ครืด! ครืด!
มือถือที่สั่นบนโต๊ะทำให้ฉันที่นอนอ่านอีบุ๊กเรื่องใหม่เกิดอาการตาตั้ง รีบวางไอแพ็ตลงข้างตัว หยิบมือถือขึ้นมาดู
โหว! มีไลน์เข้ามาเยอะมาก สงสัยเราจะอินกับนิยายมากไปจนเกิดอาการหูดับชั่วคราวทำให้ไม่ได้ยินอะไรเลย แฮร่!
ฉันไล่สายตาจากชื่อด้านบนสุดก็เกิดอาการตกใจเล็ก น้อย ใจเต้นนิดนึง... พี่เดย์ไลน์มา!!
ตั้งแต่ได้ไลน์ฉันไป พี่เดย์เคยส่งรูปน้องหมามาแค่ครั้งเดียว จากนั้นก็ไม่เคยติดต่อกันทางนี้อีก มีธุระอะไรรึเปล่านะ? ยังไม่ทันที่ฉันจะเลื่อนอ่านข้อความก็เกิดอาการสะดุ้ง มือเมอสั่นไปหมด หนำซ้ำยังเผลอกดรับสายคอลไลน์จากพี่เดย์โดยอัตโนมัติ!
โอย! หื้อมันได้จะอี้กะฝันหวาน!
“สวัสดีค่ะพี่เดย์” ในเมื่อเผลอกดรับแล้ว ฉันสั่งให้ตัวเองทักทายไปตามเรื่องแม้จะตื่นเต้นก็ตามที
“ค่อยยังชั่ว พี่นึกว่าน้องฝันหวานจะโกรธกันจนไม่รับ สายแล้ว” เสียงถอนหายใจที่ลอดมาตามสายทำให้ฉันขมวดคิ้วด้วยความงงระคนแปลกใจ
“คะ...หนูเหรอคะโกรธพี่เดย์? ทำไมคิดงั้นล่ะคะ” ฉันถามกลับอย่างเอ๋อๆ พี่เดย์ไม่ได้ทำอะไรแย่ใส่กันสักหน่อย ทำไมฉันต้องโกรธด้วยเล่า
“พี่ไลน์หาน้องหลายรอบแต่น้องไม่เปิดอ่าน เลยอดคิดไม่ได้ว่าน้องโกรธกันรึเปล่า” คำอธิบายด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจผิดวิสัยของพี่เดย์ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา คนอย่างพี่ว้ากคณะวิศวะที่รุ่นน้องกลัวจนหัวหดมีมุมแบบนี้ด้วย... เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังจะมีใครเชื่อมั้ย?
“ที่หนูไม่อ่านไลน์เพราะกำลังอินกับนิยายอยู่ค่ะ เพิ่งโหลดอีบุ๊กเล่มใหม่มา อ่านเพลินจนไม่รู้ว่าใครติดต่อมาบ้าง แฮร่!” พอตอบแล้วก็อดเขินไม่ได้ อินกับความรักของพระเอกนางเอกถึงขั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย... อาการหนักมากอ่ะฉัน!
“ได้ยินอย่างนี้พี่ค่อยสบายใจ ว่าแต่น้องฝันหวานอ่านนิยายด้วย?” ประโยคหลังของพี่เดย์แสดงความแปลกใจทำเอาฉันคลี่ยิ้ม ถ้าอยู่ต่อหน้ากัน นี่ว่าพี่เค้าคงเลิกคิ้วอ่ะ
“ก็อ่านบ้างค่ะ หนูชอบนิยายวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กแนวฟิลกู้ด ยิ่งถ้าเป็นนักเขียนโปรดแต่งด้วยแล้ว ไม่เคยพลาดสักครั้ง” ไม่อยาก จะเม้าท์ ถึงฉันจะไม่นิยมนิยายแนวเพื่อนรักเพื่อน แต่พอได้อ่านเรื่อง ‘เขาว่ากันว่า... หนุ่มวิศวะหล่อพรีเมียมรักเพื่อนอย่างฉัน’
ฝันหวานคนนี้กลับอินมากจ้า อินถึงขั้นอยากได้เพื่อนสนิทมาเป็นแฟน แต่ดูท่าทางจะยากเอาการเพราะเพื่อนฉัน 98 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิง อีก 2 เปอร์เซ็นต์เป็นเก้ง ถ้าเอาลิซ่าหรือเอมี่มาทำแฟนมีหวังฟ้าได้ผ่าลงกลางหัวกันพอดี “ว่าแต่พี่เดย์โทรมาหาหนูมีอะไรรึเปล่าคะ” ฉันถามอย่างนึกได้
“พูดงี้แสดงว่ายังไม่อ่านไลน์”
“แฮ่! ยังค่ะ งั้นหนูขอเปิดดูแพร๊บ” ว่าแล้วฉันก็เข้าไลน์ของพี่เดย์
หือ! พี่เค้าส่งรูปฟูฟูใส่เสื้อสีชมพูหวานใสตัดกับขนสีขาวมา แล้วดูหน้าแบ๊วๆ ของน้องสิ...
