บทที่ 2 จันทร์ดวงใหม่

1912 Words
#อีกฝากหนึ่งของป่าทึบ "ท่านปู่ ทำไมเราต้องออกมาหาสมุนไพรยามนี้ด้วยเล่าขอรับ " เสียงเด็กน้อยวัยแปดขวบเอ่ยถาม " ก็สมุนไพรที่เราจะเก็บมันออกดอกมารับน้ำค้างยามเช้าเท่านั้น พอแสงแดดเริ่มส่องแสงมันก็จะร่วงโรยลงไป " เสียงชายวัยห้าสิบปีเอ่ยขึ้น "เจ้าไม่ต้องสงสัยให้มากความรีบๆเดินเข้าเถิด " เอ่ยจบทั้งสองก็รีบเดินมุ่งหน้าเข้าป่าทึบทันที ชายวัยห้าสิบปีมีนามว่าหมิงฮุ่ยฉิน ชอบศึกษาตำราสมุนไพรและการปรุงยาเป็นอย่างมาก ชอบหมกมุ่นอยู่กับสมุนไพรไม่สนใจเหตุบ้านการเมืองสักเท่าไร เก็บตัวคิดค้นปรุงยาแปลกใหม่อยู่บนเขาในเขตแคว้นหนิงกับหลานชายวัยแปดขวบของเขาที่มีนามว่าหมิงเย่วฉี หลานชายคนนี้ชอบศึกษาสมุนไพรตั้งแต่เด็ก จนต้องร้องไห้อ้อนวอนมารดาขอมาอยู่กับเขาด้วย เขาเองก็ไม่ได้หวงวิชาความรู้ถ้าหลานชายสนใจเรียนรู้และทนลำบากอยู่กลางป่าเขาห่างไกลผู้คนได้เขาก็ยินดี หลานชายคนนี้มาอาศัยอยู่กับเขาได้เกือบปีแล้วและตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มชินกับการใช้ชีวิตเสียแล้วด้วย เขาและหลานชายเดินทางจากแคว้นหนิงมายังแคว้นฉินแห่งนี้และได้เข้าพักที่โรงเตี้ยมในเมืองเพื่อรอเวลาออกหาสมุนไพรที่ต้องการ เพราะสมุนไพรชนิดมีอยู่ที่เขตป่าทึบแห่งแคว้นฉินเท่านั้น " ท่านปู่ดูนั่น!!" เย่วฉีเอ่ยเสียงดังพร้อมกับชี้นิ้วไปยังต้นไม้ใหญ่ "มีคนนั่งอยู่ตรงนั้นขอรับ " ฮุ่ยฉินมองตามนิ้วมือของหลานชายที่ชี้ไปยังต้นไม้ใหญ่ ก็เห็นว่ามีคนกำลังนั่งอยู่ แต่ใครจะมานั่งเล่นในยามรุ่งสางเช่นนี้กัน เมื่อเพ่งมองดูดีๆก็เห็นว่าคนที่นั่งอยู่น่าจะเป็นสตรี จึงจูงมือหลานชายเดินเข้าไปใกล้ๆ " ท่านปู่จะดีหรือขอรับใช่คนหรือป่าวก็ไม่รู้ " เย่วฉีกระตุกมือในใจนึกกลัวขึ้นมาเมื่อเดินเข้ามาใกล้ " เจ้านี่ ใจเสาะเสียจริง ถ้าไม่เข้าไปดูแล้วจะรู้ได้อย่างไร รีบๆเดินเร็วเข้า อย่าพูดให้มากความ " ฮุ่ยฉินเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่พบสตรีนั่งหลับตาศีรษะพิงกับต้นไม้ แต่ใบหน้านางนั้นซีดเผือดแถมยังอาภรณ์ที่สวมใส่ก็มีเลือดเปอะเปื้อนเต็มไปหมด จึงลองยกมือขึ้นอังจมูกพบว่านางไม่หายใจแล้ว แต่เพื่อความแน่ใจจึงใช้มือจับชีพจรของนางอีกที " แปลก.." ฮุ่ยฉินเอ่ยเมื่อรู้สึกถึงชีพจรสายหนึ่งยังเต้นอยู่อ่อนๆ เพื่อความแน่ใจจึงค่อยๆประคองสตรีตรงหน้าให้นอนราบกับพื้นดินทันที "ท่านปู่จะทำอะไรหรือขอรับ" "ปู่จะตรวจดูเสียหน่อย " ขณะที่ฮุ่ยฉินกำลังจะตรวจดูร่างกายของสตรีตรงหน้าจู่ๆก็มีแสงเล็กๆพุ่งลงมาจากฟากฟ้า จนทำให้ทั้งฮุ่ยฉินและเย่วฉีต้องยกมือขึ้นป้องศีรษะตัวเองไว้ด้วยความกลัวว่าสิ่งนั้นจะตกใส่หัวตน " มันคืออะไรหรือขอรับ ท่านปู่ " เย่วฉีถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน เมื่อลืมตาขึ้นมาพบว่าแสงนั้นหายไปแล้ว "คงเป็นดาวตกกระมัง ใยเจ้าถึงต้องทำน้ำเสียงหวาดกลัวเช่นนั้นด้วย " ฮุ่ยฉินเอ่ย พร้อมกับก้มมองสำรวจร่างของสตรีตรงหน้า นางไม่มีบาดแผล แต่มีเลือดไหลออกมาบริเวณขาและกลางลำตัว ใช้ความคิดเพียงครู่จึงเอื้อมมือคลำบริเวณหน้าท้องของสตรีตรงหน้า จริงอย่างที่เขาคิดหน้าท้องกลมนูนแถมยังขยับดิ้นดุกดิกจนฝ่ามือของฮุ่ยฉินรับรู้ได้ " มีเด็กอยู่ในท้องของนาง!! " ภายในท้องของซูเหม่ยอิงมีเด็กทารกที่กำลังดิ้น ทั้งถีบทั้งดันด้วยความอึดอัด ในที่แห่งนี้ทั้งมืดและอัดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก มันคือที่ไหนกัน? 'จันทร์' ใช้ความคิดจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอโดนรถชนเข้าเต็มแรง ร่างกายเจ็บปวดทรมานมากจนขยับตัวไม่ได้ เธอเริ่มหายใจติดขัดและหมดสติลงไป นี่เธอตายแล้วหรือ? " ท่านปู่เราจะทำเช่นไรดีขอรับ " เย่วฉินได้ยินว่ามีเด็กอยู่ในท้องก็ตื่นเต้นและตกใจ ฮุ่ยฉินใช้ความคิดถ้ายามปกติการทำคลอดไม่ใช่เรื่องยาก เพราะอย่างไรเสียมารดาย่อมใช้แรงเบ่งขับบุตรออกมาจากท้องของตนอยู่แล้ว แต่!!นี่มันไม่ปกติมารดาของเด็กเสียชีวิตไปแล้ว แล้วบุตรจะออกมาจากท้องได้อย่างไร ฮุ่ยฉินใช้มือทั้งสองข้างค่อยคลำท้องของสตรี ดูเหมือนเด็กในท้องคงอยากจะออกมาภายนอกเต็มที และถ้าขืนมัวชักช้าเด็กอาจจะไม่รอดก็ได้ " ท่านปู่ใยเงียบไปขอรับ แล้วเด็กในท้องจะตายหรือไม่ขอรับ " " ปู่กำลังใช้ความคิดอยู่ มันมีวีธีหนึ่งแต่ยังไม่เคยมีใครทำกันในแผ่นดินนี้ " ฮุ่ยฉินเอ่ย " วิธีอะไรหรือขอรับ " " ผ่าท้องนาง!!" " ห๊า!! ผะ ผ่า..ท้องหรือขอรับท่านปู่ " เย่วฉีเอ่ยเสียงสั่น " ใช่ ไหนๆนางก็ตายไปแล้ว มีวิธีเดียวที่จะช่วยลูกของนางได้คือต้องผ่าท้องนำเด็กออกมา มิเช่นนั้นลูกของนางก็จะตายไปด้วย " ฮุ่ยฉินเพิ่งคิดวิธีนี้ออกหมาดๆเขาไม่มีหนทางอื่นให้เลือกแล้ว จึงตั้งสติหยิบมีดสั้นออกมาจากแหวนจัดเก็บและไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวและผ้าเอาไว้ห่อตัวเด็กออกมาด้วย