ตอนที่ 2...

3420 Words
บ่ายวันเดียวกัน จิรัชยาที่เพิ่งจะทำงานเสร็จเรียบร้อยก็มีเวลานั่งพักและคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น เธอมองไปรอบๆ โรงแรมขนาดกลางที่แม่ของเธอปลุกปั้นและหวังให้เป็นรายได้หลักของครอบครัว แต่ธุรกิจดำเนินมาได้ยังไม่ถึงปี แม่ของเธอก็ด่วนจากไปเสียก่อน เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงานและสานต่อสิ่งที่แม่ตั้งใจ แม้จะว่ามีข้อเสนอมากมาย ที่พร้อมจะจ่ายเงินให้เธอ เพื่อแลกเปลี่ยนกับโรงแรมที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย แต่เธอก็ปฏิเสธไป เพราะอยากรักษาความตั้งใจของแม่เอาไว้ แต่งานนี้มันทำให้เธอเหนื่อยเหลือเกิน เธอไม่ได้เรียนจบมาทางด้านบริหารหรือการโรงแรม เธอพยายามศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจกับมันให้ได้มากและรวดเร็วที่สุด ตลอดเก้าเดือนที่แม่จากไป นอกจากเธอต้องเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เธอยังได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และมันก็ทำให้เธอไม่ต้องจมอยู่กับความเศร้าอย่างที่ควรจะเป็น เธอนั่งทบทวนอะไรไปเรื่อยๆ จนมีเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง ปลุกเธอให้ตื่นจากห้วงความคิด “เจน” “พี่วุฒิ...” “ใช่ พี่เอง ตกใจเหรอที่เห็นพี่” “อ๋อ... เปล่าค่ะ เจนกำลังเหม่อเฉยๆ” “คิดอะไรอยู่” “คิดไปเรื่อยเปื่อยค่ะ พี่วุฒิมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” จิรัชยายิ้มน้อยๆ ให้เขา เพราะไม่อยากแสดงออกว่าไม่อยากเจอเขาเท่าไหร่นัก วุฒิ หรือ วุฒิชัย ก็พอจะดูท่าทีของเธอออก แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อที่จะเอาชนะหัวใจของเธอ วุฒิชัยรู้จักจิรัชยาครั้งแรก เมื่อสามปีก่อน ตอนที่เธอพาแม่ของเธอมาติดต่อธุรกิจกับครอบครัวของเขา แม่ของเธอต้องการเปิดโรงแรม ส่วนบริษัททัวร์เกาะต่างๆ ของครอบครัวเขา ก็พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรกับทุกโรงแรม เพราะนอกจากจะได้รายได้กันทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ยังเป็นการผูกมิตรกับผู้ประกอบการรายใหม่ และเขาไม่เคยรู้สึกกับจิรัชยาในฐานะคนรู้จัก หรือน้องสาวแต่อย่างใด สำหรับเขา เธอคือผู้หญิงที่กุมหัวใจเขาไว้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอ รอยยิ้มที่สดใส คำพูดที่แสนไพเราะ การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนและรู้กาละเทศะ ทำให้เขาประทับใจเธออย่างห้ามไม่อยู่ และยิ่งได้รู้จักเธอ เขาก็ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เติบโตมาด้วยคำสอนที่ดีของผู้เป็นแม่ มีความขยันหมั่นเพียร มีน้ำใจ และไม่เคยคิดร้ายต่อผู้อื่น และเมื่อเธอเจอเหตุการณ์ร้ายๆ เธอก็เข้มแข็งได้มากกว่าที่เขาคิด หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเขาไม่จริงจังกับจิรัชยา เพราะมีผู้หญิงมากมายมาข้องเกี่ยวกับเขา ทั้งในเรื่องของธุรกิจ และในเรื่องของชีวิตส่วนตัว แต่สำหรับวุฒิชัย เขาวาดฝันที่จะมีจิรัชยาอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่า “พี่มาชวนไปกินข้าว เจนว่างอยู่ใช่ไหม” เขาไม่อยากให้เธอปฏิเสธ และใช้เรื่องที่เธอกำลังนั่งเหม่อลอยมาเป็นข้ออ้าง “ว่างค่ะ” เธอตกลงเพราะไม่มีทางเลือก ในใจก็นึกถึงน้องชาย ที่คงจะบอกเขาว่าวันนี้เธอไม่มีธุระสำคัญอะไร “งั้นเราไปกันเลยไหม” “ค่ะ” วุฒิชัยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ จึงรีบเดินนำไปที่รถ เขาดีใจออกนอกหน้า นานๆ ครั้ง เธอจะยอมตกลงไปไหนมาไหนกับเขา แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่เขาก็เชื่อว่าสักวัน จิรัชยาต้องใจอ่อนให้กับความพยายามของเขาเป็นแน่ “พ่อ” เมื่อวุฒิชัยและจิรัชยาออกไปจากโรงแรม ผู้ชายคนหนึ่งก็เดินกลับไปที่ห้อง หลังจากทำเป็นนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ล็อบบี้มาสักพัก “ได้เรื่องว่ายังไงบ้างเคลย์” เสียงชายสูงวัยดังลอดออกมาจากโทรศัพท์ “เรื่องที่พ่อให้ผมทำ ผมมีความคืบหน้าแล้วนะครับ” เคลย์ หรือชื่อเต็มๆ ของเขาคือเคลย์ตัน บอกกับผู้เป็นพ่อที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร “ตอนนี้ผมพักอยู่ในโรงแรมที่พ่อบอก เจอเจ้าของโรงแรมกับน้องชายแล้ว คนพี่นี่ไม่เท่าไหร่ แต่คนน้องท่าทางจะหัวรั้นพอสมควร” “แกไม่ได้ไปมีเรื่องกับเค้ามาใช่ไหม” “เปล่าพ่อ... ผมต้องอยู่ที่นี่อีกนานนะ” เคลย์ตันโกหกพ่อ เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ ประวัติของเขาที่มีต่อผู้เป็นพ่อนั้นไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ “ดีแล้ว ฉันไม่อยากให้แกทำตัวเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนอีก” “การบริหารจัดการที่นี่ถ้ามองในฐานะลูกค้าก็โอเคเลยครับพ่อ ไม่มีปัญหาอะไร แต่เท่าที่ผมหลอกถามกับพนักงาน ระบบภายในน่าจะมีปัญหาเรื่องการจัดการอยู่พอสมควร เพราะเจ้าของโรงแรมยังใหม่กับงานนี้ ต้องตัดสินใจทุกอย่างเองคนเดียว ส่วนทำเลที่ตั้งของจริงก็ใช้ได้ หรือจะพูดกันตรงๆ ก็ถือว่าดีมากเลยครับ ผมคิดว่าถ้าเรารู้ปัญหาภายในลึกกว่านี้ เราจะน่าจะใช้ประโยชน์จากตรงนั้น รอเวลาให้เจ้าของรับมือไม่ไหว ถึงตอนนั้นพ่อค่อยให้คนมาติดต่อซื้อที่นี่ และให้ราคาสูงกว่าคนอื่นนิดหน่อย” “แล้วในความคิดของแก แกคิดว่าผู้หญิงที่เป็นเจ้าของที่นี่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานดีหรือเปล่า” “ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะพ่อ ผมไม่เคยคุยกับเธอครับ แต่ถ้ามองภาพรวม เธอไม่มีประสบการณ์ด้านบริหารมาก่อน แต่ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันต่างๆ ผมว่าเธอก็ไม่ได้แย่นะครับ” “แล้วแกว่าเธอจะยอมขายโรงแรมให้เราไหม” “ถ้าเธอไม่หมดหนทางจริงๆ ผมว่าเธอไม่ขายหรอกครับ” “งั้นแกก็ทำให้เธอหมดหนทางซะสิ อย่าลืมนะว่าฉันส่งแกไปทำงาน ไม่ได้ให้ไปนอนอาบแดดเฉยๆ เพราะถ้าแกลืมสาเหตุที่แกอยู่ที่นั่น ฉันก็ลืมว่าแกขออะไรฉันไว้” “ครับ” เคลย์ตันพูดจบก็ตัดสายทิ้งไป เขาหวนคิดถึงเรื่องที่ได้ยินจิรัชยาคุยกับจิรกิตติ์เมื่อเช้า จะด้วยความบังเอิญหรือจะเป็นเพราะโชคช่วย ที่เขาตัดสินใจไปเดินเล่นที่สวนด้านหลังรีสอร์ท เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคุยกันเลยสักนิด เขารู้สึกผิดที่ไปต่อว่าจิรกิตติ์ด้วยประโยคที่ไม่ทันคิด เขาแค่อยากทดสอบการควบคุมอารมณ์ของพนักงานที่นี่ แต่เรื่องราวในอดีตของจิรัชยาและจิรกิตติ์ก็ทำให้เขาแอบคิดว่า เขาไม่ควรทำแบบนั้น บางทีเขาอาจจะบอกให้พ่อเขาเปลี่ยนใจ ที่จะซื้อโรงแรมนี้มาเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท และหันไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เพื่อช่วยเหลือทั้งคู่ แต่เมื่อคิดอีกที เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำไปทำไม หน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมาย คือใช้หน้าตาที่แสนตะวันตกและทำเป็นสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ มาใช้ในการเก็บรายละเอียดต่างๆ ของโรงอัญยามันแห่งนี้ และที่สำคัญ ถ้าเขาทำให้พ่อภูมิใจกับงานนี้ เขาจะได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเป็นเคลย์ตันคนใหม่ ไม่ใช่คนที่เคยทำให้พ่อผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าแล้วเขาก็ตัดสินใจจะทำในสิ่งที่พ่อต้องการต่อไป และแผนของเขาตอนนี้ คือต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ชายที่มารับจิรัชยาไปข้างนอกคือใคร เขานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงแรมมากแค่ไหน “สวัสดีครับคุณเคลย์ตัน” เสียงพนักงานทักทายเขาเมื่อเดินสวนกัน แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง แต่เคลย์ตันก็เข้าใจ “สวัสดีครับ” “ทานอาหารเที่ยงหรือยังครับ” “เรียบร้อยแล้วครับ ว่าจะไปแจ้งเรื่องไปดำน้ำสักหน่อย อุตส่าห์ได้ของฟรีมา” เขาแกล้งขำ เหมือนว่าเขาได้มาเพราะความโชคดี “แจ้งกับพนักงานที่ล็อบบี้ได้เลยนะครับ” “ขอบคุณครับ” เคลย์ตันพยักหน้ารับและเดินไปที่ล็อบบี้ เพื่อที่จะติดต่อแจ้งเกาะที่เขาอยากไปดำน้ำ และก็เป็นโชคดีของเขาอีกแล้ว ที่กะเวลาได้ดีจริงๆ จิรัชยาและผู้ชายที่เขาสนใจ กำลังยืนอยู่ตรงนั้นพอดี “สวัสดีค่ะคุณเคลย์ตัน มีอะไรให้เรารับใช้หรือเปล่าคะ” จิรัชยาหยุดคุยกับวุฒิชัย และเดินมาต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ผมจะมาใช้สิทธิ์ดำน้ำฟรีน่ะครับ” “อ๋อ ยินดีค่ะ คุณอยากไปที่ไหนคะ” เธอถามเขาอย่างกะตือรือร้น เพราะสำหรับเธอ การที่เขายินดีรับความชดเชยที่เธอมอบให้ นั่นแปลว่าเขาไม่ถือโทษโกรธเคืองน้องชายของเธอแล้ว “ผมอยากไปเกาะห้องครับ อ่านมาว่าเหมาะกับการพักผ่อน” “ใช่ค่ะ ทัวร์เกาะห้อง เป็นทัวร์เดียวที่ไม่ได้จอดเรือกลางทะเลให้ดำน้ำตื้น หลักๆ จะเป็นการพักผ่อนที่ชายหาดเกาะห้องซะมากกว่า เดินทางจากท่าเรือไม่นานด้วยค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้ยังมีแมงกะพรุนหรือเปล่า เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อน มีแมงกะพรุนที่ชายหาด สักครู่นะคะ เดี๋ยวตรวจสอบให้ค่ะ ไม่อยากให้คุณอดเล่นน้ำและได้รับอันตราย” เธอยิ้มบอกเขาและหันไปถามวุฒิชัย ที่ยืนฟังอยู่ห่างๆ “พี่วุฒิคะ ที่เกาะห้องยังมีแมงกะพรุนอยู่หรือเปล่าคะ” เธอถามในฐานะที่เขาเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ดำน้ำ และคงไม่มีใครรู้รายละเอียดดีไปกว่าเขาแล้ว “ยังมีอยู่ครับ แต่ไม่มากแล้ว ถ้าเค้าจะไปก็ไปได้ แต่ถ้าลงเล่นน้ำก็ต้องระวังสักหน่อย มันลอยไปลอยมาของมันไปเรื่อยๆ อาจจะลอยมาโดนตัวก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องดูที่ชายหาดอีกที ถ้าไปถึงที่นั่นแล้ว คนเรือกับไกด์จะตรวจสอบให้ว่าลงเล่นน้ำได้หรือเปล่า” วุฒิชัยตอบตามตรง และแอบมองชายหนุ่มต่างชาติด้วยความไม่ถูกชะตา “ขอบคุณค่ะ” “ที่เกาะยังมีแมงกะพรุนอยู่นะคะคุณเคลย์ตัน ฉันเองก็ให้คำตอบไม่ได้ว่าลงเล่นน้ำได้หรือเปล่า ต้องไปถึงเกาะก่อนค่ะ” “อ่อ... แล้วมีที่อื่นแนะนำไหมครับ ผมไม่อยากเจ็บตัวสักเท่าไหร่” เคลย์ตันทำเป็นตั้งใจฟังที่เธอพูด แม้ว่าที่จริง เขาจะได้ยินจากวุฒิชัยหมดแล้ว “ถ้าคุณอยากพักผ่อน เจนแนะนำเป็นเกาะรอกค่ะ เพิ่งเปิดเกาะหลังปิดช่วงหน้ามรสุม เดินทางจากท่าเรือนานหน่อยค่ะ ประมาณสองชั่วโมง แต่รับรองได้เลยค่ะ ถ้าไปถึงแล้วจะลืมเรื่องการเดินทางไปเลย เพราะที่นั่นสวยมากๆ น้ำใสสุดๆ เลยค่ะ มองลึกลงไปสิบเมตรยังมองเห็นทรายเลยนะคะ ตามโปรแกรมทัวร์จะอยู่ที่นั่นครึ่งวัน และมีจุดให้ดำน้ำอีกหนึ่งจุด...” “แล้วถ้าผมอยากอยู่ที่เกาะทั้งวันเลยได้ไหมครับ ที่เกาะก็มีที่ให้ดำน้ำตื้นใช่ไหม” เขาพูดแทรก แล้วทำเป็นอ่านรายละเอียดทัวร์ของเกาะรอกต่อ “ได้ค่ะ” เธอตอบอย่างเอาใจ แม้ว่าความจริงแล้ว สิ่งที่เขาจะเป็นเรื่องที่ทำให้เธอลำบากมากขึ้นก็ตาม “แล้วแบบนี้ผมจะต้องไปกับลูกทัวร์คนอื่นๆ หรือเปล่า” “ไม่ค่ะ สำหรับคุณ โรงแรมจะให้คุณไปเรือส่วนตัวเลยค่ะ เป็นสปีดโบ๊ทลำเล็ก คุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวและได้รับการดูแลเป็นอย่างดีค่ะ จะมีรถมารับที่โรงแรมตอนเจ็ดโมงครึ่ง คุณอยากกลับตอนไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่ถึงท่าเรือก่อนพระอาทิตย์ตกดินก็พอ” “ตกลงครับ งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปเกาะรอก” “ยินดีค่ะ เดี๋ยวเจนจัดการทุกอย่างให้เองนะคะ พรุ่งนี้เจ็ดโมงครึ่ง คุณแค่มารอที่ล็อบบี้ จะมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารก่อนก็ได้ หรือจะให้เราจัดใส่กล่องสำหรับทานบนเรือก็ได้ค่ะ” “ผมขอแบบทานบนเรือแล้วกัน ไม่อยากตื่นเช้ามาก” “ได้ค่ะ เจนรบกวนคุณเลือกเมนูอาหารเช้าไว้เลยได้ไหมคะ” “ได้ครับ” “เดี๋ยวเจนไปหยิบเมนูมาให้เลือกนะคะ รอแป๊บเดียวค่ะ ไม่เกินหนึ่งนาที” เธอพูดจบก็วิ่งไปในห้องอาหารและกลับมาพร้อมกับเมนูอาหารมากมายให้เขาเลือกสรร “เลือกตามสบายเลยนะคะ” “ครับ” เคลย์ตันรับมันมาถือไว้ และเปิดไปเปิดมา ทำเป็นคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี แต่ความจริงแล้ว เขากำลังยืนฟังจิรัชยาและวุฒิชัยคุยกันอยู่ “คนนี้น่ะเหรอที่มีเรื่องกับเจมส์” “ใช่ค่ะพี่วุฒิ เจนรบกวนพี่วุฒิจัดเรือสปีดโบ๊ทลำเล็กและคนดูแลให้เจนหน่อยนะคะ” “เรื่องเรือน่ะไม่มีปัญหา แต่เรื่องคนดูแลพี่ไม่แน่ใจว่าจะพอหรือเปล่า พรุ่งนี้วันเสาร์ นักท่องเที่ยวเยอะมาก ตามปกติถ้าจะไปแบบส่วนตัว ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยสามวัน” “เจนขอโทษนะคะ เจนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้” “เจนไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพี่จัดการให้ เจนสบายใจได้” วุฒิชัยเห็นเธอมีสีหน้าเป็นกังวลก็ไม่อยากทำให้เธอทุกข์ใจไปมากกว่าเดิม “เดี๋ยวเจนไปจัดการเรื่องใบจองให้นะคะ พี่วุฒิรอเจนแป๊บนึงค่ะ” “ไม่ต้องเจน พี่บอกแล้วไง ว่าพี่จะจัดการให้” เขารั้งแขนเธอไว้ เพราะหากเธอจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้นักท่องเที่ยวคนนี้ตามที่เขาต้องการ นั่นแปลว่าเธอต้องเสียเงินเกือบหนึ่งหมื่นบาท และเธอคงไม่ได้เตรียมใจรับมือกับความเรื่องมากของแขกวีไอพีมาก่อน “ไม่ได้หรอกค่ะพี่วุฒิ ถ้าพี่วุฒิไม่รับเงิน เจนจะไม่สบายใจมากกว่านะคะ” “งั้นพี่มีโปรโมชั่นพิเศษ พี่ลดให้ 80%” “เยอะไปค่ะ” “งั้นก็ 50% แต่เจนต้องไปดูหนังกับพี่” “เจนจ่ายเต็มก็ได้ค่ะ” “โอเคๆ งั้นพี่ลด 20% ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ” “ตกลงค่ะ” จิรัชยายิ้มให้เขา ก่อนจะเดินกลับไปจัดการเขียนรายละเอียดทริปต่างๆ ให้เป็นลายลักษณ์อักษร “นี่ค่ะ” ไม่ถึงห้านาที เธอก็กลับมาพร้อมกับเอกสารและส่งให้วุฒิชัย “พรุ่งนี้คนของพี่จะมารับเจ็ดโมงครึ่งนะครับ” “ขอบคุณมากค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ” เธออวยพรให้เขาปลอดภัย แม้เขาจะยังไม่ได้บอกลาก็ตาม วุฒิชัยเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ไม่ยื้อเวลาให้ตัวเองอยู่ต่อ วันนี้เขาได้รับความใกล้ชิดจากเธอมากพอแล้ว และก่อนเขาจะเดินกลับไปที่รถ เขาก็ไม่ลืมที่แอบมองลูกค้าที่ทำให้จิรัชยาลำบากด้วย “ขอโทษค่ะคุณเคลย์ตัน เลือกอาหารได้หรือยังคะ” จิรัชยารีบหันมาให้ความสนใจกับลูกค้า ที่เหมือนจะยืนรอเธออยู่สักพักแล้ว “ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นคุณยืนคุยกับแฟนเลยไม่อยากขัด” “ไม่ใช่แฟนค่ะ คนรู้จักเฉยๆ เค้าเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่คุณจะเดินทางพรุ่งนี้ค่ะ” “อ๋อ... แต่ดูเหมือนเค้าชอบคุณนะครับ” “เอ่อ... พรุ่งนี้จะรับอะไรเป็นอาหารเช้าดีคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะแม้เขาจะพูดเล่นๆ แต่สำหรับเธอมันคือเรื่องส่วนตัว “ผมขอเป็นแซนด์วิชทูน่า นมสด แล้วก็น้ำเปล่าไม่เย็น” “ได้ค่ะ พรุ่งนี้เช้าตอนเจ็ดโมงครึ่ง คุณมารอที่ล็อบบี้ได้เลยนะคะ จะมีรถจากบริษัททัวร์มารับค่ะ” “ครับ ขอบคุณมาก” “ยินดีมากค่ะ” “อ่อ... เดี๋ยวผมจะไปที่สระน้ำ ขอเบียร์สองกระป๋องด้วยนะครับ” “ได้ค่ะ ถ้าคุณมาที่สระน้ำแล้ว ฉันจะให้คนนำเบียร์ไปเสิร์ฟนะคะ” “ครับ” เคลย์ตันรับทราบเวลานัดหมายและเดินกลับเข้าห้องพักไปเปลี่ยนชุด เมื่อเขาได้คำตอบที่เขาต้องการเกี่ยวกับวุฒิชัย ภารกิจในวันนี้ของเขาจึงหมดลง ส่วนจิรัชยาก็เดินไปตรวจสอบงานต่างๆ และมอบหมายให้พนักงานนำเบียร์ไปเสิร์ฟให้เขา หากเขาไปที่สระว่ายน้ำแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ กำลังยุ่งกันอยู่ เธอจึงตัดสินใจทำหน้านี้แทน เมื่อเธอเห็นเขามาถึงสระว่ายน้ำ ก็เดินไปพร้อมกับเบียร์เย็นๆ ที่เขาต้องการ “คุณเคลย์ตันคะ เบียร์ที่สั่ง ฉันวางไว้ให้ตรงนี้นะคะ” เธอบอกเมื่อเขาว่ายน้ำกลับมาที่ขอบสระ ก่อนจะเดินขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับใช้มือเสยผมที่เปียกไปด้านหลัง และก้มลงหยิบกระป๋องเบียร์มาเปิด “ผมไม่ได้เอาเงินติดตัวมา เดี๋ยวผมไปจ่าย” เขามองจิรัชยาที่ยังยืนนิ่งไม่ไปไหน “อ๋อ... เปล่า... เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้รอเงินค่ะ” “แล้ว?” เคลย์ตันยกคิ้วสูงด้วยความสงสัย เธอจะยืนดูเขากินเบียร์หรือไง “พักผ่อนให้สบายนะคะ มีอะไรก็เรียกพนักงานได้เลยค่ะ” เธอรีบพูดเร็วๆ และเดินออกมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง เธอบอกกับตัวเองให้สงบจิตสงบใจกับกล้ามท้องและท่าทางของเขาที่ทำให้เธอร้อนวูบวาบทั้งตัวและใจ ความคิดที่ซุกซนของเธอแอบตำหนิตัวเองว่า เธอไปทำอะไร อยู่ที่ไหนมา ถึงไม่เคยเห็นความหล่อเหลาของลูกค้าคนนี้ แต่ความคิดในความเป็นกุลสตรีไทยก็ท้วงติงว่าเธอไม่ควรจะรู้สึกอะไรแบบนั้นกับผู้ชายที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรด้วย เช้าวันต่อมา จิรัชยาตื่นเร็วกว่าปกติ เพื่อออกมาดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ตั้งแต่การทำอาหารเช้า การตรวจสอบลูกค้าที่จะเข้าพักและเดินทางกลับในวันนี้ เธอกำชับพนักงานให้ดูแลความสะอาดของสวนและสระว่ายน้ำ คุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัยและที่สำคัญคือการจัดเตรียมอาหารเช้าสำหรับเคลย์ตัน “พี่เจน... คุณวุฒิโทรมาครับ” “โอเคจ้ะ” เธอเช็คจนแน่ใจว่าของที่เคลย์ตันสั่งครบถ้วน ก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ที่ล็อบบี้ “สวัสดีค่ะพี่วุฒิ” “เจน พี่โทรหา ทำไมไม่รับสายเลย” “เจนชาร์จแบตไว้ในห้องค่ะ พี่วุฒิมีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ” “ด่วนครับ เรื่องที่จะไปเกาะรอก พี่เตรียมเรือไว้ให้แล้วนะ คนขับเรือ อาหารเที่ยง อาหารว่าง น้ำดื่ม ทุกอย่างครบ แต่พี่ไม่มีไกด์ เค้าออกไปกับเรือนักท่องเที่ยวกันหมด” “ไม่เป็นไรค่ะพี่วุฒิ เดี๋ยวเจนดูแลเองค่ะ” “ดูแลเอง... หมายความว่ายังไง” “เจนจะไปกับคุณเคลย์ตันเองค่ะ เจนไปเกาะรอกบ่อย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ” “เจนหาคนอื่นไปแทนดีกว่าไหม พนักงานคนอื่นไง” “เจนไปเองดีกว่าค่ะ ให้คนอื่นไป เจนเป็นห่วงว่าจะคุยกับลูกค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง เจนไม่อยากมีปัญหาอีกค่ะ” “เจนต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ” วุฒิชัยไม่ชอบใจเลยที่จิรัชยาจะเดินทางไปกับผู้ชายคนนั้นเพียงลำพัง “แค่ไปเที่ยวเกาะเองนะคะ เจนไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณที่โทรมาบอกเจนนะคะ เจนขอตัวไปเตรียมของก่อน” จิรัชยาพูดจบก็ตัดสายทันที เพราะเหลือเวลาอีกยี่สิบนาที รถก็จะมารับไปท่าเรือแล้ว “ขออาหารเช้าให้เจนเพิ่มอีกสามชุดนะคะ แบบเดียวกับของลูกค้าเลยค่ะ” เธอบอกแม่ครัวและรีบวิ่งกลับห้องพักไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD