“พี่ทำให้ดาวตกใจนะคะ” ตะวันรู้ว่าเธอตกใจ ให้อดใจไม่ให้กอด หอม ลูบไล้ ลวนลามเมียตัวเองได้อย่างไร งานแต่งก็ไม่ได้จัดอย่างใครเขา คืนเข้าหอก็ไม่มีแถมเจ้าสัวดิลกยังย้ำเรื่องมีหลานเพิ่มให้เขาปวดใจอีก ท่านกลัวจะอยู่ได้ไม่นานเพราะอาการป่วยที่เป็นอยู่
ตะวันรับปากและจะพยายาม ไม่ลืมเรื่องความทรงจำของเธอ ตะวันเชื่อว่าความทรงจำจะไม่มีผลเพราะเขาจะทำให้เธอรักเขาใหม่อีกครั้ง
“ก็พี่รัก อยากอยู่ใกล้”
“ใช้คำเปลืองไปมั้ยคะ”
“ไม่สักนิด”
ดาวประดับยิ้มเขิน หากเขารุกแรงแบบนี้เธอจะพยายามรับมือให้ได้ ต้องอยู่กันไปอีกนานไม่รู้นานแค่ไหน พ่อนะพ่อทำไมต้องฝากเรื่องหลานกับลูกเขยจริงจังขนาดนั้น
“พี่ตะวัน ดาวปรับตัวไม่ทันค่ะ”
“สบายๆ สิ ดูพี่สิ ไม่เห็นต้องคิดมาก”
“ดาวไม่เคยมีสามีมาก่อนนี่คะ”
“พี่รู้ พี่ก็ไม่เคยมีเมียมาก่อน ดาวคือเมียคนแรก เรามาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันนะ” ไม่เข้าใจก็จะหาว่าโกหก มันยากเหลือเกิน ไม่เคยรู้จัก ไม่ได้รัก แค่พ่อบอกว่าเขาเป็นคนดีเธอก็ยอมตอบตกลง ผู้ชายคนนี้พยุงครอบครัวของเธอให้เดินหน้า ไม่ใช่คนเลวพวกนั้นที่คิดแต่แสวงหาผลกำไรโดยไม่ถึงความสัมพันธ์อันยาวนาน
“ก็ได้ค่ะ แต่ดาวขอเรื่องหนึ่งได้มั้ยคะ”
“ขอให้ทำหรือว่าไม่ให้ทำ อยู่ที่ดาว” เธอยิ้มออกแล้วทำตัวสบายๆ ให้สามีอิงซบ
“พี่ไม่ใช่มาเฟีย พี่เป็นแค่ชาวไร่ มีแค่จอบและเสียมเท่านั้น อยู่ข้างๆ พี่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม” ใครเล่าอยากมีหลายผัว
“สัญญาได้ไหมคะ ว่าจะไม่ปล่อยมือดาว ถ้าพี่ตะวันสัญญาดาวก็สัญญาค่ะว่าจะไม่ปล่อยมือพี่”
“จะไม่มีวันนั้น พี่สัญญา”
“นายครับ ไอ้มิ่งมันเมาตีเมียกับลูกอีกแล้วครับ นายไปดูหน่อย” นายใหญ่ของไร่สะดุ้งยอมผละร่างเล็กนุ่มนิ่มออกจากตัวเพราะตกใจคนงาน
“พี่ตะวัน”
“พี่ต้องไป”
“เดี๋ยวค่ะ ดาวไปด้วย เผื่อมีอะไรที่ดาวช่วยได้” แม้ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าเป็นอย่างไรแต่ดาวประดับก็มั่นใจว่าตะวันจะต้องจัดการทุกอย่างได้อย่างแน่นอน
เหตุการณ์ตรงหน้าร้ายแรงกว่าที่ทุกคนคิดเอาไว้แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของไร่ลำบากใจเลยสักนิด สิ่งที่ตะวันต้องรับมือในวันนี้แม้จะหนักหนาสาหัสกว่าครั้งอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของไร่หวั่นเกรง ยิ่งได้เห็นคนข้างๆ ก็ยิ่งมีกำลังใจ เจ้าของร่างนุ่มนิ่มที่เพิ่งได้กอดวิ่งตามติดมาไม่ห่าง เจ้าเด็กดื้อคนนี้อยากรู้เห็นไปซะทุกเรื่อง
“มีอะไรกัน”