“แง! น่ารักไม่ไหว” ฉันเผลอพูดออกมาด้วยเสียงค่อนข้างประหลาดทำให้พี่เดย์หัวเราะขำมาตามสาย
“ถ้าน้องฝันหวานเห็นว่าน่ารักก็ดีครับ ตอนพี่ไปรับฟูฟูที่บ้านตกใจแทบแย่ พี่สาวของพี่เล่นใส่เสื้อให้น้องซะหวานทั้งที่เป็นตัวผู้” น้ำเสียงเหมือนปวดใจของพี่เดย์ทำเอาฉันหลุดหัวเราะ
“ฮ่าๆๆ น่ารักออกค่ะ หน้าฟูฟูแบ๊วอยู่แล้ว พอใส่เสื้อสีหวานเลยดูเข้ากันไปใหญ่”
“พูดเหมือนพี่สาวพี่เลย” พี่เดย์พึมพำเหมือนไม่อยากเถียง ก่อนจะถามฉันว่า “พรุ่งนี้หลังเลิกรับน้อง เราพาฟูฟูไปฉีดวัคซีนดีมั้ยครับ น้องฝันหวานโอเคมั้ย หรือจะไปวันอื่น”
“ไปพรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะ วันศุกร์หนูไม่มีซ้อมเชียร์ มีรับน้องแค่อย่างเดียว พาฟูฟูไปฉีดวัคซีนก่อน เดี๋ยวหนูค่อยนั่งแท็กซี่ไปบ้านคุณน้าหลังจากนั้นก็ได้” ฉันตกลงอย่างง่ายๆ
จะพาฟูฟูไปก็ไม่ได้ไปสักที แถมศุกร์นี้ฉันต้องไปค้างที่บ้านคุณน้าด้วย กว่าจะกลับหอก็เย็นวันเสาร์ จะให้พี่เดย์พาไปวันอาทิตย์ก็กระไรอยู่ เหมือนเอาตัวเองสะดวกเข้าว่า ไปพรุ่งนี้แหละดีสุดละ
“โอเคครับ ถ้างั้นพี่ขอเบอร์โทรน้องฝันหวานด้วยสิ”
“หา! เบอร์โทรหนูเหรอคะ” ฉันถามเสียงหลง อยู่เฉยๆ ทำไมขอเบอร์กันล่ะ ไลน์ก็มีส่งไลน์หาก็ได้นี่!
“ครับ เผื่อพรุ่งนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงพี่จะได้โทรบอกน้องฝันหวานก่อน คณะพี่ยิ่งไม่เหมือนคณะอื่น บางทีพี่ปีสูงก็นัดปุบปับ อันที่จริงไลน์บอกน้องก็ได้แหละ แต่กลัวน้องไม่อ่านเหมือนวันนี้จะช้ากันใหญ่”
อ้อ! เก็ทละ เคยได้ยินจากพวกพี่เอมาเหมือนกันว่าคณะวิศวะ... รุ่นพี่อยากนัดรุ่นน้องตอนไหนก็นัดเลย ละคือถืออาวุโสกันมาก รุ่นพี่ว่าไงรุ่นน้องต้องเอาตาม รุ่นน้องคนไหนแหกคอกก็โดนซ่อมกันไป
“เบอร์โทรหนู...” ฉันอ้อมแอ้มเบาๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่บอกเบอร์กับผู้ชาย แถมยังเป็นรุ่นพี่ต่างคณะอีกต่างหาก มันเป็นความรู้สึกแปลกปนปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก
“แต่ถ้าไม่สะดวกใจไม่ต้องบอกก็ได้นะครับ พี่เข้าใจ” พี่เดย์ชิงพูดด้วยน้ำเสียงเข้าอกเข้าใจทำเอาฉันรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก พี่เค้าไม่ได้คุกคามหรือตื๊อจนทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนผู้ชายคนอื่นที่เคยเจอ และนั่นทำให้ฉันกล้าที่จะบอกอย่างเต็มใจ
“084-9145...ค่ะ”
“ขอบคุณครับที่ไว้ใจกัน เดี๋ยวพี่ยิงไป น้องฝันหวานอย่าลืมเมมเบอร์พี่ด้วยล่ะ”
“โอเคค่า”
“ถ้าพรุ่งนี้มีอะไรเกิดขึ้น หวังว่าน้องฝันหวานจะไม่โกรธพี่นะครับ” พี่เดย์กำลังบอกว่าถ้ารุ่นพี่เกิดนัดด่วนสินะ
“ไม่โกรธแน่นอนค่ะ หนูเข้าใจ” ถ้าไม่ได้พาฟูฟูไปฉีดวัค ซีนพรุ่งนี้ก็ยังมีวันอื่นอยู่ดีนี่เนอะ
“งั้นนอนหลับฝันดีนะครับคนน่ารักโลกละลาย พี่ไม่กวนเวลาอ่านนิยายละ พรุ่งนี้เจอกันครับ” พูดจบพี่เดย์ก็วางสายไปทิ้งให้ฉันอ้าปากหวอ หน้าร้อนผะผ่าวกับคำพูดที่ดูหยอดของพี่เค้า
ไม่หรอก! หยอดเหยิดอะไรกันเล่า ฉันส่ายหน้าพยายามไล่ความคิดบ้าบอออกจากหัว รู้ตัวอีกทีก็มีสายเข้าแถมยังวางไปอย่างรวดเร็ว พอก้มมองที่หน้าจอก็เห็นเป็นมิสคอล ฉันเม้มปากแน่นพลางกดเมมเบอร์ด้วยใจที่เต้นแรง
ถ้าแฟนคลับพี่เดย์รู้ว่าฉันกับพี่เค้าแลกเบอร์กันมีหวังโดนตามจิกไม่เลิกแน่เลย แค่คิดก็สยองเหลือเกิน!
“อ๊าย! ฝันหวาน! ฉันอยากเป็นแกชะมัด” ระหว่างนั่งรอเข้าเรียนคาบบ่าย พลับพลาก็โพล่งชื่อฉันอย่างแตกตื่นทำเอาทุกคนหันไปมองเจ้าตัว แถมทิชาที่นั่งโต๊ะติดกันก็มีสีหน้าตื่นเต้นไม่ต่างกัน
มีอะไรเหรอ? แล้วทำไมถึงอยากเป็นฉันกันล่ะ เตี้ยก็เตี้ย สูงแค่ร้อยห้าสิบเจ็ดเท่านั้น ฉันล่ะอยากสูงร้อยหกสิบอัพเหมือนคนอื่นเถอะ
“อะไรแก เรียกฉันทำไม”
“แกดูนี่ซะก่อน พี่เดย์พูดถึงแกได้โคตรแมน” ว่าแล้วพลับพลาก็ยื่นโทรศัพท์ให้ฉันด้วยใบหน้าฉาบด้วยสุข แววตาวิ้งวับราวกับเจอเรื่องดีมากในชีวิต
เชื่อมั้ยว่าชื่อของพี่เดย์ทำเอาฉัน พีช แก้มยุ้ยและเอมหันหน้าเข้าหากันทันที พี่เค้าพูดอะไรถึงฉัน? ทัวร์จะมาลงอีกมั้ยเมื่อถูกพูดถึงโดยหนุ่มหล่อโลกละลาย แค่คิดก็หวั่นใจแล้วจ้ะแม่!
“อะไรยังไง พี่เดย์ทำไรยะ” ลิซ่าวิ่งเข้ามามุง
“ขอคนสวยรู้ด้วยคน” เอมี่เข้ามาประชิดตัวเช่นกัน
ไม่ถึงหนึ่งนาทีเพื่อนในห้องต่างล้อมโต๊ะฉันอย่างรวดเร็ว ฉันเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมเอกมาถือไว้ด้วยความหวาดหวั่น เมื่อวานก็เพิ่งโดนรุ่นพี่ต่างคณะจิกกัดเรื่องพี่เดย์ ขออย่าให้มีอะไรแย่กว่านี้อีกเลย... ฝันหวานคนนี้ไม่อยากมีแผลเหวอะมากกว่าเดิม!
“แกกดคลิปเลย พี่เดย์เพิ่งให้สัมภาษณ์ในเพจ cute boy ของมหาลัยทั้งที่ปฏิเสธมาตลอด ถ้าไม่มีใจให้กัน หนุ่มหล่อคงไม่ทำแบบนี้แน่ อ๊าย!” พูดจบคนที่เร่งให้ฉันกดคลิปอย่างทิชาก็เขินตัวบิดซะงั้น
“กดเลยฝัน พวกฉันอยากรู้” เพื่อนๆ พากันพยักหน้ารัวๆ
ฉันเม้มปาก สูดลมหายใจเข้าปอด เตือนตัวเองอย่ากลัวมากไป ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าจอ แล้วก็ปรากฏเป็นสาวสวยในชุดนักศึกษากำลังถามเหมือนสัมภาษณ์ใครสักคนด้วยสีหน้าตื่นเต้น รอยยิ้มหวานมาก และคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่เดย์ตามที่ทิชาและพลับพลาบอกมานั่นล่ะ
“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ยอมให้สัมภาษณ์กับทางเพจของเราทั้งที่ปฏิเสธมาตลอด ต้องขอบคุณนะคะที่ยอมใจอ่อน และเหมือนเดิม... หนึ่งคำถามกับหนึ่งคำตอบภายในหนึ่งนาที หนุ่มหล่อโลกละลายของเรามีอะไรอยากบอกใครมั้ยคะ” จากนั้นกล้องก็แพลนมายังพี่เดย์ในชุดนักศึกษา พี่เดย์ยิ้มเล็กน้อย จากที่หล่ออยู่แล้ว ใบหน้าก็สว่างไสวขึ้นมาทำให้ดูหล่อกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
“ผมอยากบอกสาวๆ ใน ม. ครับ อยากให้เลิกตามบูลลี่น้องฝันหวานเอกญี่ปุ่น เป็นผมเองครับที่เป็นฝ่ายชอบน้อง เข้าไปจีบน้องเอง น้องไม่เคยตามตื๊อหรือเข้าหาผมก่อน สักครั้งก็ไม่เคย ถือว่าผมขอร้องนะครับ แต่ถ้ายังไม่เลิกทำให้น้องรู้สึกแย่ คงไม่ต้องบอกนะครับว่าคนอย่างผมทำอะไรได้บ้าง”
“อ๊าย! แมนมากพ่อเอ๊ย” สิ้นเสียงสัมภาษณ์ของพี่เดย์ เพื่อนๆ ในห้องต่างกรีดร้องด้วยสีหน้าขัดเขิน
ส่วนฉันนี่หน้าร้อนไปหมด ใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง เกิดอาการหูดับชั่วขณะ ที่เมื่อคืนบอกว่าอย่าโกรธกันเพราะให้สัมภาษณ์กับทางเพจของ ม.สินะ แสดงว่าพี่เดย์รู้เรื่องที่ฉันโดนตามจิกกัดจากสาวๆ ที่คลั่งไคล้ในตัวพี่เค้าก็เลยออกหน้าช่วยจัดการให้ แล้วประโยคสุดท้ายที่ทำหน้าจริงจังนั่น... ขนาดฉันดูยังรู้สึกขนลุกเลย พวกรุ่นพี่ที่กระแนะกระแหนฉันเมื่อวานเห็นเข้า ไม่สยองแย่เหรอ?
“ฝัน!” เสียงเรียกพร้อมกับมือของพลับพลาที่ยื่นเข้ามาเขย่ากันทำให้ฉันได้สติ
“หะ หือ” ฉันเบิกตาโตถาม เห็นเพื่อนทั้งเอกรวมถึงเพื่อนสนิทอย่างพีช แก้มยุ้ยและเอมกำลังมองมาด้วยสายตาล้อเลียน
“พี่เดย์เคยยอมรับว่าจีบแกที่ลานเกียร์มาหนนึงละ วันนี้พี่เค้าเปิดตัวยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าครั้งนั้นถึงขั้นพูดต่อหน้ากล้องยังไงคนทั้ง ม. ต้องได้เห็น เพราะงั้นแกเลิกปฏิเสธได้ละว่าไม่มีอะไร ผู้พูดขนาดนี้... แกต้องเตรียมคำตอบแล้วนะเว้ย” ทิชาว่าพลางเอาไหล่มาชนฉันเบาๆ มองกันด้วยสีหน้าทำนองแซว เล่นเอาฉันหน้าร้อนกว่าเดิม 10 ระดับได้
“ฮิ้ว!” เพื่อนคนอื่นต่างโห่เชียร์ก่อนจะแย่งกันออกความเห็นไม่หยุด ส่วนฉันทำได้แค่เพียงเม้มปากแน่น ตัวแทบแตกเพราะความเขิน
สรุปพี่เดย์จีบฉันจริงเหรอ! แล้วตอนรับน้องที่ลานเกียร์... ฉันจะปั้นหน้ายังไงถ้าเจอพี่เดย์เข้า! อะฮือ!
คนคลั่งรักเริ่มสเต็ปแรกแล้วค่ะ จากนี้จะเริ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