตรียมยาบำรุงครรภ์ให้ด้วย!!..”
เคเดนลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปอาบน้ำ
“เคเดน…นั่นลูกจะไปไหนกัน!”
เคเดนแสยะยิ้มพร้อมทั้งถอดเสื้อคลุมออก
“ไปหาว่าที่สะใภ้ของท่านแม่ไงครับ!!…ยินดีด้วยท่านแม่จะได้อุ้มหลานแล้ว….”
“เคเดน…แม่หวังอย่างยิ่งว่าเจ้าคงไม่ไปคว้าสตรีที่ไร้หัวนอนปลายเท้ามาเป็นเมียหรอกนะ!!!”
เขาหัวเราะชอบใจก่อนจะยกน้ำซุบขึ้นมาซด
“วางใจคนนี้ท่านแม่ถูกใจแน่นอน เตรียมงานแต่งไว้ได้เลยครับ!!”
……
คามิเลียนั่งลงบนโซฟา…ช่วงนี้เธอทำงานมากจริงๆ ให้ตายเถอะ….
เธอยกเอกสารการออกแบบเครื่องประดับต่างๆ ขึ้นมาดู
สร้อยข้อมือนี่ดูไม่เลวเลยแฮะ…
หลังจากคัดเลือกแบบเครื่องประดับที่ชอบใจแล้วก็ทำการแยกเอกสาร…เรื่องยิบย่อยพวกนี้อันที่จริงเธอให้คนอื่นทำก็ได้ แต่คามิเลียเป็นคนที่มีความละเอียดสูง
กับงานบางอย่างเธอยอมที่จะเสียเวลาเพื่อลงมือทำด้วยตัวเองดีกว่า
“นายหญิงคะ…ร่มกันแดดของเราขายหมดแล้วค่ะ!!…ข้าคิดว่าอาจจะถึงเวลาที่นายหญิงต้องขยายกำลังการผลิตแล้ว”
คามิเลียยกยิ้มให้ดานิกา….เด็กน้อยผู้นี้ช่วยงานเธอได้มากมายจริงๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงงานทำบัญชียากๆจ้างดานิกาคนหนึ่งราวกับจ้างคนงานห้าคนเลยก็ว่าได้
“ข้าก็อยากจะเพิ่มกำลังการผลิต…แต่คนงานที่คฤหาสน์แบรนเดอร์นั้นมีแต่ผู้สูงอายุ พวกเขาจะทำร่มได้เพียงวันละสามคัน….เราจะไม่เร่งการผลิตหรอกนะเพราะข้าไม่อยากจะได้ของที่ไม่มีคุณภาพ เจ้าจัดการร่างใบจองขึ้นมาให้ข้าหน่อยเราจะเปิดให้จองและทำตามออเดอร์ เช่นสีหรือว่าลายต่างๆ ผู้จองสามารถออกแบบเองได้….”
ดานิกาพยักหน้าแล้วเดินลงไปด้านล่างเพื่อเริ่มร่างใบจองสินค้า
ร่มของเธอนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอีกทั้งไม่เคยมีของพอต่อความต้องการเลย เพราะร่มของแบรนด์เดอร์ทำจากผ้าลูกไม้ปักลายอย่างสวยงาม…
นอกจากจะเป็นของใช้แล้วยังถือเป็นเครื่องประดับอีกด้วย…
ทำให้สตรีชนชั้นสูงแทบทุกคนจะต้องมีติดมือไว้เวลาที่ออกจากนอกคฤหาสน์…ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จเล็กๆ ของเธอเลย
“คามิเลีย!!!”
เคเดนผลักประตูเข้ามาด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ….เขาเดินเข้ามากอดเธอแน่น
“เป็นอะไรไปคะท่านดยุค…ได้ข่าวว่าท่านไม่สบาย…ข้ากำลังจะไปเยี่ยมพอดีเลย…”
เคเดนดึงคามิเลียขึ้นมานั่งบนตักของเขา…ก่อนจะซุกหน้าลงบนหน้าอกของเธอ
“ไม่สบายเลย…ไม่สบายมากๆ…”
สีหน้าของเขาดูไม่ดีจนคามิเลียรู้สึกเป็นห่วง
“ให้ข้าตามหมอมาไหมคะ?”
เคเดนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่งดงามของคามิเลีย แก้มของเธอดูใหญ่ขึ้นเล็กน้อย…เธออาจจะยังไม่รู้ก็ได้ว่าเธอท้อง…
ให้ตายเถอะ!!..เธอจะรู้ไหมว่าเขาวิ่งยิ้มร่ามาหาเธอด้วยความดีใจขนาดไหน!!
“อืม…เรียกหมอมาให้หน่อย.…”
เธอไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เขาจะทำให้เธอรู้เอง!
คามิเลียให้ดานิกาออกไปตามหมอที่เก่งที่สุดมา…พวกเขารอไม่นานหมอก็มาถึง
หมอชราท่าทางใจดีส่งยิ้มให้เคเดนและคามิเลีย
“…จะให้ข้าตรวจท่านใดครับ….”
เคเดนจับข้อมือของคามิเลียแน่น เธอมองเขาอย่างตกใจ
“จะเล่นอะไรคะท่านดยุค?”
เคเดนส่งข้อมือของเธอให้กับหมอ
“ตรวจดูนางที!!…ว่านางตั้งครรภ์รึเปล่า!!!”
คามิเลียตกใจ…เธอพยายามชักมือกลับแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเธอไม่สามารถสู้แรงเขาได้เลย
นี่มันอะไรกัน!!!…เคเดนจะทำอะไรของเขา!!
“ยะ..อย่าตรวจนะคะ!!!”
“จับชีพจรนางเดี๋ยวนี้!!!!!”
ชายชรารีบจับที่ข้อมือของคามิเลีย…เขาเงยหน้าขึ้นมองเคเดนด้วยความหวาดหวั่นใจ
“…ชีพจรของเลดี้ท่านนี้มีสองชีพจรครับ นางตั้งครรภ์ได้ราว…..”
“ออกไป!!!…ออกไปให้หมด!!”
ดานิกาอ้าปากค้างจนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก…เซอร์ชาล็อตดึงมือของเธอให้เดินออกไปด้านนอกกับเขา
“ค่อยๆ คุยกันนะคะ…ท่านดยุค…นายหญิง”
“ชาล็อต!!..เอาเงินให้หมอผู้นี้ด้วย…”
“คะ..ครับท่านดยุค…”
หลังจากทุกคนออกไปก็เหลือแต่คามิเลียและเคเดน เธอนั่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาจึงทำให้เธอลุกหนีไปไม่ได้เลย
เธอ…ตกใจเล็กน้อยที่เธอลืมเรื่องนี้ไปเลย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมางานของเธอยุ่งมากจริงๆ จนเธอลืมไปแล้วว่ารอบเดินของเธอไม่มา…
“เจ้าจะเอายังไง?”
คามิเลียสูดหายใจเข้าก่อนที่เธอจะตั้งสติแล้วเอ่ยออกไป
“ข้า..มีสามีแล้วค่ะ….”
เคเดนอุ้มคามิเลียขึ้นมาให้เธอมองมาที่หน้าของเขา
“…สามีอะไรของเจ้าห๊ะ!!!…อาการที่ข้าเป็นอยู่นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกเรอะ!!..ว่าเด็กในท้องของเจ้าคือลูกของข้า!!”
“จะเป็นลูกของท่านดยุคได้ยังไงกันคะ!!เราไม่เคย….”
เคเดนยกมือของคามิเลียให้จับที่สร้อยคอของเขา
“นี่คือสร้อยคอจากจอมเวทย์มันจะสามารถลบล้างเวทย์ลวงตาทุกชนิดได้ ในคืนนั้นเจ้าคิดว่าที่ข้ายอมพาสตรีที่ไม่รู้จักขึ้นห้องเพราะอะไร…ถ้าไม่ใช่เพราะข้ารู้ว่าเป็นเจ้าตั้งแต่แรก!!”
คามิเลียเม้มปากแน่น…เธอหันหน้าไปมองทางอื่น
“เอาล่ะ..ข้าบอกเจ้าไปหมดแล้ว ทีนี้เจ้าก็บอกข้ามาได้แล้วว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องปลอมตัวเป็นสตรีอื่นมาร่วมรักกับข้า!”
“…ข้า….”
“คาร่า…คือชื่อลูกของเราใช่ไหม? …เจ้าเห็นอะไรในอนาคตกันแน่คามิเลีย!!”
“ท่านรู้ได้ยังไงคะ? ..”
“วันนั้น…วันที่เจ้าเมาเจ้าได้กล่าวทุกอย่างกับข้า…”
“ท่านรู้มาโดยตลอด….”
“ในอนาคตที่เจ้าเห็น…มันมีอะไรที่เจ้ากลัวกันแน่คามิเลีย…เหตุใดถึงไม่ยอมแต่งงานกับข้า…”
“ที่ข้าเห็นมันไม่ใช่อนาคต..แต่มันคืออดีตค่ะ…ข้าตายลงตอนที่คาร่าอายุแปดขวบ”
คามิเลียเงยหน้าขึ้นมองเคเดน
“เราแต่งงานกัน แล้วเซนก็มาจับตัวข้าไป…ให้บารอนผู้หนึ่ง ท่านไปช่วยข้ากลับมา…ข้าตั้งท้องคาร่าหลังจากท่านพาข้ากลับมา…แล้วท่านก็ไม่ยอมรับว่านางคือลูกสาวของท่าน!!!…เราสองแม่ลูกถูกส่งไปอยู่ที่เรือนเล็กที่แสนจะหนาวเย็น…คาร่าลูกสาวที่น่ารักของเรา ท่านไม่เคยแม้แต่จะโอบกอดนางด้วยซ้ำ ข้าเลี้ยงนางมาคนเดียวเพราะหวังว่าท่านจะยอมรับนางเข้าสักวัน…แต่ไม่เลย ท่านไม่เคยมาหาข้าอีกเลย จนข้าตาย….ข้าได้ขอร้องวิงวอนต่อพระเจ้าว่าให้พระเจ้าดูแลนาง…กลับกลายเป็นว่าข้าลืมตาขึ้นมาอีกครั้งตอนอายุสิบแปด….”
…..เคเดนรู้สึกช็อก…เขาอึ้งจนไม่รู้จะกล่าวคำใดออกจากปาก…
ไอ้สารเลวที่เธอกล่าวมา…มันคือเขาในอดีตงั้นเหรอวะ!!!
“คามิเลีย…ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้วนี่ไง…ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเด็กในท้องของเจ้าคือลูกของข้า…มันจะไม่มีเหตุการณ์แบบในอดีตอีกแล้ว…ได้โปรดเถอะ…มาแต่งงานแล้วใช้ชีวิตอยู่กับข้าเถอะนะ…เรามาช่วยกันเลี้ยงคาร่าให้นางเติบโตขึ้นท่ามกลางความรักของเราดีไหม?”
เคเดนยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้คามิเลีย
“….ข้าไม่กล้าเชื่อคำกล่าวของท่านหรอกค่ะ…ท่านยังมีสตรีอีกมากมาย…..”
“ตั้งแต่ที่สวนของคฤหาสน์แมริโน่วันนั้นข้าก็ไม่ได้แตะต้องสตรีคนไหนอีกเลย…คามิเลียเชื่อใจข้าเถิด…”
เคเดนยกมือขึ้นมากุมหน้าของคามิเลีย…เขาขยับหน้าเข้าไปใกล้เธอก่อนจะมอบจุมพิตที่แสนอ่อนโยนราวกับคำปฏิญาณความรักของเขาให้แก่เธอ
“ก๊อก!!..ก๊อก!!”
“ท่านดยุคครับท่านหมอฝากมาบอกว่าห้ามทำกิจกรรมบนเตียงนะครับ…ให้เว้นสักสี่เดือนก่อน!!”
สี่เดือน….ใครมันจะทนไหววะ!!
“ไปเอาเงินที่ให้หมอหลวงผู้นั้นคืนมาซะ!!”
เซอร์ชาล็อตหัวเราะเบาๆ
ไม่บ่อยนักที่เขาจะเห็นอาการเช่นนี้ของท่านดยุค…ว่าแต่อาการแพ้ท้องที่ท่านดยุคเป็นนั้น
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก…เขาหวังอย่างยิ่งว่าพอถึงคราวเขาแล้วมันจะไม่รุนแรงเช่นนี้