“ไอ้มิ่งมันเมาอีกแล้วครับนาย คราวนี้พังข้าวของในบ้านแล้วซ้อมอีจำปาจนเลือดอาบ รถกำลังมารับอีจำปาไปหาหมอครับ” คนงานในไร่รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตะวันฟังด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด คนก่อเรื่องนอนกองอยู่บนพื้นสภาพไม่สู้ดีนักเหมือนว่าจะถูกคนงานในไร่รุมประชาทัณฑ์ ดาวประดับไม่ขยับเข้าไปใกล้สามีเพราะทนเห็นภาพแบบนั้นไม่ไหว
“เขาจะตายมั้ยคะ” ดาวประดับถาม
“ไม่หรอก กลัวหรือไง”
“ควรจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาลนะคะ” แม้ว่าชายคนนี้จะซ้อมเมียปางตายแต่เขาก็ควรได้รับการรักษา ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจะดีกว่า เธอไม่รู้ว่าตะวันจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ท่าทางของเขายากที่จะคาดเดา ในใจของเธอนึกกลัว กลัวว่าตะวันจะฆ่าชายคนนั้นทิ้ง
“กลัวอะไร”
“กลัวพี่ เอ่อ จะ ฆ่า” น้ำเสียงตะกุกตะกักหวาดกลัวทำให้ตะวันโน้มต่ำลงมามองหญิงสาวที่ตนรัก แววตาอบอุ่นทำให้ดาวประดับคลายกังวลและเปลี่ยนความคิดนั้นทันที
“พี่ไม่ทำ เชื่อพี่มั้ย” เธอพยักหน้าและขยับถอยห่างเพื่อให้เจ้าของไร่จัดการเรื่องตรงหน้าให้เรียบร้อย
“ดาวรอตรงนี้นะคะ พี่ตะวันทำงานเถอะค่ะ” ตะวันพยักหน้าแล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องผัวเมียที่ไม่มีใครอยากยุ่ง แต่เรื่องนี้มองข้ามไม่ได้เพราะมันรุนแรงขึ้นทุกครั้ง คราวนี้ถึงกับเลือดตกยางออก ถ้าไม่จัดการให้เด็ดขาดเกรงว่าต่อไปจะร้ายแรงมากกว่านี้
“พี่ไม่ฆ่าคนนะ จำไว้” น้ำเสียงอบอุ่นแบบนี้มีแค่เธอเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ยินและได้รับสร้างความแปลกใจให้กับคนงานในไร่อีกครั้งตอกย้ำความสำคัญของนายหญิงขึ้นอีกเท่าตัว
“นายหญิงเชิญทางนี้ดีกว่าค่ะ” หนึ่งในคนงานเดินเข้ามาเชิญนายหญิงมายืนอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ไม่รู้ว่าครั้งนี้นายใหญ่จะจัดการกับลูกน้องแบบนี้อย่างไรอีก คราวที่แล้วก็ส่งไปอยู่บนเขานานนับอาทิตย์ ทั้งลำบากและอันตรายแต่ทุกคนก็เข้าใจเจตนาของนายใหญ่ดี คราวนี้นายมิ่งทำเกินกว่าเหตุ นายใหญ่จะทำอย่างไรทุกคนไม่อาจคาดเดา
“ไอ้มิ่ง”
“นาย ผมขอโทษครับ ผมขอโทษ อย่าไล่ผมออกจากไร่เลยนะครับ” แค่ได้ยินเสียงของนายใหญ่เจ้าของไร่นายมิ่งก็ฟื้นคืนสติทันที เหมือนเสียงฟ้าผ่าฟาดลงมากลางหัว รู้สึกขนหัวลุกจนอยากลุกวิ่งออกไปจากตรงนี้ แต่เพราะอาการบาดเจ็บจึงทำได้แค่อ้อนวอนและขอความเมตตา
“กี่ครั้งแล้ว มึงเมาแล้วนอนจะไม่มีใครว่ามึงเลย”
“นายครับ” นายมิ่งเริ่มรู้ชะตาตัวเองว่าครั้งนี้มันหนักมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หมัดและเท้าของเพื่อนคนงานเตือนสติให้รับรู้ว่าเมียที่ตนรักอาการสาหัสเพราะฤทธิ์สุราที่กินเข้าไป ได้แต่โทษตัวเองซ้ำๆ เป็นเพราะน้ำขาวๆ ในขวดสีน้ำตาลนั่นที่ทำให้พลั้งมือทำร้ายคู่ชีวิตเจ็บปางตาย
“จะให้กูทำยังไงกับมึงดี”
“นาย ผมขอโทษ”
“คนที่มึงควรขอโทษคือจำปาไม่ใช่กู”
“ผม ผมขอโทษ”
“ดูสิ่งที่มึงทำนะไอ้มิ่ง รู้ว่าเมาแล้วเหี้ยก็ยังเมา” ดาวประดับมองตะวันตาไม่กะพริบ เข้าใจความรู้สึกของเขาในตอนนี้ แปลกเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึก เธอก็ไม่ชอบใจเหมือนกันการทำร้ายผู้หญิงเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ฤทธิ์สุรานี่ร้ายแรงจริงๆ
“นายจะให้ผมทำอะไรก็ได้แต่อย่าไล่ผมออกจากไร่เลยนะครับ ส่งไปอยู่บนเขาเป็นเดือนเลยก็ได้ครับนาย เป็นปีเลยก็ได้ ผมยอม” นายมิ่งยกมือท่วมหัวขอความเมตตาจากนายใหญ่อีกครั้ง หวังว่านายใหญ่จะเห็นใจและเมตตาอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันก็มีเด็กชายวัยห้าขวบวิ่งมากอดแขนผู้เป็นพ่อเอาไว้ การกระทำนั้นของลูกชายทำให้นายมิ่งปล่อยโฮอีกครั้ง ตอกย้ำความเลวและความล้มเหลวของตำแหน่งผู้นำครอบครัวจนอยากจะฆ่าตัวตาย
“พ่อ”
“พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ” ดาวประดับเกือบน้ำตาซึมเพราะภาพนั้นทำให้คิดถึงพ่อที่อยู่ห่างไกลไปหลายร้อยกิโล
“กูเห็นแก่ลูกมึงต่างหาก ถ้ายังไม่ปรับตัว ก็เตรียมเก็บข้าวของออกจากไร่ไปได้เลย ระหว่างนี้ก็ขึ้นไปอยู่บนเขาจนกว่าจำปาจะหาย ส่วนลูกชายมึงกูจะให้คนมาดูแลเอง” ดาวประดับถอนหายใจรู้สึกโล่งที่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นและเห็นด้วยกับการตัดสินใจของตะวัน สิ่งที่ตะวันทำนั่นถูกต้องแล้ว เรื่องในครอบครัวบางครั้งก็ต้องให้พวกเขาตัดสินใจกันเอง
“ขอบคุณครับนาย ขอบคุณมากครับ ไอ้หนูไหว้นายสิลูก” เด็กชายยกมือไหว้เจ้านายของผู้เป็นพ่อทันที ตะวันถอนหายใจแล้วเดินออกจากตรงนั้นหากจะไล่ออกทันทีปัญหาที่ตามมานั้นมันก็หนักมาก ปัญหาของผัวเมียเขานั้นไม่อยากยุ่งแต่เพราะเป็นลูกน้องในปกครองอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน เพราะมีตำแหน่งเป็นผู้นำตนจึงต้องช่วยจัดการ
“กลับบ้านกัน”
“จะปล่อยไว้แบบนี้หรือคะ” ดาวประดับรู้สึกเป็นห่วงเด็กชายตัวเล็กที่กำลังนั่งกอดพ่อร้องไห้ไม่หยุด
เหมือนเห็นภาพตัวเองเมื่อหลายสิบปีก่อน วันที่แม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เธอจำได้ว่าตัวเองร้องไห้เหมือนคนบ้าแม้ยังอยู่ในวัยเด็กแต่ก็ยังจดจำรสชาติความเจ็บปวดนั้นได้ดี
“ไม่เป็นไรหรอก”
“เด็กนะคะ”
“รู้แล้วว่าเด็ก นี่ก็เด็ก”
-----------