ฮุ่ยฉินใช้มีดตัดอาภรณ์บริเวณหน้าท้องแล้วแหวกออกเผยให้เห็นเฉพาะหน้าท้องกลมนูนเท่านั้น ฮุ่ยฉินค่อยๆกรีดปลายมีดลงบนหน้าท้องช้าๆทีละชั้น ทีละชั้น เพราะกลัวว่าความคมของมีดจะโดนตัวเด็กได้ เย่วฉีรีบยกมือขึ้นปิดตาด้วยความหวาดเสียว แต่ก็ยังอยากรู้อยากเห็นจึงแย้มนิ้วมือเล็กน้อยให้พอมองเห็นอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อเปิดหน้าท้องได้ขนาดพอดีแล้ว เขาจึงล้วงมือลงไปภายในช่องท้อง ดึงตัวเด็กออกมาได้สำเร็จ!! แล้วใช้มีดตัดรกที่ติดกับตัวเด็กออก " เป็นเด็กผู้หญิง "เสียงฮุ่ยฉินเอ่ยกับหลานชาย " เจ้าเอาผ้าชุบน้ำมาให้ปู่เร็วเข้า " เย่วฉีรีบหยิบผ้าแล้วนำน้ำที่พกติดกายมา ราดลงที่ผ้าพอเปียกแล้วส่งต่อให้ท่านปู่ทันที ฮุ่ยฉินรีบจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวทารกน้อยที่ตอนนี้มีแต่คราบเลือดติดเต็มร่างกาย เมื่อเช็ดตัวสะอาดแล้วก็นำผ้าอีกผืนมาห่อตัวเด็กเอาไว้ " แปลก.." ทารกน้อยไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักคำทำให้ฮุ่ยฉินสงสัย เมื่อจ้องมองไปที่ทารกน้อยพบว่า นางกำลังจ้องมองเขาอยู่เช่นกัน ดวงตากลมโตขนตายาวงอนเป็นแพร พวงแก้มกลมยุ้ย ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ นางช่างน่ารักเกินไปแล้ว.. "ท่านปู่ ข้าขอดูบ้างสิขอรับ แล้วทำไมนางถึงไม่ร้องสักคำเลยละขอรับท่านปู่ หรือว่านางจะเป็นใบ้! " ฮุ่ยฉินที่ได้ยินหลานชายเอ่ยเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นเขกหัวหลานชายทันที " อูยย..ข้าเจ็บนะท่านปู่ " เย่วฉียกมือขึ้นลูบหัวตนเองปอยๆ * จันทร์กำลังตกตะลึงกับภาพตรงหน้า และเมื่อรับรู้ว่าตนเองนั้นอยู่ในร่างของเด็กทารก เธอกวาดสายตามองไปรอบๆพบว่ามันเป็นป่าทึบค่อนข้างมืด และมีชายวัยกลางคนกับเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ซึ่งเธอเองก็ฟังไม่รู้เรื่อง ถัดมามีร่างของสตรีนอนอยู่กับพื้นแต่ร่างนั้นชุ่มไปด้วยเลือด จันทร์ใช้ความคิดประมวลผลคร่าวๆว่ามารดาของเธอน่าจะเสียชีวิตขณะที่กำลังจะคลอดเธอ และชายวัยกลางคนผู้นี้กับเด็กน้อยน่าจะเป็นคนผ่าท้องมารดาแล้วนำตัวเธอออกมาดูโลก แล้วชายสองคนนี้เป็นอะไรกับมารดาเธอหรือ? แล้วเขาพูดภาษาอะไรกันฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วชุดที่สวมใส่กันอยู่นั่นอีกนี่มันยุคจีนโบราณหรือ? OMG! นี่เธอมาเกิดในยุคจีนโบราณหรือ? ไม่ใช่ว่าคนที่เกิดใหม่ต้องไปเกิดในยุคที่เทคโนโลยีล้ำไปไกลแล้วหรอกหรือ แล้วยังความทรงจำของเธออีกไม่ใช่ว่าต้องดื่มน้ำลืมน้ำลืมเลือนหรอกหรือ? โอ้ยย..อีจันทร์งงเด้!! " เอาะ เเอ้ะๆๆแอ้.." จันทร์ลองพยามยามพูดให้เป็นคำ แต่ผลที่ได้เหมือนคนลิ้นไก่สั้นเฮ้อ.. " ท่านปู่นางพูดกับข้าด้วย " เย่วฉีเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น " เฮอะๆๆ " ฮุ่ยฉินครางในลำคอด้วยความเอ็นดูเด็กน้อย " เจ้าอุ้มนางไว้ก่อนปู่จะจัดการฝังศพมารดาของนาง " ฮุ่ยฉินส่งตัวทารกน้อยในอ้อมแขนให้หลานชายอุ้ม "อุ้มดีๆเล่าอย่าให้หลุดมือเชียว" ไม่ลืมกำชับหลายชายเพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะหลุดมือ ฮุ่ยฉินจัดการขุดหลุมฝังร่างมารดาของเด็กน้อยไว้ในป่าทึบข้างต้นไม่ใหญ่ที่นางสิ้นใจ เขาทำได้เพียงเท่านี้ดีกว่าปล่อยให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า จันทร์มองร่างที่ไร้ลมหายใจของมารดาที่กำลังจะถูกชายวัยกลางคนฝังร่างลงในหลุมดิน เธอน้ำตาไหลออกมาด้วยความที่สงสารมารดาจับใจ ใบหน้าซีดเซียวของมารดานั้นเธอจะจดจำมันไปตลอดชีวิต และกล่าวโทษตัวเองในใจที่เป็นต้นเหตุทำให้มารดาต้องตาย " เด็กน้อยเจ้าร้องไห้เช่นนั้นหรือ " เย่วฉีเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ครั้นจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้นางก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะทำนางหลุดมือ "เจ้าอย่าร้องไห้เลยนะ ประเดี๋ยวข้าก็ร้องตามเจ้าหรอก" จริงอย่างที่ตนเองพูดเย่วฉีสงสารเด็กน้อยจนน้ำตาซึมออกมา ด้วยเพราะสายตาของเด็กน้อยในอ้อมแขนนั้น เหลือบมองไปทางร่างของมารดาที่กำลังจะถูกดินกลบหน้าอยู่ นางช่างเป็นเด็กน้อยที่รู้ความยิ่งนัก ข้าเอ็นดูนาง.. เย่วฉีกู่ร้องในใจ ฮุ่ยฉินฝังร่างสตรีเสร็จก็เกือบยามหม่าแล้า แผนการเก็บสมุนไพรวันนี้เป็นอันต้องล่ม เพราะได้เด็กทารกน้อยมาแทน " ท่านปู่แล้วเด็กน้อยผู้นี้จะทำอย่างไรดีขอรับ " " กลับโรงเตี้ยมก่อนค่อยว่ากัน " ฮุ่ยฉินคว้าตัวเด็กทารกน้อยในมือของหลานชายมาอุ้มไว้ "ไปกับข้านะเย่วซิน" เอ่ยจบก็ก้าวเท้าเดินทันที " เย่วซินหรือ?ท่านปู่ตั้งชื่อนางว่าเย่วซินหรือ " " ใช่แล้ว ก็ผิวพรรณของนางกระจ่างใสนวลเนียนราวกับดวงจันทร์ยามค่ำคืน " " ข้าชอบ ชื่อนี้ ข้าชอบๆ" เสียงปู่กับหลานคุยกันจ้อไปตลอดทางที่เดินกลับโรงเตี้ยม * * *
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD